บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือแบรนด์ MR.DIY ที่หลายๆ คนต้องเคยเข้าไปซื้อสินค้ากันมากกว่า 1 ครั้ง เพราะ MR.DIY เป็นผู้นำในธุรกิจค้ำปลีก`อุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย ด้วยจำนวนสาขามากกว่า 1,000 แห่ง ครอบคลุมครบทั้งหมด 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย
ซึ่งความน่าสนใจของ MR.DIY คือผลประกอบการที่เติบโตแรงไม่แผ่ว โดยในไตรมาส 3 ปี 2568 มีการเติบโตในแง่ของกำไรสุทธิที่โดดเด่น ด้วยกำไรสุทธิ 604.92 ล้านบาท เติบโตเกือบ 79% เทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้วมีกำไรสุทธิ 338.48 ล้านบาท
ทีนี้มาดูส่วนของรายได้กันบ้างโดยไตรมาสนี้บริษัทมีรายได้รวม 4,959.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน ของปีก่อน ซึ่งเกิดจากการขยายสาขาไปในทำเลที่มีศักยภาพสูง ทำให้ช่วยยกระดับการรับรู้แบรนด์ และการมีส่วนร่วมของลูกค้ามากขึ้น ซึ่งนอกจากจะเพิ่มรายได้แล้ว การขยายสาขายังทำให้ได้ประโยชน์จากขนาดธุรกิจที่ขยายขึ้นเกิด Economy of scale
จะเห็นได้ว่า กำไรสุทธิพุ่งขึ้นสูงกว่าการเติบโตของรายได้ สะท้อนให้เห็นว่า นอกจากสินค้าจะยังขายดีแล้ว บริษัทยังมีการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี ดูได้จากอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นจาก 48.5% มาที่ 52.5% ซึ่งนอกจากการบริหารจัดการต้นทุนได้ดีแล้ว ในช่วงไตรมาสนี้ยังได้รับอานิสงค์จากอัตราแลกเปลี่ยนอีกด้วย ซึ่งส่งผลต่อกำไรสุทธิโดยตรงเพราะเป็นบริษัทที่นำเข้าสินค้าเป็นส่วนใหญ่
และการเติบโตของไตรมาส 3 เพียงไตรมาสเดียวได้ทำให้กำไรสุทธิ 9 เดือนพุ่งแซงผลประกอบการตลอดทั้งปี 2567 ไปแล้ว ด้วยตัวเลข 1,781.35 ล้านบาท (ทั้งปี 2567 มีกำไรสุทธิ 1,780.25 ล้านบาท) ซึ่งยังเหลืออีก 1 ไตรมาสที่คาดว่าแนวโน้มจะเติบโตได้ดีเช่นเดียวกันหากบริษัทยังคงบริหารจัดการต้นทุนและรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ 50% ได้ เพราะจริงๆแล้วในไตรมาสนี้หากมองการเติบโตของรายได้จากการขายสาขาเดิมมีการชะลอตัวลงมาจากไตรมาสก่อนหน้า จากปัจจัยเศรษฐกิจที่ไม่เป็นใจ ดังนั้น การบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะใช้วัดผลประกอบการทั้งปี
ที่มา : SET
#BusinessPlus
#ธุรกิจ
#MRDIY
The Business Plus บิสิเนสพลัส

