4 คอลเลคชั่นใหม่จากคาร์เทียร์
อัปเดตนาฬิการุ่นใหม่จากแบรนด์นาฬิกาคาร์เทียร์ ตั้งแต่รุ่นกลไกเชิงเทคนิคจนถึงเรือนเวลาสุดคลาสสิกกับ 4 คอลเลคชั่นใหม่ที่น่าจับตามอง
เริ่มจากคอลเลคชั่นแรก CARTIER PRIVÉ เป็นหนึ่งในเรือนเวลาที่ทรงเกียรติสูงสุดของเมซง นำเสนอในรูปแบบร่วมสมัยที่ได้รับการดีไซน์ใหม่ ผสานความเชี่ยวชาญเข้ากับฝีมือช่างชั้นสูง เพื่อคงเอกลักษณ์สำคัญของจักรกลคาลิเบอร์ 1928 MC ที่ตกแต่งผิวสัมผัสอย่างงดงามเหนือระดับ ความโค้งมนของตรา Côte de Genève ช่วยขับเน้นรูปทรงของสะพานให้โดดเด่น ทั้งเลเวอร์ ลานสปริง และเฟืองสะพาน ล้วนมาในดีไซน์ลาดเอียง แต่งผิวโลหะแบบปัดด้าน ส่วนตัวจักรและบาร์เรลตกแต่งขอบอย่างประณีต รวมถึงการเล่นกับความแตกต่างระหว่างวงจับเวลาสีฟ้า หน้าปัดโอพาลีนสีเงิน ตัวเลขโรมันผิวสัมผัสโรเดียม ทำให้ได้ผลลัพธ์เป็นเรือนเวลาที่ถ่ายทอดความกลมกลืนเชิงสีสันระหว่างแพลทินัมกับทับทิมคาโบชง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคาร์เทียร์ โดยรุ่นนี้ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 200 เรือน พร้อมหมายเลขกำกับ
ถัดมาคือรุ่น Animal Jewellery Watches โดยปีนี้เป็นการผสมผสานระหว่างม้าลายและจระเข้ ประดับอัญมณีเต็มตัวเรือน โดดเด่นด้วยลายเรขศิลป์และลวดลายจากธรรมชาติ การรังสรรค์แถบลายแต่ละแถบใช้วิธีลงแลคเกอร์ด้วยมือ ซิลลูเอ็ทของสัตว์ลูกผสมในจินตนาการตวัดรอบหน้าปัดรูปเพชร (ทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน) โอบล้อมไว้อย่างแนบชิด ขณะที่ความประณีตของงานแกะสลักรอบเม็ดพลอยแต่ละเม็ด สะท้อนให้เห็นความเชี่ยวชาญของเมซง
“ผลงานใหม่เหล่านี้เข้ามาเพิ่มความหลากหลายให้เรือนเวลาลายสรรพสัตว์ของคาร์เทียร์ และไม่ว่าจะเป็นสไตล์เหมือนจริงหรือนามธรรม สมจริงหรือเหนือจินตนาการ ก็ล้วนถ่ายทอดความงามของธรรมชาติออกมาให้เห็น ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ธีมนี้ได้ผ่านการรังสรรค์ขึ้นใหม่ นับเป็นการสำรวจสุนทรียะที่ทรงคุณค่าและเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก ตลอดจนพลังในเชิงสัญลักษณ์” ปิแอร์ ไรเนโร ผู้อำนวยการฝ่ายภาพลักษณ์ สไตล์ และมรดกคาร์เทียร์
คอลเลคชั่น 3 คือ REFLECTION DE CARTIER คือ การผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านรูปทรงของคาร์เทียร์ ได้ผลลัพธ์เป็นเรือนเวลาที่ผนวกความเชี่ยวชาญของช่างนาฬิกาและช่างจิวเวลรีของเมซง โดยมีจุดเริ่มต้นจากสายนาฬิกาทรงกำไลที่มีขนาดใหญ่กว่าครั้งใด ๆ และโดดเด่นด้วยลวดลายทองฉลุ สลับกับทองคำขัดเงาผิวกระจก ด้วยเส้นสายที่เหยียดยาวและขอบที่คมชัด แรงตึงในเส้นสายบรรจบลงที่หน้าปัดนาฬิกา ประสานกับภาพสะท้อนของหน้าปัดราวกับกาลเวลากำลังเดินถอยหลัง กระจกหน้าปัดแบบลาดเอียงสร้างความพราวตาดุจอัญมณี เน้นย้ำอัตลักษณ์ของเรือนนาฬิกาที่ทรงไว้ซึ่งความประณีตและภูมิฐานอย่างสมดุล และโครงสร้างนี้ได้ก่อกำเนิดเรือนเวลาไวท์โกลด์ ตกแต่งด้วยวัสดุหลากหลาย เมื่อจับคู่กับการฝังอัญมณีแบบต่าง ๆ เช่น การฝังแบบสโนว์เซตติ้งคู่กับ Inverted Setting จึงได้ผลลัพธ์ที่แพรวพราวดึงดูดใจทั้งยามมองและยามสัมผัส
ปิดท้ายที่คอลเลคชั่น SANTOS DE CARTIER และ SANTOS-DUMONT ซึ่งคอลเลคชั่นนี้เป็นที่สุดในด้านการใช้งาน สายนาฬิกาทุกเวอร์ชันมาพร้อมสายสตีลและสายหนังที่ถอดเปลี่ยนง่ายด้วยระบบ QuickSwitch ซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตรกลไกล่องหนและไร้รอยต่อ ผสานกลมกลืนอย่างลงตัวกับสถาปัตยกรรมตัวเรือน สายแบบโลหะสามารถปรับความยาวได้ใกล้เคียงขนาดข้อมือมากที่สุด ด้วยระบบปรับขนาด SmartLink ที่ไม่ต้องใช้เครื่องมือ และได้รับการจดสิทธิบัตรอันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ การเปลี่ยนวิถีแห่งเวลาคือเป้าหมายสูงสุดทั้งในเชิงเทคนิคและสุนทรียะของ Santos-Dumont Rewind ประดิษฐกรรมเวลาที่ได้รับการรังสรรค์ขึ้นใหม่ทั้งเรือน
หน้าปัดคาร์เนเลียนดูเด่นสะดุดตาแต่แรกเห็น และเมื่อพิจารณาลึกลงไปก็ยิ่งเห็นความแตกต่างที่เป็นเอกลักษณ์ของเรือนเวลาแพลทินัมรุ่นลิมิเต็ด นั่นคือตัวเลขโรมันที่เรียงทวนเข็มนาฬิกา พลิกขนบการบอกเวลาไปอย่างสิ้นเชิง การประดิษฐ์เรือนเวลารุ่นลิมิเต็ดด้วยความสร้างสรรค์ไม่ซ้ำใคร เปรียบเสมือนการเดินตามรอยอันเปี่ยมมนตร์ขลังและไม่ซ้ำแบบใคร ของยอดนักบิน อัลแบร์โต ซานโตส-ดูมงต์ ผู้ทำให้ทุกสิ่งเป็นไปได้เสมอ โดยเข็มนาฬิการูปทรงแอปเปิล พร้อมกลไกไขลานกลับด้าน คาลิเบอร์ 320 MC ขับเคลื่อนให้เข็มเดินถอยหลังแทนที่จะเดินไปข้างหน้าอย่างนาฬิกาทั่วไป นาฬิกาไร้กาลเวลารุ่นนี้ ถ่ายทอดความสง่างามของรุ่นออริจินัลปี 1904 และจิตวิญญาณนักบุกเบิกของซานโตส-ดูมงต์ได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน ดังจะเห็นได้จากการสลักลายเซ็นของซานโตส-ดูมงต์ ทั้งแบบปกติและแบบกลับด้าน ไว้ด้านหลังหน้าปัด ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 200 เรือน พร้อมหมายเลขกำกับ
Writer : วิทยา กิจชาญไพบูลย์
ติดตามผ่าน TikTok ได้ที่ : https://www.tiktok.com/@thebusinessplus
Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
#TheBusinessPlus #Businessplus #BusinessPlus #นิตยสารBusinessplus