สงครามคุกกี้เป็นเหตุ! ‘Crumbl Cookies’ ฟ้องคู่แข่ง ฐานก็อปปี้ผลิตภัณฑ์ ผิดคาด! ดันยอดขายคู่กรณีพุ่ง 50%

ขึ้นชื่อว่า ‘สงคราม’ ใคร ๆ ก็คงไม่อยากให้เกิด แต่หลาย ๆ ครั้งก็พบว่าแม้เราจะพยายามหลีกเลี่ยงมากแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจจะยับยั้งการเกิดสงครามได้ โดยสงครามที่ว่านี้ ไม่ได้หมายถึงแค่เพียงการสู้รบที่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงการปะทะกันในรูปแบบต่าง ๆ อีกด้วย อาทิเช่น สงครามการเมือง, สงครามการค้า หรือแม้แต่สงครามประสาท ที่ทำเอาคนที่เกี่ยวข้องต่างกุมขมับไปตาม ๆ กัน เพราะไม่ว่าจะเป็นสงครามในรูปแบบไหน ก็ล้วนแล้วแต่สร้างผลกระทบตามมาด้วยกันทั้งสิ้น

 

ในแง่ของธุรกิจก็เช่นกัน เมื่อการทำธุรกิจไม่ได้เป็นแค่เรื่องของการคิดค้นผลิตภัณฑ์ หรือการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าเท่านั้น แต่ยังต้องคอยสำรวจตลาด ทั้งในแง่ของการตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างตรงโจทย์ และการระมัดระวังไม่ให้เกิดข้อพิพาทในการประกอบกิจการ แต่จะเป็นอย่างไรเมื่อมีผู้ประกอบธุรกิจประเภทเดียวกัน ดันมีผลิตภัณฑ์ที่ละม้ายคล้ายกับของ ๆ เราขึ้นมา ก็คงต้องมีการเจรจาต่อรองเพื่อหาทางออกร่วมกัน หรือหากร้ายแรงกว่านั้น อาจถึงขั้นฟ้องร้องกันในที่สุด

 

ดังเช่นกรณีที่ทาง Business+ ได้หยิบยกมาในวันนี้ โดยเป็นเรื่องของ ‘สงครามคุกกี้’ เมื่อเจ้าของแบรนด์คุกกี้ขึ้นชื่อสัญชาติอเมริกันอย่าง ‘Crumbl Cookies’ ซึ่งมีร้านค้ามากกว่า 300 แห่งใน 36 รัฐ ของประเทศอเมริกา ได้ประกาศสงครามทางธุรกิจกับ ‘Dirty Dough’ แบรนด์คู่แข่งรายเล็กที่มีจำนวนร้านเพียง 6 แห่งในรัฐยูทาห์และฟลอริดา และ ‘Crave’ อีกหนึ่งแบรนด์คู่แข่งที่มีจำนวนร้านค้า 9 แห่งในรัฐยูทาห์และฟลอริดา ด้วยการฟ้องร้อง ‘Dirty Dough’ และ ‘Crave’ โดยอ้างว่าบรรจุภัณฑ์ การตกแต่ง และการนำเสนอสินค้าของร้านคู่แข่งทั้งสองแบรนด์นั้นมีความคล้ายกับของ ‘Crumbl’

 

และถ้าหากถามว่าเหตุใดการที่ ‘Crumbl’ ฟ้องร้องแบรนด์คู่แข่งจึงถือเป็นสงคราม? ก็คงต้องเล่าถึงการตอบโต้จากกรณีภายหลังจากถูกฟ้องร้อง

 

โดยคู่แข่งอย่าง ‘Dirty Dough’ ได้ทำการตอบโต้การฟ้องร้องร้านดังด้วยการโฆษณาเสียดสี ‘Crumbl’ ทั้งตัวโฆษณาแบบเคลื่อนไหว และการขึ้นป้ายโฆษณา สำหรับเนื้อหาในการโฆษณานั้น จะขอยกตัวอย่างในส่วนของการขึ้นป้ายที่มีประโยคว่า ”คุกกี้ดีมาก – เรากำลังถูกฟ้อง!”

 

ด้าน ‘เบนเน็ตต์ แม็กซ์เวลล์’ ผู้ก่อตั้ง ‘Dirty Dough’ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “มันเป็นสถานการณ์ที่งี่เง่า” พร้อมทั้งยกตัวอย่างเปรียบเทียบเชิงเสียดสีว่า ”ลองนึกภาพร้านพิซซ่า Homemade ที่มีคนส่งรูปพิซซ่าเป็ปเปอร์โรนีไปฟ้องศาล แล้วพูดว่าดูสิ พิซซ่าเปปเปอโรนีของคุณดูคล้ายกับของฉันจัง”

 

เช่นเดียวกับ ‘Trent English’ ผู้ร่วมก่อตั้ง ‘Crave’ ที่เชื่อว่าข้อกล่าวหาของ ‘Crumbl’ นั้นไม่เป็นความจริง พร้อมทั้งกล่าวว่า “ตราสินค้าของเราคือสีดำและสีทอง ขณะที่ตราของ ‘Crumbl’ คือ สีชมพูและสีดำ ส่วนโลโก้ของพวกเขาคือเชฟสวมหมวก ขณะที่โลโก้ของเราคือคุกกี้สองชิ้นทับซ้อนกัน ฉันไม่เห็นความสับสนเลย และคิดว่าคนส่วนใหญ่ก็สามารถแยกแยะได้”

 

ขณะที่ ‘Dyan Finguerra-Ducharme’ ทนายความด้านเครื่องหมายการค้าและหุ้นส่วนของ ‘Pryor Cashman’ ในนิวยอร์ก ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ เปิดเผยว่า “อาจเป็นเรื่องยากสำหรับ Crumbl ที่จะแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคเข้าใจผิดคิดว่าคุกกี้ของจำเลยนั้นมาจาก Crumbl”

 

อย่างไรก็ดี ภายหลังการฟ้องร้องจาก ‘Crumbl’ แทนที่จะทำให้ยอดขายของคู่แข่งทั้ง 2 แบรนด์ต่ำลง ตรงกันข้าม กลับทำให้ยอดขายพุ่งขึ้นมากกว่าเดิม โดย ‘Dirty Dough’ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่มีการฟ้องร้อง ได้เกิดเป็นกระแส ‘สงครามคุกกี้’ ขึ้นบนโซเชียลมีเดีย ส่งผลดีต่อธุรกิจเป็นอย่างมาก โดยพบว่ายอดขายเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นสองเท่า เช่นเดียวกับ ‘Crave’ ที่ได้เปิดเผยว่า บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น 50% นับตั้งแต่ถูก ‘Crumbl’ ฟ้องร้อง

 

สำหรับ ‘Crumbl’ นั้น เป็นร้านคุกกี้สัญชาติอเมริกัน ก่อตั้งโดย ‘Jason McGowan’ (CEO) และ ‘Sawyer Hemsley’ (COO) ที่ได้ร่วมมือกันปลุกปั้นธุรกิจเป็นของตัวเอง โดยเริ่มต้นจากความฝันอันยิ่งใหญ่ของลูกพี่ลูกน้องสองคนที่มีความคลั่งไคล้ในขนมคุกกี้ ซึ่งได้เริ่มจากการทดลองทำคุกกี้ในรสชาติต่าง ๆ ด้วยตัวเอง และหลังจากเสียเงินหลายพันดอลลาร์ไปการทดลองทำจนได้คุกกี้ที่สมบูรณ์แบบแล้ว สองพี่น้องก็ได้นำคุกกี้เหล่านั้นไปมอบให้กับผู้คนเพื่อสำรวจความพึงพอใจ และได้รวบรวมข้อเสนอแนะต่าง ๆ จากผู้ที่ได้ชิมมาทดลองสูตรใหม่ ๆ เพิ่มเติม จนกระทั่งสามารถผลิตคุกกี้ช็อกโกแลตชิปที่ดีที่สุด และถือเป็น Signature ของ ‘Crumbl’ ได้สำเร็จ และได้เปิดร้านแห่งแรกในเมืองโลแกน รัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกา ได้สำเร็จในปี 2017

 

ด้านรายได้ของ ‘Crumbl’ ในปี 2020 มีรายได้สุทธิอยู่ที่ 2,564,488 ดอลลาร์สหรัฐ และได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างถล่มทลายในปี 2021 ด้วยรายได้สุทธิจำนวน 22,424,381 ดอลลาร์สหรัฐ จากชื่อเสียงและจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น ส่วนในปี 2022 ซึ่งมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น ทาง ‘Crumbl’ จะยังคงรักษาการเติบโตของรายได้ไว้ได้มากน้อยเพียงใด คงต้องติดตามกันต่อไป

 

เขียนและเรียบเรียง : เพชรรัตน์ แสงมณี

 

ที่มา : CNBC, crumblcookies, Vetted Biz

 

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.thailand/

 

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #CrumblCookies #Crumbl #DirtyDough #Crave #สงครามคุกกี้