หากเราไปเดินห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่าง ๆ หรือพื้นที่สาธารณะอื่น ๆ พนันได้เลยว่าต้องพบเจอผู้ชายใส่เสื้อโปโลรูปม้า หรือที่เรารู้จักกันใน ‘Polo Ralph Lauren’ อย่างแน่นอน เพราะเป็นแบรนด์ที่หลาย ๆ คนนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ ในการเลือกซื้อเสื้อผ้า
และด้วยระยะเวลาที่แบรนด์ดำเนินธุรกิจมาตลอด 50 ปี ทำให้ต้องยอมรับว่าเสื้อโปโลสีพื้นมีโลโก้รูปม้าเล็กก็ยังคงสร้างยอดขายและชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยซ้ำ
แล้วเรื่องราวของ Ralph Lauren เป็นอย่างไร? กลยุทธ์อะไรที่ทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้?
ย้อนกลับไปในปี 1967 จุดเริ่มต้นของแบรนด์เกิดขึ้นจากคุณ Ralph Rueben Lifshitz ชายผู้เป็นตัวแทนขายเน็กไทให้กับบริษัทหนึ่งในอเมริกา โดยชีวิตของชายคนนี้แบ่งออกเป็น 2 ช่วงเวลาหลัก ๆ คือ ช่วงกลางวันเป็นช่วงที่ทำงานประจำ พอตกกลางคืนคุณ Lauren ก็เข้าศึกษาเล่าเรียนด้านธุรกิจ เพื่อต่อยอดความรู้
และด้วยความที่คุณ Lauren คลุกคลีกับเน็กไทและอยู่กับมันตลอด เขาเริ่มจุดประกายเน็กไทในไสตล์ที่ตัวเองปรารถนาขึ้น คือสไตล์หรูหรา ดูโรแมนติค เทสต์ดี ไม่ว่าใครใส่ก็จะดูเสมือนสุภาพบุรษชนชั้นสูงในอังกฤษ แต่ก็มีความสุภาพบุรุษอเมริกันแฝงอยู่ ซึ่งสามารถสร้างความแตกต่างจากเนคไทที่มีในตลาดได้ดี และนำมันลงสู่ตลาดเพื่อเจาะกลุ่มสุภาพบุรุษอเมริกันในยุคสมัยนั้น
ต่อมา 2 ปีหลังจากนั้นเขาเริ่มแตกไลน์สินค้ามากขึ้นด้วย การเปิดคอลเลกชันชุดสูทผ้าทวีตแบบคลาสสิก ของสุภาพบุรุษ ที่สร้างกระแสตอบรับในกลุ่มสุภาพบุรุษเป็นอย่างดี ภายหลังจากนั้นก็ได้แตกไลน์สินค้ามากขึ้นไปอีกด้วยเปิดคอลเลกชันเสื้อเชิ้ตสำหรับสุภาพสตรี
ธุรกิจ Ralph Lauren ดำเนินมาเรื่อย ๆ จนค้นพบสินค้าเรือธงของแบรนด์ นั่นก็คือ เสื้อโปโล เนื้อผ้าฝ้ายใส่สบาย นุ่ม มีให้เลือกหลายสี ด้วยตัวเสื้อปักโลโก้ Ralph Lauren ขนาดเล็กเป็นเอกลักษณ์ ที่เป็นสินค้าขายดีมาจวบจนปัจจุบัน
ต่อมาในปี 1970 คุณ Lauren ได้เริ่มเปิดตัวร้านค้าเล็ก ๆ ขึ้นที่ห้างสรรพสินค้า Bloomingdale ในแมนฮัตตัน โดยชายผู้ก่อตั้งได้เริ่มดีไซน์ร้านออกมาในแบบที่ตนเองต้องการ ด้วยโทนสีเข้มเข้ากับแบรนด์ ประกอบเข้ากับผนังไม้และสีไฟโทนอบอุ่น และเริ่มขยายสาขาไปยังเมืองต่าง ๆ ในอเมริกาด้วยระยะเวลาเพียง 1 ปีเท่านั้น
แฟชั่นของ Ralph Lauren ยังคงเป็นที่พูดถึงในเหล่าเซเลบริตี้เพราะแม้แต่ภาพยนตร์ The Great Gatsby ยังคงเลือกชุดจากไลน์โปโลของเขา ซึ่งเป็นชุดเสื้อผ้าผู้ชายและเสื้อสเวตเตอร์สไตล์ยุค 1920 นั่นเอง ในหมู่เซเลบริตี้สาว ๆ ก็ไม่แพ้กัน เพราะคุณ Diane Keaton ได้เลือกเสื้อภาพจากแบรนด์ใส่ขึ้นรับรางวัลออสก้าในปี 1977 ด้วยเช่นกัน
เมื่อธุรกิจเติบโตและเป็นที่รู้จักมากขึ้น ทำให้บริษัทเริ่มขยายเข้าสู่ตลาดยุโรปและทวีปอื่น ๆ ในปี 1978 ด้วยการเปิดร้านสโตร์แรกแบบเต็มรูปแบบในลอนดอน พร้อมพาธุรกิจเข้าตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ด้วยชื่อ Ralph Lauren Corporation (RL) โดยมีมูลค่าอยู่ที่ 260,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี เวลาผ่านไปวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้งอย่างคุณ Lauren ก็สามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะด้วยความเข้าใจในไลฟ์สไตล์ของสินค้าจนสามารถสร้างสรรค์สินค้าใหม่ ๆ อาทิ น้ำหอม หรือ ผลิตภัณฑ์ภายในบ้าน หมอน ผ้าคลุมเตียง ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ เฟอร์นิเจอร์ และสีทา พร้อมทั้งยังไม่หยุดที่จะพัฒนาไลน์เสื้อผ้าและเครื่องประดับที่เจาะกลุ่มเป้าหมายด้วยราคา ที่แตกแบรนด์ตามระดับกลางไปจนถึงหรูหรา ทำให้ในช่วงทศวรรษที่ 1990 Ralph Lauren กลายเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
และเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ ต้องยอมรับว่ากว่าแบรนด์ระดับโลกอย่าง Ralph Lauren จะประสบความสำเร็จได้ส่วนหนึ่งก็มาจากวิสัยทัศน์กล้าที่จะทำสิ่งใหม่ ๆ จากชายผู้ก่อตั้งอย่าง คุณ Lauren ที่ออกจากสินค้าเดิม ๆ สร้างสรรค์สินค้าเรือธงพร้อมแตกไลน์สินค้าใหม่ ๆ เข้าใจกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี จนกลายมาเป็น ‘Ralph Lauren’ ที่ต้องมีติดตู้มาจนถึงทุกวันนี้..
ที่มา : corporate.ralphlauren, zippia, finance.yahoo, britannica
เขียนและเรียบเรียง : อโญศิริ สุระตโก
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.thailand/
#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #RalphLauren #เสื้อโปโล