เทรนด์ ‘งานผิว’ กำลังมาแรง!! ธุรกิจสกินแคร์ต้องรีบปรับตัว รองรับความต้องการตลาด

ในปี 2022 นี้เทรนด์การแต่งหน้าเปลี่ยนไปจากเดิมเน้นไปทาง ‘หน้าเป๊ะ’ หลายขั้นตอนการแต่ง มาเน้นเป็น ‘งานผิว’ ที่ลดทอนขั้นตอนการแต่งหน้า เน้นเผยผิวหน้าของเรามากยิ่งขึ้น ฉะนั้นแล้ว ก่อนที่เราจะตามเทรนด์นี้ สิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือการ ‘ดูแลผิวหน้า’  เรามารู้เคล็ดลับดี ๆ ผ่านบทความนี้กันค่ะ

ข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม ระบุว่าในอนาคต โลกเราจะเผชิญกับวิกฤตการณ์น้ำ ทำให้คนที่ชอบอาบน้ำเล่นนาน ๆ แช่ฟองสบู่บ่อย ๆ คงทำได้ไม่บ่อยมากนัก หรือจะกลายเป็นเรื่องที่ลืมไปได้เลย เพราะน้ำจะกลายเป็นทรัพยากรที่หาได้ยากและกลายเป็นวัตถุดิบที่มีราคาสูงไปโดยปริยาย

ด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวหน้าและกายจึงต้องปรับตัวเช่นเดียวกัน ซึ่งจะเริ่มจากการปรับสูตรของผลิตภัณฑ์ที่สามารถดูแลผิวหน้า โดยใช้น้ำเพื่อชำระสิ่งสกปรกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก็สามารถทำให้ผิวหน้าสะอาดได้อย่างหมดจด

นอกจากนี้ เรายังพบข้อมูลที่สำคัญจาก Mintel Group บริษัทวิจัยตลาดระดับโลกของเอกชน ตั้งอยู่ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ ระบุว่า ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้ามากกว่า 12% เพิ่มส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยเพิ่มพลังและสามารถทำความสะอาดผิวให้ได้ผิวใหม่ที่ดีกว่าเดิม

เคล็ดลับดูแลผิวหน้าให้ได้ผิวใหม่ที่ดีกว่าเดิม

ก่อนอื่นเลยการดูแลผิวหน้า นอกจากที่เราจะต้องคำนึงถึงช่วงอายุของแต่ละคน ยังต้องคำนึงสภาพของผิวหน้า ซึ่งจะถูกกำหนดโดยสิ่งแวดล้อมและกิจกรรมที่ทำเป็นหลัก เช่น นิสัยการนอน ออกกำลังกาย ความเครียด การออกแดดหรืออยู่ในห้องแอร์ทั้งวัน

และในวันนี้เป้จะมาแนะนำวิธีดูแลผิวเบื้องต้นสำหรับกลุ่มคนช่วงอายุ 20 ปี  ดังนี้

  1. ล้างหน้าให้สะอาด และตามด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ oil free ที่ปราศจากสารก่อการระคายเคืองและสารที่ทำให้อุดตันรูขุมขน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า แต่ก็ไม่ทำให้ผิวมันจนเกินไปจนก่อให้เกิดสิว
  2. ล้างหน้าทุกวันเช้าและเย็น และภายหลังการออกกำลังกาย
  3. หากเราต้องเผชิญแสงแดดอยู่บ่อย ๆ อาจทำให้เกิดผิวไหม้แดด ฝ้า กระ และจุดด่างดำได้ ฉะนั้นแล้ว ‘ครีมกันแดด’ จึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งวิธีการเลือกซื้อก็มองหาครีมกันแดดที่เป็น Board spectrum สามารถป้องกันได้ทั้ง UVA  และ UVB มีค่า SPF 50 ขึ้นไป
  4. หากเราแต่งหน้าอยู่บ่อย ๆ หรือทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน ควรใช้ make up remover ทำความสะอาดเพื่อป้องกันสิ่งอุดตันตกค้าง ที่เป็นสาเหตุก่อให้เกิดสิวของเราก่อน

สำหรับผิวหน้าช่วงอายุ 30-40 ปี โดยสภาพผิวหน้าช่วงนี้ ความชุ่มชื้นของผิวเริ่มลดลง เกราะป้องกันผิวเริ่มอ่อนแอ น้ำมันออกตามผิวน้อยลง ทำให้ผิวแห้งกร้าน เป็นผลให้เราพบเจอรอยเหี่ยวย่นที่เพิ่มขึ้นในจุดต่าง ๆ บนใบหน้า เช่น ตา หน้าผาก แก้มและคาง ซึ่งในช่วงอายุนี้ เซลล์ผิวเก่าในชั้นหนังกำพร้าจะเริ่มหดตัว เซลล์ผิวใหม่จะเกิดขึ้นน้อยลงนั่นเอง

ซึ่งวิธีดูแลผิว ควรบำรุงด้วยผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะชะลอการเกิดริ้วรอย เนื่องจากชั้นหนังแท้เริ่มสูญเสียความสามารถในการกักเก็กน้ำ ทุกคนควรเลือกผลิตภัณฑ์ ที่มีวิตามิน C หรือ วิตามิน A เพื่อชำระสิ่งสกปรกบนใบหน้าให้ผลัดเซลล์ใหม่

ทำไมการผลัดเซลล์ผิวจึงสำคัญ
รู้หรือไม่ว่า สาเหตุสำคัญอันดับต้น ๆ ที่ทำให้เกิดปัญหาฝ้าเรื้อรัง สิวอุดตัน อักเสบต่าง ๆ ไม่หายไปสักที สิ่งสกปรก เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เราใช้อยู่ทุกวัน จนเกิดเป็นสิวอุดตันและติดเชื้อเป็นสิวอักเสบในที่สุด

ดังนั้น มันคงจะดีกว่าหากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ซึ่งจะช่วยเร่งให้ผิวหนังผลัดเซลล์ผิวได้ดีและเร็วมากยิ่งขึ้น ทำให้รูขุมขนได้ระบายสิ่งที่อุดตัน และยังเสริมการบำรุงผิวซึมเข้าสู่ชั้นผิวหนังได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ดีเมื่อมองถึงผลิตภัณฑ์กลุ่มสกินแคร์ทางแบรนด์ Y8 ขอนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ใช่ เหมาะกับคุณอย่าง สบู่ Y8 LHA Anti-Dark Spots Whitening Soap ทางแบรนด์ได้คัดเลือกสุดยอดสารนวัตกรรมจากธรรมชาติ 5 ประเทศทั่วทุกมุมโลก สรรค์สร้างเป็นสบู่ที่ให้คุณค่ามากกว่าสบู่ล้างหน้าทั่วไป

  1. สารสำคัญอย่าง Capryloyl Salicylic acid (LHA) เป็นอนุพันธ์ของ Salicylic Acid (BHA) มีประสิทธิภาพสูง ช่วยผลัดเซลล์ในระดับเซลล์ต่อเซลล์อย่างอ่อนโยน จึงทำให้มีความอ่อนโยนและเกิดการระคายเคืองน้อยกว่า และละลายในน้ำมันได้ดีกว่า BHA

ทั้งนี้ ยังสามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว ลดการอุดตันรูขุมขน ช่วยกระชับรูขุมขน ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ลดริ้วรอยและความเหี่ยวย่น จึงเหมาะกับกลุ่มคนที่มีรูขุมขนกว้างหน้ามัน สิวอุดตัน และมีริ้วรอย เพราะอายุที่มากขึ้นผิวไม่สดใส ให้กลับมามีชีวิตชีวายิ่งขึ้น

  1. สารสำคัญอีกชนิด คือ Gluconolactone เป็นกรด PHA ได้จากกระบวนการบ่ม/หมัก (fermentation) จากข้าวโพด ช่วยออกฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิวได้อย่างอ่อนโยนกว่า AHA มาก ซึ่งจะไม่ทำให้ระคายเคืองผิว ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วอย่างอ่อนโยน ทำให้การสร้างเซลล์ผิวใหม่ให้เป็นปกติ เผยผิวกระจ่างใส ริ้วรอย จุดด่างดำดูลดเลือนลง อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และต้านอนุมูลอิสระให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง กระจ่างใสได้อีกด้วย
  2. Licorice root extract สารสกัดรากชะเอมเทศ มีคุณสมบัติช่วยลดการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase ที่สร้างเม็ดสีเมลานินในผิว ช่วยให้ผิวสว่าง กระจ่างใสขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดการระคายเคือง ลดการอักเสบของผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ทั้งนี้ นอกจากช่วยลดเลือนริ้วรอยแล้ว ยังสามารถช่วยป้องกันไม่ให้เกิดรอยใหม่ขึ้นมาได้ด้วย

4. Tranexamic acid เกิดจากอนุพันธ์ของไลซีน (Lysine) ทำหน้าที่ให้ผิวกระจ่างใส ลดการก่อตัวของเม็ดสีเมลานิน เหมาะสำหรับการใช้แก้ปัญหาฝ้า ซึ่งสารนี้จะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เมื่อใช้สำหรับปรับผิวให้กระจ่างใส

ในกรณีที่ผิวคล้ำหรือเป็นฝ้าที่มีสาเหตุจากแสงแดด การทำงานของ Tranexamic Acid จะเข้าไปลดการอักเสบจากแสงแดดที่ทำร้ายผิว จนสามารถลดการสร้างเม็ดสีเมลานินลงได้ พอเม็ดสีเมลานินลดลง สีผิวเราก็จะขาวขึ้นนั่นเองค่ะ

  1.  Pyrus malus (Apple) extract สารสกัดจากแอปเปิ้ล ประกอบด้วยกรดผลไม้ตามธรรมชาติ อุดมด้วยสาร polyphenol และ catechins ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไป มีคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยให้ผิวกระจ่างใส เพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยกระชับรูขุมขน ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยทำให้ผิวกระชับเต่งตึงไม่แก่ก่อนวัย แล้วยังทำให้ผิวสดใสเปล่งปลั่งยิ่งขึ้น
  2.  Cactus extract สารสกัดกระบองเพชร อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย อาทิ โปรตีน แร่ธาตุ เซลลูโลส วิตามินเอ, วิตามินซี และมีสารต้านอนุมูลอิสระชื่อว่า Betanin & Indica xanthin ที่ช่วยบำรุงผิวให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นและต่อต้านอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  3.  Mangosteen extract สารสกัดจากเปลือกมังคุด มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ในเปลือกมังคุดมีสารแทนนินที่ชื่อว่า โปรแอนโทรไซยานิน (proanthocyanin) และนอกจากสารพวกแทนนินแล้วในเปลือกมังคุดยังมีสารตัวอื่นที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย

ทั้งนี้ หากเราใช้ในปริมาณที่เหมาะสม จะสามารถใช้ชะลอความชราของเซลล์ และช่วยทำลายสารพิษที่จะมาทำร้ายเซลล์ได้ จากการที่เปลือกมีมังคุดมีรสฝาด จึงช่วยสมานผิวทำให้รูขุมขนกระชับ เมื่อรูขุมขนกระชับ โอกาสที่เชื้อโรคและสารพิษจะแทรกเข้าผิวหนังผ่านรูขุมขนก็ยากขึ้น

ท้ายที่สุดคือสารสกัดจากต้นอ้อย ชนิดพิเศษที่มีสาร active Polisocanol สูงถึง 98% ซึ่งสาร Policosanol มีฤทธิ์ช่วยลดการทำงานของต่อมไขมัน และยังช่วยควบคุมเชื้อที่ก่อให้เกิดสิว (P. Acnes) โดยอ้างอิง Patent US 2007/0196507 A1

และมีคุณสมบัติเป็นสารที่ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสและช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้นโดยการกักเก็บน้ำให้ผิว ช่วยให้ผิวอิ่มน้ำ ทำให้ผิวมีสุขภาพดี

ด้วยคุณสมบัติมากมายจากสารนวัตกรรมจากธรรมชาติ  สบู่ล้างฝ้า Y8 LHA Anti-Dark Spots whitening Soap สามารถตอบโจทย์ทุกปัญหาผิว จุดด่างดำ ริ้วรอย และฝ้าได้

อีกทั้งยังสามารถป้องกันก่อนการเกิดปัญหาผิวในอนาคต รวมถึงช่วยให้ผิวขาวและปกป้องชั้นผิวให้หนาแน่นแข็งแรงชุ่มชื้นขึ้น ด้วยศาสตร์แห่งรางวัลโนเบล ที่ช่วยปกป้องผิวในชีวิตประจำวันทุก ๆ วันค่ะ

 

เรียบเรียง : คุณวัจนา รื่นพิทักษ์

ที่มา : Y8

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/o9fQ6fA

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.thailand/…

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #Y8 #งานผิว #สกินแคร์