วิสัยทัศน์ Carbon Neutral จากเอ็กโก กรุ๊ป เพื่อโลกใบใหม่อย่างยั่งยืน

– ตั้งเป้าลดการปล่อยปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อหน่วยไฟฟ้าที่ผลิตได้ลง 10% ภายในปี 2573
– วางกลยุทธ์ก้าวผ่านความท้าทาย 4D+1E ที่เกิดจากการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมพลังงาน
– พร้อมขับเคลื่อนองค์กรภายใต้แนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน “Cleaner, Smarter and Stronger to Drive Sustainable Growth”

ทั้งหมดคือ Roadmap ที่บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป จะเดินหน้าเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายระยะยาว คือ การบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี 2593

บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าและพลังงานครบวงจรมากว่า 30 ปี ตระหนักถึงความท้าทายที่เกิดจากการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมพลังงาน (Energy Transition) รวมถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งทุกภาคส่วนต่างได้รับผลกระทบและต้องร่วมมือกันแก้ไข

โดยข้อมูลของ Climate Watch Data พบว่า ภาพรวมภาคธุรกิจในประเทศไทยที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด คือ ภาคพลังงาน ซึ่งมีสัดส่วนมากที่สุด 61.11% รองลงมาคือ ภาคอุตสาหกรรม 16.67% ตามด้วยภาคการเกษตร 15.96% และภาคป่าไม้และการใช้ประโยชน์ที่ดิน 3.31% ส่วนภาคอสังหาริมทรัพย์ แม้จะไม่ใช่กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยตรงในปริมาณสูง แต่ห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจ (Value Chain) ก็เป็นส่วนหนึ่งในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันเป็นสาเหตุของโลกร้อนเช่นกัน

เอ็กโก กรุ๊ป จึงประกาศโรดแมปมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี 2593 ภายใต้ทิศทางการดำเนินธุรกิจเพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน “Cleaner, Smarter and Stronger to Drive Sustainable Growth” สอดรับยุคเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมไฟฟ้าและพลังงานสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อสร้างคุณค่าเพิ่มให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน

 

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป กล่าวถึงทิศทางการขับเคลื่อนองค์กรว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมไฟฟ้าและพลังงานอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยได้รับแรงกดดันจากปัจจัย 5 ด้าน หรือ 4D+1E ประกอบด้วย

 

  1. Digitalization การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว 2. Decarbonization การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจก 3. Decentralization การกระจายศูนย์ของแหล่งผลิตพลังงาน และ 4. Deregulation การปรับปรุงกฎระเบียบด้านต่าง ๆ ส่วนปัจจัย 1E ได้แก่ Electrification ความนิยมใช้พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น

 

เมื่อประเมินปัจจัยเหล่านี้ เอ็กโก กรุ๊ป จึงปรับตัวและเร่งขับเคลื่อนองค์กรในทุกด้านให้พร้อมตอบสนองต่อการเปลี่ยนผ่านดังกล่าว ด้วยการกำหนดเป้าหมายระยาว คือ การมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี 2593 และการกำหนดเป้าหมายระยะกลาง ในการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 30% และการลดการปล่อยปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อหน่วยไฟฟ้าที่ผลิตได้ (Carbon Emission Intensity) 10% ภายในปี 2573

 

ในด้านธุรกิจ เอ็กโก กรุ๊ป มุ่งเน้นการเสริมความแข็งแกร่งในธุรกิจไฟฟ้า ซึ่งเป็น Core Business ควบคู่ไปกับการขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่องทั้งต้นน้ำและปลายน้ำแบบครบวงจร ได้แก่ ธุรกิจเชื้อเพลิงและสาธารณูปโภค ซึ่งมีธุรกิจ LNG โครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  และนิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง ที่อยู่ในพอร์ตโฟลิโอ รวมทั้งธุรกิจ Smart Energy Solution ซึ่งเป็นการต่อยอดธุรกิจหลักด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีพลังงาน

 

โดยมีธุรกิจที่กำลังดำเนินการอยู่ ได้แก่ บริษัทด้านการวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรม “อินโนพาวเวอร์” บริษัทเทคโนโลยีด้านการเงิน “เพียร์ พาวเวอร์” และการร่วมกับพันธมิตรและ กฟผ. ศึกษาและพัฒนาการผลิตไฟฟ้าจากไฮโดรเจน (Hydrogen to Power) เป็นต้น

 

ในด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคม ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา เอ็กโก กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ ESG (Environmental, Social and Governance) ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาสังคมในทุกพื้นที่ที่เข้าไปดำเนินกิจการ ภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับผู้มีส่วนได้เสียมาอย่างต่อเนื่อง

 

ไม่ว่าจะเป็นการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า การใช้ประโยชน์จากโรงไฟฟ้าที่หยุดเดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว มาเป็นแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียนด้านพลังงานและกระบวนการผลิตไฟฟ้าผ่าน “ศูนย์เรียนรู้โรงไฟฟ้าขนอม” การดำเนินกิจกรรมพัฒนาชุมชนและสังคม โดยเน้นกลุ่มเยาวชนและครูมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการ “โรงไฟฟ้าพี่โรงเรียนน้อง” และการจัดทำ “หลักสูตรครูพลังงานออนไลน์” เป็นต้น

 

นอกจากนั้น เอ็กโก กรุ๊ป ยังร่วมบรรเทาสถานการณ์ COVID-19 รวมมูลค่ากว่า 55 ล้านบาท และช่วยเหลือสังคม ควบคู่ส่งเสริมการต่อต้านคอร์รัปชันผ่านโครงการ “เปลี่ยนของขวัญปีใหม่ เป็นพลังใจให้สังคม” ตลอดจนอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำผ่านการดำเนินงานของ “มูลนิธิไทยรักษ์ป่า” มากว่า 20 ปี

“ก้าวย่างแห่งอนาคต เอ็กโก กรุ๊ป พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจทั้งในและต่างประเทศให้สอดรับกับทิศทางพลังงานโลก เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ร่วมสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศไทย ควบคู่กับการมุ่งสู่เป้าหมายสังคมคาร์บอนต่ำ ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเรา ในการเป็นบริษัทไทยชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจพลังงานอย่างยั่งยืน ด้วยความใส่ใจที่จะธำรงไว้ซึ่งสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาสังคม” นายเทพรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย