
ตำรวจภูธรภาค 4 แถลงข่าวการจับกุมทลายเครือข่ายจัดหาบัญชีม้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ตำรวจภูธรภาค 4 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.สุริเดช วรรณสุทธิ์ ผบก.ภ.จว.สกลนคร พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สส.ภ.4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่บริษัททรูมันนี่ จับกุม / ดำเนินคดี ผู้ต้องหา จำนวน 30 ราย ดังนี้
กลุ่มรับจ้างเปิดบัญชี (บัญชีทรูมันนี่ วอลเล็ท) จำนวน 28 ราย ในความผิดฐาน “ผู้ใดเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตน หรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตนฯ”และ“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน”
กลุ่มธุระจัดหาบัญชีม้า จำนวน 2 ราย ในความผิดฐาน “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กหรอนิกส์ หรือบัญชีเงินฝากอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ”
สรุปผลการปฏิบัติจับกุมเครือข่ายจัดหาบัญชีทรูมันนี่วอลเล็ทม้า ใน จว.สกลนคร ตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค.ถึง
วันที่ 2 พ.ย.68 ผลการปฏิบัติ ดังนี้
- จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 30 ราย
- ขยายผลพบบุคคลเปิดบัญชีทรูมันนี่วอลเล็ท (ม้ารับจ้าง) ใน จว.สกลนคร จำนวน 213 คน
- ตรวจสอบระบบแจ้งความออนไลน์ TPO พบความเชื่อมโยงเคสไอดีในพื้นที่ ภ 1-9 และ บชน.จำนวน 647 เคสไอดี ความเสียหาย 80,814,933 บาท
3.1 ความเชื่อมโยงเคสไอดีในพื้นที่ ภ.4 จำนวน 147 เคสไอดี ความเสียหาย 47,997,580 บาท
3.2 ความเชื่อมโยงเคสไอดีในพื้นที่ ภ.จว.สกลนคร จำนวน 14 เคสไอดี ความเสียหาย 1,635,207 บาท

พฤติการณ์ในการจับกุม ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะการกระทำความผิดเกี่ยวกับบัญชีม้า ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการกระทำความผิดฐานหลอกลวงออนไลน์ และเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้างนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ภ.4 ได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และบริษัททรูมันนี่ ดำเนินการสืบสวนติดตามพฤติการณ์ของกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมว่าจ้างให้บุคคลอื่นเปิด (บัญชีทรูมันนี่ วอลเล็ท) เพื่อใช้รับโอนเงินจากผู้เสียหายจนสามารถขยายผลจับกุมผู้ต้องหาได้ ดังนี้
1). ผู้เปิดบัญชีม้า (บัญชีทรูมันนี่ วอลเล็ท) จำนวน 28 ราย
2). นายหน้าจัดหาผู้เปิดบัญชี จำนวน 2 ราย
3). อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ จำนวน 2 ราย ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน และ เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด”

และ ในความผิดฐาน “ผู้ใดเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตน หรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตนฯ” จำนวน 183 ราย (อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี)
จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่านายหน้าจัดหาผู้เปิดบัญชีม้า (บัญชีทรูมันนี่ วอลเล็ท) มีหน้าที่จัดหาผู้ที่มีบัญชีทรูมันนี่ วอลเล็ท จากราษฎรในพื้นที่ จว.สกลนคร โดยมีค่าตอบแทนในการยินยอมให้ใช้บัญชีทรูมันนี่วอลเล็ท ครั้งละ 1,000 บาท เพื่อส่ง คิวอาร์โค๊ตให้กับหัวหน้าเครือข่าย ชาวจีน (อยู่ระหว่างการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานติดตามจับกุมตัว) โดยทั้งหมดมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับขบวนการฉ้อโกงทางออนไลน์หลายรูปแบบ เช่น การหลอกให้ลงทุนออนไลน์ การหลอกขายสินค้า และการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ การจับกุมครั้งนี้เป็นผลมาจากความร่วมมือระหว่าง เจ้าพนักงานตำรวจในพื้นที่ กับสถาบันทางการเงิน บริษัททรูมันนี่ ที่ร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลทำให้สามารถสืบสวนขยายผลไปยังกลุ่มนายหน้าและผู้รวบรวมบัญชีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตำรวจภูธรภาค 4 ยังคงมุ่งมั่นดำเนินการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากประชาชน หากพบเบาะแสเกี่ยวกับบัญชีม้า หรือการหลอกลวงออนไลน์ สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สถานีตำรวจทุกแห่ง หรือสายด่วน 1441 / 191 เพื่อร่วมกันป้องกันมิให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
The Business Plus บิสิเนสพลัส

