ธุรกิจประกันภัยต้องปรับตัวอย่างไร? เรียนรู้ผ่าน ‘กรุงเทพประกันภัย’ ที่มีวิศวกรประเมินความเสี่ยงมากที่สุดในประเทศ

หนึ่งในบริษัทประกันภัยที่มีความมั่นคงทางการเงินสูง รวมถึงมีความโดดเด่นในแง่ของการวางแผนป้องกันความเสี่ยงภัยให้ลูกค้าเป็นอย่างมากคือ ‘กรุงเทพประกันภัย’ ด้วยความที่บริษัทแห่งนี้ให้ความสำคัญกับการประเมินความเสี่ยงจนกลายเป็นบริษัทที่มีวิศวกรประเมินความเสี่ยงประกันภัยมากที่สุดในประเทศ ทำให้สามารถเพิ่ม Value Added ให้กับแบรนด์ และกลายเป็นประกันภัยที่ได้รับความไว้วางใจเป็นอย่างมากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยเบี้ยประกันภัยรับรวมช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 อยู่ที่ 12,350.1 ล้านบาท เติบโต 2.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 และยิ่งโดดเด่นเมื่อเทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรมประกันภัยเติบโตราว 2.3% ถึงแม้ว่าจะมีผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนของปี 2565 (ม.ค.-มิ.ย.) ขาดทุนสุทธิ 2,157.3 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขาดทุนที่สูงที่สุดตลอดการดำเนินธุรกิจของกรุงเทพประกันภัยในช่วง 75 ปีที่ผ่านมา แต่สาเหตุที่ทำให้ผลการดำเนินงานขาดทุนเป็นเพราะมีค่าสินไหมทดแทนจากประกันสุขภาพ COVID-19 เป็นหลัก แต่ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับประกันภัยสุขภาพของบริษัทรายอื่นในกลุ่มอุตสาหกรรม

ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยกับ ‘Business+’ ว่า เบี้ยประกันรับรวมของบริษัทฯ ยังเติบโตมากกว่ากลุ่มอุตสาหกรรมสาเหตุเป็นเพราะผลิตภัณฑ์ประกันภัยเกือบทุกหมวดเติบโตดีขึ้น โดยเฉพาะประกันภัยรถยนต์ซึ่งถือว่ามีผลการเติบโตสูงที่สุด โดยในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาเติบโตราว 15% สูงกว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ภาพรวมที่เติบโตประมาณ 5% นอกจากนี้ช่วง COVID-19 ที่ผ่านมา ทำให้บริษัทประกันภัยอย่างน้อย 4 บริษัทขาดสภาพคล่องทางการเงิน และล้มเลิกกิจการไป

ดังนั้นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ที่ 4 บริษัทเหล่านี้เคยรับประกันภัยไว้รวมแล้วกว่า 1 หมื่นล้านบาทจึงถูกกระจายออกมาสู่บริษัทที่ยังคงอยู่ในอุตสาหกรรม ซึ่งกรุงเทพประกันภัยถือเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับอานิสงค์จากผลพวงการโยกย้ายประกันภัยรถยนต์เหล่านี้

นอกจากนี้จากการที่โดยปกติแล้วกรุงเทพประกันภัยยังมีเบี้ยประกันภัยรถยนต์สูงกว่าบริษัทอื่น ๆ ในระดับหนึ่ง ดังนั้น จากพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเริ่มมีความเปราะบางจากราคาลดลงเพราะได้รับประสบการณ์ที่ผ่านมาว่าเวลาซื้อประกันด้วยเบี้ยประกันราคาถูก สิ่งที่ได้รับผลกระทบคือการบริการที่ไม่อาจเป็นไปตามที่คาดหวัง และหลายบริษัทเริ่มมีฐานะทางการเงินที่ไม่มั่นคง จึงทำให้ลูกค้าเกิดความกังวลใจ ดังนั้นปัจจุบันลูกค้าประกันภัยจึงพร้อมที่จะจ่ายแพงขึ้นแต่ได้รับบริการที่ดีขึ้นจึงทำให้กรุงเทพประกันภัยกลายเป็นใน 1 เป้าหมายที่ได้รับการโอนประกันภัย นอกจากนี้ประกันอัคคีภัยก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เติบโตตามสินเชื่อที่อยู่อาศัยซึ่งมีการประเมินว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยปีนี้จะเติบโตราว 2.5% เป็นผลให้เบี้ยประกันภัย อัคคีภัยที่เข้าไปคุ้มครองสินเชื่อที่อยู่อาศัยเหล่านี้ก็เติบโตราว 3-4%

แกะจุดแข็ง ‘กรุงเทพประกันภัย’
สำหรับจุดแข็งของ กรุงเทพประกันภัยที่ ‘Business+’ เห็นอย่างชัดเจน คือ ความมั่นคงทางการเงินที่อยู่ในระดับสูงมาก หากมองดูในเชิงของสินทรัพย์สภาพคล่อง กรุงเทพประกันภัยมีสินทรัพย์สภาพคล่องสูงกว่าหนี้สินต่างๆ ถึง 5 เท่าตัว ขณะเดียวกันความเพียงพอของเงินดำรงกองทุนของกรุงเทพประกันภัยก็สูงเกินมาตรฐาน โดยมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินดำรงกองทุนอยู่ที่ 190% (ณ สิ้นเดือนมิ.ย.2565) เหนือกว่าที่คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ระบุเอาไว้ขั้นต่ำที่ 140% ปัจจัยเหล่านี้ได้สะท้อนความมั่นคงทางการเงินที่สูงและมากพอ ซึ่งทำให้เชื่อถือได้ว่าหากผ่านพ้นการประกันภัย COVID-19 อย่างสมบูรณ์แล้ว บริษัทแห่งนี้จะไม่มีค่าสินไหมที่เกิดจาก COVID-19 อีกต่อไป ดังนั้น จากนี้ไปจนถึงสิ้นปีอุตสาหกรรมก็จะฟื้นตัวดีขึ้น และจะกลับมาแข็งแรงยิ่งกว่าเดิม

ผลิตภัณฑ์ที่จะเป็น Growth Engine ของกรุงเทพประกันภัย
เมื่อถามถึงผลิตภัณฑ์ที่จะเป็น Growth Engine ของกรุงเทพประกันภัย ดร.อภิสิทธิ์ กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์จะมีการเติบโตค่อนข้างสูง โดยคาดการณ์ว่าสิ้นปี 2565 จะได้เห็นการเติบโตถึง 15-20% และปี 2566 จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง สาเหตุมาจากความเปราะบางต่อราคาของลูกค้าที่ลดน้อยลง และความมั่นคงของกรุงเทพประกันภัยที่จะทำให้ลูกมั่นใจและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท นอกจากนี้กรุงเทพประกันภัยยังมีผลิตภัณฑ์ที่รองรับทิศทางประกันภัยรถยนต์ที่จะถูกเปลี่ยนถ่ายจากรถยนต์สันดาปไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า จากแผนการเข้าไปรับประกันภัยรถที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถที่มีมูลค่าสูง อย่างพวกรถยนต์ Luxury

และยังมีอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่จะเห็นการเติบโตขึ้น คือ Personal Cyber Insurance และ Corporate Cyber Insurance เนื่องจากปัจจุบันมีการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์มากขึ้น ซึ่งทำให้เกิดอาชญากรรมออนไลน์สูงขึ้นตามไปด้วยดังนั้น โดยกรุงเทพประกันภัยจึงออกแบบผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าทั้งส่วนบุคคลและระดับองค์กร

‘กรุงเทพประกันภัย’ บริษัทที่มีวิศวกรประเมินความเสี่ยงภัยมากที่สุดในประเทศ
ปัจจุบันกรุงเทพประกันภัยเป็นบริษัทที่มีวิศวกรประเมินความเสี่ยงประกันภัยมากที่สุดในอุตสาหกรรมประกันภัยของไทย ด้วยจำนวนวิศวกรมากถึง 26 คน และยังมีเป้าหมายที่จะเพิ่มวิศวกรให้ถึง 30-35 คน

โดยที่พนักงานทำหน้าที่สำรวจภัยของกรุงเทพประกันภัยทุกคนมีพื้นฐานเป็นวิศวกร โดยกรุงเทพประกันภัยได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก เนื่องจากมองว่าเป็นสิ่งที่ทำให้บริษัทฯ สามารถเข้าไปรองรับความเสี่ยงให้กับลูกค้าได้หลากหลายอุตสาหกรรม เนื่องจากทุกองค์กรต่างไม่ต้องการให้เกิดความเสียหาย ดังนั้น กรุงเทพประกันภัยจึงให้ความสำคัญและใส่ใจกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในทุกด้านเนื่องจากเจ้าของธุรกิจอาจจะไม่สามารถรับรู้ถึงทุกความเสี่ยง และบริหารความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้

ดังนั้น บริษัทประกันภัยจึงต้องเรียนรู้ที่จะป้องกัน ใส่ใจความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงให้ความสำคัญกับสิ่งที่ต้องปรับปรุง หรือป้องกันความเสียหาย ด้วยการส่งวิศวกรประเมินความเสี่ยงเข้าไปสำรวจและออกรายงานผลของภัยที่อาจเป็นความเสี่ยงขององค์กรนั้นๆ ให้เจ้าของธุรกิจทราบ การประเมินความเสี่ยงอย่างทั่วถึงและรอบคอมจะทำให้รู้ว่าสิ่งไหนเป็นความเสี่ยงที่อาจสร้างความเสียหายได้ในอนาคต

“เรามองว่าการประเมินความเสี่ยงเป็นการสร้าง Value added ให้กับแบรนด์ ถึงแม้หลายองค์กรไม่ได้เป็นลูกค้าของเราแต่เราพร้อมจะส่งไปช่วยสำรวจให้ ช่วยทำ Risk report ให้เจ้าของธุรกิจ ซึ่งเป็นคุณค่าอย่างแท้จริงที่จะเข้าไปตอบโจทย์บริหารความเสี่ยงในภาคของประกันภัยที่มีต่อสังคม” ดร.อภิสิทธิ์ กล่าว

เป้าหมายของกรุงเทพประกันภัย
เป้าหมายของกรุงเทพประกันภัยในปี 2565 คือ การมีเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 26,000 ล้านบาท หรือมีการเติบโตราว 7% ซึ่งสูงกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมที่ถูกประเมินว่าจะเติบโตราว 2-3% ขณะที่เทรนด์ของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับ BCG (Bio Circular Green) ที่รองรับด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ภายใน 5-6 ปีจะมีมูลค่าอุตสาหกรรมสูงถึงแสนล้านบาท ซึ่งกรุงเทพประกันภัยได้ออกแบบผลิตภัณฑ์มีการพัฒนาบริหารความเสี่ยงเอาไว้เพื่อรองรับ และเป็นตัวสะท้อนว่าวิศวกรสำรวจภัยของกรุงเทพประกันภัยได้เรียนรู้ ได้รับการฝึกให้รอบรับความเสี่ยงของอุตสาหกรรมเหล่านี้ เพราะฉะนั้นกรุงเทพประกันภัยจะเป็นประกันภัยเจ้าแรก ๆ ที่สามารถรองรับความต้องการในอุตสาหกรรมนี้ได้

ที่มา : exclusive interview , BKI

เขียนและเรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/o9fQ6fA
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #BKI #ธุรกิจประกันภัย #ประกันภัย