ARIT ผู้นำการเรียนรู้ และทดสอบทักษะด้านไอทีมาตรฐานสากล : THAILAND TOP SME AWARDS 2019

ท่ามกลางกระแส Disruption ในโลกธุรกิจยุคดิจิทัล เป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่คนทำงานยุคใหม่ ไม่ว่าจะอยู่ในทุกองค์กรภาครัฐหรือภาคเอกชน ต้องมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาได้อย่างไม่สะดุด แน่นอนว่าธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมการพัฒนาทักษะด้านไอทีแบบครบวงจร ตั้งแต่การฝึกอบรมไปจนถึงการออกใบประกาศนียบัตรรับรองความรู้ทางด้านไอที อย่าง ‘เออาร์ไอที (ARIT)’ จึงนับได้ว่ามีส่วนช่วยในการพัฒนาบุคลากรด้านไอทีให้แก่ประเทศไทย ทั้งในภาคการศึกษาและบุคลากรภาครัฐอย่างต่ำปีละ 40,000 คน


คุณวรเทพ มงคลวาที ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เออาร์ไอที จำกัด กล่าวว่า อย่างที่ทราบกันดีว่า การทำงานในยุคปัจจุบันของทุกองค์กร ล้วนจำเป็นจะต้องมีบุคลากรที่มีความรู้ทางด้านไอที เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทำงาน และเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายหลักในการดำเนินธุรกิจของเออาร์ไอทีเช่นกัน ซึ่งนอกเหนือจากการสนับสนุนนโยบายของรัฐในเรื่องการพัฒนาองค์ความรู้ด้านไอทีให้แก่บุคลากรของภาครัฐ ผ่านสถาบันการศึกษาและหน่วยงานของรัฐที่ผ่านการอบรมจากเออาร์ไอทีปีละประมาณ 40,000 คน

ขณะเดียวกัน เออาร์ไอทียังมุ่งมั่นที่จะสร้างมาตรฐานความรู้พื้นฐานด้านไอที ที่จำเป็นต่อภาคประชาชนและคนทำงานทั่วไปในอนาคต ซึ่งเป็นมาตรฐานของบริษัทฯ ซึ่งต้องยอมรับว่าในปัจจุบันยังใช้มาตรฐานสากลเป็นตัวกำหนด เนื่องจากมองว่าประเทศไทยควรจะมีมาตรฐานทางด้านไอทีของประเทศไทยเอง โดยเนื้อหาการฝึกอบรมหรือคอนเทนท์ต่าง ๆนั้น จะต้องออกแบบมาให้เหมาะสมกับคนไทย บนพื้นฐานของเทคโนโลยีหรือแพลตฟอร์มที่นำมาใช้ที่เป็นมาตรฐานสากล

ซึ่งขณะนี้ เออาร์ไอทีอยู่ระหว่างการพัฒนาแพลตฟอร์มด้านการทดสอบความรู้ (Testing) ร่วมกับ ATA Inc. เจ้าของแพลตฟอร์มทดสอบความรู้ที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดจากประเทศจีน ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวมีวัตถุประสงค์หลักคือ การเปลี่ยนระบบการทดสอบของประเทศไทยในส่วนของภาคข้าราชการ อาทิ สอบข้าราชการครู ข้าราชการตำรวจ สอบเข้ามหาวิทยาลัย และสอบใบอนุญาตขับขี่ ซึ่งปัจจุบันมีแพลตฟอร์มที่สามารถเปลี่ยนจาก Paper Base มาเป็น Digital Base ที่สอดคล้องกับโลกในยุคดิจิทัล ที่สามารถนำระบบออนไลน์มาใช้ทดสอบแทนการสอบแบบ Face to Face ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ปัจจุบัน ATA คือแพลตฟอร์มที่อยู่เบื้องหลังการสอบของทั่วโลกก็ว่าได้ เช่น การซัพพอร์ตระบบสอบให้กับ Pearson ซึ่งเป็นอันดับต้นของโลกในการทำแพลตฟอร์มสำหรับการทดสอบความรู้ เป็นต้น ซึ่งเราเองมีแผนที่จะเข้าไปนำเสนอหน่วยงานภาครัฐของไทย เพื่อที่จะเปลี่ยนระบบการสอบข้าราชการทั้งหมดของประเทศไทย โดยใช้เทคโนโลยี AI เป็นตัวควบคุม โดยไม่ต้องใช้คนคุมสอบ แต่ระบบสามารถตรวจสอบได้ว่าใครบ้างที่มีโอกาสทุจริตในการสอบ ซึ่งระบบนี้จะช่วยลดความซ้ำซ้อนในการลงทุนของภาครัฐ เพราะไม่ต้องทำระบบใหม่ทุกปี และที่สำคัญ ยังสามารถป้องกันการทุจริตในการสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

ทั้งนี้ ในส่วนของการดำเนินธุรกิจของเออาร์ไอทีในช่วงผ่านมานั้น คุณวรเทพกล่าวว่า ไออาร์ไอทีเป็นผู้ให้บริการด้านไอที การฝึกอบรม และทดสอบการใช้โปรแกรมมากว่า 28 ปี สามารถกล่าวได้ว่าเป็นบริษัทแรกที่ดำเนินธุรกิจด้านนี้ และยังคงสามารถดำเนินธุรกิจมาได้จวบจนปัจจุบัน ขณะที่ผู้ให้บริการรายอื่น ๆ ที่เริ่มธุรกิจพร้อม ๆ กัน แทบจะไม่มีเหลือแล้ว ส่วนที่ยังมีเปิดให้บริการในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นมาใหม่

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เออาร์ไอทีสามารถฝ่าวิกฤตครั้งสำคัญอย่างวิกฤตต้มยำกุ้งมาได้ มาจากสองส่วนหลัก คือ ข้อแรก การปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจ จากเดิมเน้นฝึกอบรมให้กับบุคคลทั่วไป แต่เปลี่ยนมาเป็นการฝึกอบรมและประเมินผลให้กับภาคการศึกษาและบุคลากรภาครัฐ ส่วนข้อที่สอง เป็นเรื่องของการรักษาบุคลากรของบริษัท โดยมองว่า บุคลากรที่มีอยู่ไม่ใช่ต้นทุน แต่เป็นทรัพยากรที่สำคัญที่จะร่วมขับเคลื่อนองค์กรให้สามารถฝ่าวิกฤตและเดินหน้าต่อไปได้ จากสองปัจจัยนี้ ถือว่ามีส่วนสำคัญที่ทำให้บริษัทฯ พลิกฟื้นกลับมา และมีผลประกอบการที่มีกำไรตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปัจจัยที่ทำให้เราสามารถฝ่าฟันวิกฤตหลาย ๆ อย่างมาได้ ส่วนสำคัญคือบุคลากร ที่ยังเชื่อมั่นและพร้อมฝ่าฟันวิกฤตมาด้วยกัน ประกอบกับการเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ มาเน้นการพัฒนาบุคลากรด้านไอทีให้แก่หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคการศึกษาแทนการทำตลาดแบบรายบุคคล รวมถึงการได้รับแต่งตั้งให้เป็นศูนย์ทดสอบความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ขององค์กรที่มีชื่อเสียงหลายแห่งของโลก ช่วยเสริมให้ธุรกิจของเออาร์ไอทีมีความความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน”

ปัจจุบันเออาร์ไอที ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นศูนย์ทดสอบความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ขององค์กรที่มีชื่อเสียงหลายแห่งอาทิ AutoDesk Inc. แห่งสหรัฐอเมริกาผู้ผลิตซอฟต์แวร์ AutoCAD Microsoft Press Co., Ltd รวมถึง Prometric Thompson Learning Co., Ltd. แห่งประเทศสหรัฐอเมริกาให้เป็นศูนย์การทดสอบบุคลากรด้านไอที หรือที่เรียกว่า “Authorized Prometric Testing Center” แห่งแรกในประเทศไทย เพื่อดำเนินการทดสอบความรู้ความสามารถทางด้าน IT โดยใช้รหัสศูนย์สอบ THO และยังได้รับความไว้วางใจจากบริษัท Certiport Company Limited ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับลิขสิทธิ์จากบริษัท Microsoft Inc. ให้สถาบันฯ เป็นตัวแทนในการจัดตั้งศูนย์สอบโปรแกรม Microsoft Office (Microsoft Office Specialist Certificate) อีกทั้งยังได้รับความไว้วางใจจาก Adobe Certified Associate แต่งตั้งให้เออาร์ไอทีเป็นศูนย์ทดสอบแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยอีกด้วย