‘บีซีเอช เวนเจอร์ส’ พร้อมทุ่มลงทุนธุรกิจ StartUp Deep Technology สร้างนวัตกรรมต่อยอดธุรกิจในกลุ่มบริษัทเบญจจินดา

บีซีเอช เวนเจอร์ส เปิดวิสัยทัศน์การลงทุน  พร้อมทุ่มเงินลงทุนธุรกิจ StartUp เลือกกองทุน SeaX Ventures  เพื่อซีนเนอร์จี้  ธุรกิจในกลุ่มเบญจจินดา มอง Deep Technology  ในสหรัฐฯ มั่นใจการเติบโตของกลุ่มเทคโนโลยีในระดับโลกที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

คุณพิรชัย เบญจรงคกุล Investment Director บริษัท บีซีเอช เวนเจอร์ส จำกัด ( BCH Ventures ) ในกลุ่มบริษัทเบญจจินดา กล่าวว่า บีซีเอช เวนเจอร์ส  มีวิสัยทัศน์การลงทุนในกองทุนที่มีศักยภาพผลตอบแทนที่ดี ลงทุนในการต่อยอดเทคโนโลยี  จากธุรกิจดิจิทัล เทคโนโลยี การสื่อสาร โทรคมนาคม   ด้วยการขยายการลงทุนในกลุ่มนวัตกรรม หาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ  เพื่อเพิ่มศักยภาพ มูลค่าของการให้บริการที่มีอยู่เดิม โดยลงทุนในส่วน e-Commerce Platform , ระบบ Automation    และ Robotics,  IoT, Big Data และ Blockchain

โดยให้ความสนใจการลงทุนในธุรกิจ Deep Technology ในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเป็นกลุ่ม StartUp ที่ประสบความสำเร็จและมีผลการดำเนินการที่เติบโต และดีที่สุดในโลก  จากสถิติใน 2-3 ปีที่ผ่านมา กลุ่ม Deep Technology     ในสหรัฐฯ ยังคงเติบโตในอัตราระหว่าง  15 – 20 %  ขณะที่ GDP อัตราการเติบโตอยู่ที่ 2-3% ต่อปี

ขณะเดียวกัน บีซีเอช เวนเจอร์ส ให้ความสนใจทุนในอุตสาหกรรมที่สามารถให้ผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ แม้ในสถานการณ์ช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19   เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร รวมถึงสนใจลงทุนในบริษัทที่เตรียมตัวเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า

คุณพิรชัย กล่าวว่า ล่าสุดนี้  บีซีเอช เวนเจอร์ส ได้ลงทุนในกองทุน “ Southeast Asia  Exponential Ventures ” หรือ SeaX  Ventures  มีเป้าหมายการลงทุนในกลุ่ม Deep Technology   ด้วยประสบการณ์ผู้บริหารกองทุนที่มีประสบการณ์ อย่างเช่น น.พ.ศุภชัย ปาจริยานนท์ รวมทั้งผลการดำเนินงานในการบริหารกองที่ผ่านมาจะต้องประสบความสำเร็จ ซึ่งกองทุน SeaX ตอบโจทย์เกณฑ์การลงทุนของกลุ่มได้  เนื่องจากที่ผ่านมาสามารถ exit  บริษัทได้แล้ว  1 แห่ง คือ บริษัท Brand Protocol  จากการขายในตลาด IEO  บางส่วน โดยมีผลตอบแทน IRR เท่ากับ 307.5 %

“บีซีเอช เวนเจอร์ส ลงทุนในกองทุนด้านเทคโนโลยีเป็นส่วนใหญ่ตั้งแต่เริ่มดำเนินกิจการ เนื่องจากเทคโนโลยี เป็นสิ่งที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ทั้งในภาวะการณ์ปกติ และภาวะวิกฤต ซึ่งที่ผ่านมาได้ลงทุนไปแล้วประมาณ 450 ล้านบาท” คุณพิรชัยกล่าว