ถอดกลยุทธ์บริหาร Bernard Arnault เจ้าของอาณาจักรแบรนด์หรู LVMH

สินค้าแบรนด์หรูถูกจัดอยู่ในหมวด ‘สินค้าฟุ่มเฟือย’ โดยสะท้อนให้เห็นแล้วว่าสินค้าเหล่านี้ไม่ได้เป็นเท่าสินค้าที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ในทางกลับกันสินค้าแบรนด์หรูกลับมีความต้องการสูง และเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ

และเราจะเห็นได้ว่าหลายปีที่ผ่านมามหาเศรษฐีอันดับที่ 3 ของโลกอย่างคุณ Bernard Arnault ผู้บริหารเครือแบรนด์หรู LVMH เจ้าของ louis Vuitton, christian dior, celine และอื่น ๆ กลับทำให้มูลค่าของบริษัทเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แม้ในวันที่โลกต้องเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจก็ตาม ความต้องการต้องแบรนด์หรูก็ยังคงมากกว่าสินค้าที่มีอยู่ดี

คำถามต่อมา คือ แล้วนักธุรกิจระดับโลกคนนี้มีกลยุทธิ์อะไรที่ทำให้บริษัทของตนมูลค่าสูงขนาดนี้?

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักคุณ Bernard Arnault กันสักเล็กน้อย โดยช่วงชีวิตวัยทำงานของเขาเริ่มต้นจากเป็นวิศวกรและนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในบริษัทของครอบครัว ซึ่งเขาก็ไม่หยุดทีจะค้นคว้าและมองหาธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อครอบครองกิจการและสร้างมูลค่าให้กับมัน

โดยในปี 1984 คุณ Arnault ได้เริ่มเข้าซื้อธุรกิจผ้าที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศส ซึ่งภายในบริษัทนั้นก็มีแบรนด์ House of Dior ร่วมอยู่ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าเป็นแบรนด์ที่เขาอยากครอบครองอยู่นานแล้ว ภายหลังจากนั้นทำให้เขาเริ่มมีเป้าหมายที่จะลงทุนในธุรกิจสินค้าฟุ่มเฟือยมากขึ้น ด้วยการขายสินทรัพย์อื่น ๆ ที่ตนมีเพื่อนำเงินมาลงทุนสิ่งใหม่

จนกระทั่งในปี 1987 Louis Vuitton ได้เข้าร่วม LVMH ภายใต้การบริหารของคุณ Arnault ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ได้ควบรวมกิจการกับแบรนด์ดังต่าง ๆ และสินค้าฟุ่มเฟือยหลากหลายชนิด ทำให้ในปัจจุบันแบรนด์สินค้าในเครือ LVMH มีมากถึง 75 แบรนด์และแบ่งออกเป็น 6 หมวดดังนี้

  • Wines & Spirits
  • Fashion & Leather Goods
  • Perfumes & Cosmetics
  • Watches & Jewelry
  • Selective retailing
  • Other activities

จะเห็นได้ว่าหมวดสินค้าที่มีก็หลากหลายขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้ต้องยอมรับว่าระยะเวลาเกือบ 40 ปีที่ LVMH ดำเนินธุรกิจมาจนชื่อเสียงดังไปทั่วโลก การที่จะพาบริษัทมาถึงจุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย

 

แล้วกลยุทธ์บริหารฉบับคุณ Bernard Arnault เป็นอย่างไร?

 

เริ่มจาก “นำความเชี่ยวชาญทางธุรกิจและความคิดสร้างสรรค์สร้างความสมดุลทางการเงิน”

 

แน่นอนว่าธุรกิจ LVMH เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งกลุ่มลูกค้าก็จะไม่ได้ทุกกลุ่มในโลกขนาดนั้น ทำให้ คุณ Arnault จำเป็นต้องรู้จักธุรกิจที่ตนดำเนินอยู่ในมากที่สุด และมความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ออกมาตอบโจทย์ลูกค้าหลัก ซึ่งเมื่อเราเข้าใจธุรกิจดีกว่าใครก็จะสามารถควบคุมงบประมาณและต้นทุนทางการเงินในธุรกิจ พร้อมทั้งยังช่วยให้วางแผนการลงทุนเพื่อต่อยอดได้ง่าย

“ทำให้ทุกแบรนด์กลายเป็นดาวเด่น”

louis Vuitton, christian dior, celine, tiffany & co., sephora และอื่น ๆ อีกมากมายของ LVMH ล้วน ‘ไร้กาลเวลา ทันสมัย เติบโตเร็ว และทำกำไรได้สูง’ เพราะแบรนด์เหล่านี้เป็นที่รู้จักของคนทั้งโลก ไม่ว่าจะกลุ่มลูกค้ากลุ่มไหน ๆ ก็มั่นใจในตัวสินค้าจากแบรนด์ทั้งนั้น หรือดูได้จากการที่คนทั่วไปซื้อกระเป๋ารุ่นฮิตมาเพื่อเก็งกำไรขายต่อ หรือแม้แต่กระเป๋าเก่าหลายปีของแบรนด์ดังกล่าวก็ยังคงมีราคาอยู่เสมอ ซึ่งนี่เป็นกลยุทธ์ปั้นแบรนด์ให้กลายเป็นดาวเด่นแบบที่คุณ Arnault วางไว้

“ควบคุมต้นทุนด้วยการทำงานร่วมกันภายในบริษัท”

คุณ Arnault ได้นำแบรนด์ที่มีในบริษัทมาใช้ผลิตสินค้าแบรนด์อื่น ๆ แตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่นการผลิตน้ำหอม Kenzo ที่การผลิตมาจาก Givenchy หรือแม้แต่แบรนด์ Guerlain (เครื่องสำองค์) ที่เป็นผู้คิดค้นน้ำหอมให้ louis Vuitton ขวดแรก

“ใช้ความคิดสร้างสรรค์สร้างแบรนด์ให้ทันยุคสมัย”

เขาได้จ้างนักออกแบบรุ่นใหม่ที่อยู่เสมอ โดยไม่ปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์ เพื่อหวังให้ออกสินค้าให้เข้ากับยุคสมัยนั้น ๆ แต่ก็มีความทันสมัยใหม่ ดูเป็นแฟชั่นรุ่นใหม่ เห็นได้จากแบรนด์ Céline ที่มี LISA BLACKPINK เป็น brand ambassador เพราะก่อนหน้านั้นภาพจำของ Céline มีความผู้ใหญ่เข้าถึงยาก แต่ในปัจจุบันกลับกลายเป็นแบรนด์ที่ทุกกลุ่มทุกวัยให้ความสนใจ

และนี่ก็เป็นเพียงกลยุทธ์สำคัญในการทำธุรกิจฉบับของคุณ Bernard Arnault เท่านั้น ในปัจจุบันมูลค่าของ LVMH ก็สูงถึง 395.389 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แทรงหน้าบริษัทแบรนด์หรูคู่แข่งทั้งหมไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งกว่าจะมาถึงวันนี้เส้นทางการดำเนินธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะกับการที่เราควรรู้จักธุรกิจของเราให้ดีเสียก่อน พร้อมทั้งใช้ความคิดสร้างสรรค์ ควบคุมงบประมาณ และไม่หยุดนิ่งที่จะเติบโต สักวันหนึ่งเราจะประสบความสำเร็จดั่งหวังแบบที่มหาเศรษฐีระดับโลกคนนี้ยืนอยู่

ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ คุณ Bernard Arnault ได้แต่งตั้งลูก ๆ เป็น CEO หลากหลายแบรนด์ในเครือ LVMH อาทิ คุณ Delphine Arnault ขึ้นเป็น CEO ให้กับ Dior, Frédéric Arnault ขึ้นเป็น CEO ให้กับ TAG Heuer

 

ที่มา : LVMH, Investopedia, rfi

เขียนและเรียบเรียง : อโญศิริ สุระตโก

.

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

.

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.thailand/

.

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #BernardArnault #LVMH #Arnaultfamily #Dior #louisVuitton