“ช้าง โคลด์ บรูว์”ทุ่มงบกว่า 1,000 ล้าน เสริมความแข็งแกร่งสร้างแบรนด์ที่แตกต่าง พร้อมสู้ศึกตลาดเบียร์แมสพรีเมียมมูลค่า 25,000 ล้าน

คุณเลสเตอร์ ตัน ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดสายธุรกิจเบียร์ประเทศไทย บริษัท ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เผยว่า “ในปี 2565 ที่ผ่านมา เบียร์แมสพรีเมียมเป็นเซกเมนต์ที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้วยมูลค่าตลาด 25,000 ล้านบาท และอัตราการเติบโตที่สูงถึง 10% โดยผลิตภัณฑ์ช้าง โคลด์ บรูว์ ถือได้ว่าขับเคลื่อนตลาดอย่างแท้จริง จากการประสบความสำเร็จอย่างสูง คว้าตำแหน่งการเติบโตอันดับ 1 ในบรรดาเบียร์ที่เปิดตัวใหม่ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา”

โดยในปี 2566 นี้ช้าง โคลด์ บรูว์ ยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมและเสิร์ฟประสบการณ์ความชิลในทุกรูปแบบ ซึ่งเน้นขยายฐานผู้บริโภค จับกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ เพื่อสร้างประสบการณ์การดื่มที่น่าจดจำและประทับใจให้กับผู้บริโภค และเพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์โอกาสการดื่มที่หลากหลายมากขึ้นในปัจจุบัน ที่ไม่เพียงแต่ดื่มเฉพาะโอกาสพิเศษในงานเลี้ยงฉลอง และรวมถึงการเจาะกลุ่มเป้าหมาย Low Energy ที่อยากดื่มเบียร์ในบรรยากาศสบาย ๆ ชิล ๆ

ทั้งนี้ เพื่อตอกย้ำกลยุทธ์สร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ ไทยเบฟได้มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ผ่านกระบวนการผลิตเบียร์ที่พิเศษไม่เหมือนใคร โดยเป็นเบียร์แบรนด์แรกและแบรนด์เดียวในประเทศไทยที่ผลิตจากมอลต์ 100% ผ่านกระบวนการผลิตโคลด์บรูว์ที่พิเศษด้วยการกรองในอุณหภูมิต่ำกว่าลบ 2 องศา (Sub-Zero Filtration) จึงได้เบียร์ที่มีรสชาตินุ่ม สดชื่น ดื่มง่าย หอมมอลต์แบบชัดเจน

นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ โดยในปีที่ผ่านมาช้าง โคลด์ บรูว์ ประสบความสำเร็จอย่างมากและได้กระแสตอบรับอย่างดีจากเบียร์สดถัง 5 ลิตร และมีแผนที่จะออกนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์รูปแบบใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 นี้อีกด้วย

โดยคุณเลสเตอร์ ยังกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า “เราได้ทุ่มงบมากกว่า 1,000 ล้านบาทเพื่อผลักดันช้าง โคลด์ บรูว์ ในการสร้างประสบการณ์การดื่มที่น่าประทับใจและเป็นที่จดจำสำหรับผู้บริโภค โดยในปี 2566 จะเร่งการเติบโตของช้าง โคลด์ บรูว์ ในทุกช่องทาง พร้อมทั้งมีแผนจะจัดกิจกรรมทางดนตรีและคอนเสิร์ตทั้งในประเทศและระดับสากลตลอดทั้งปี โดยตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งสัดส่วนพอร์ตเบียร์แมสพรีเมียมของช้างเป็น 15% ภายในปีนี้”