ถอดบทเรียนผู้นำสุขภาพ “นพ.ดิตถพงษ์ บุญอำพล” บนหลักบริหาร ความพยายามและสติปัญญา

ถอดบทเรียนผู้นำสุขภาพ “นพ.ดิตถพงษ์ บุญอำพล” บนหลักบริหาร ความพยายามและสติปัญญา

“ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ยิ่งยากขึ้นไปอีก แต่ด้วยความพยายามและสติปัญญา ความสำเร็จนั้นย่อมเกิดขึ้นได้” คำกล่าวของนพ.ดิตถพงษ์ บุญอำพล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้อำนวยการ โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ หลังได้รับรางวัล Thailand Top CEO 2025 ในฐานะผู้นำองค์กรด้านสุขภาพที่มีวิสัยทัศน์ และสามารถขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโต ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของสังคมและระบบสาธารณสุขได้อย่างโดดเด่น

จากคำพูดดังกล่าว สะท้อนได้ บนโลกที่สุขภาพกลายเป็นทรัพยากรล้ำค่า และเวลา คือ สิ่งที่ไม่อาจย้อนคืน ดังนั้น การบริหารโรงพยาบาล จึงไม่ใช่เพียงแค่การให้บริการรักษาโรค หากแต่เป็นการจัดการความคาดหวัง ความรู้สึก และคุณภาพชีวิตของผู้คน ให้ดีที่สุด

และจากข้อคิดนี้เอง นพ.ดิตถพงษ์ บุญอำพล ก็เข้าใจอย่างลึกซึ้งมาตลอดเส้นทาง 9 ปีของการก่อตั้งและบริหารโรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านโรคกระดูกสันหลังและข้อ ที่เติบโตจากแนวคิดธรรมดา สู่การเป็นผู้นำระดับประเทศ และในวันนี้ ได้รับการยอมรับในระดับประเทศผ่านรางวัล Thailand Top CEO 2025 ในฐานะผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ทางสุขภาพและนำพาองค์กรให้เติบโตอย่างโดดเด่น ท่ามกลางความผันผวนของระบบสาธารณสุขและความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้ป่วยยุคใหม่

ผู้นำที่ไม่หวั่นต่อความ “ไม่เคยมีมาก่อน”

สิ่งที่ทำให้ นพ.ดิตถพงษ์ โดดเด่นในฐานะผู้นำองค์กรด้านสุขภาพ ไม่ใช่แค่เพราะเขาเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ หากแต่เพราะเขาเป็น “นักคิดเชิงระบบ” ที่กล้าฝัน กล้าวางแผน และกล้าลงมือทำในสิ่งที่ยังไม่เคยมีมาก่อน

“สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ยิ่งยากขึ้นไปอีก” คำพูดนี้ไม่ใช่แค่สัจธรรม แต่เป็นแนวคิดบริหารที่ นพ.ดิตถพงษ์ ยึดถือมาตลอด

จากคลินิกเล็ก ๆ ที่รับผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลังแบบเฉพาะทาง เขาขยับขยายแนวคิดนี้มาเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางเต็มรูปแบบ ที่เน้นการผ่าตัดแบบมีประสิทธิภาพสูง ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย ผสานกับการ

วินิจฉัยแบบแม่นยำ ทำให้สามารถ “คืนคุณภาพชีวิต” ให้กับผู้ป่วยได้อย่างตรงจุด และสิ่งที่เหนือกว่านั้นคือ การพัฒนาองค์กรอย่างมีระบบ โดยท่านไม่ได้สร้างแค่โรงพยาบาล แต่ได้สร้างระบบการดูแลสุขภาพแบบใหม่ที่ยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง

เบื้องหลังความสำเร็จของโรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ รักษาคนไข้กว่า 100,000 ราย อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยไม่จำกัดเพียงแค่ผู้สูงอายุ เพราะโรคกระดูกสันหลังในปัจจุบันได้ขยายวงสู่โรคข้อและกระดูกของ “คนทำงาน” และ “คนรุ่นใหม่” อย่างไม่รู้ตัว จากพฤติกรรมการนั่งทำงานนาน ก้มเล่นมือถือ การยืนนาน หรือแม้แต่การออกกำลังกายแบบผิดท่า กำลังกลายเป็นภัยเงียบต่อกระดูกและข้อของคนทุกวัย

นพ.ดิตถพงษ์ จึงยกระดับการให้บริการของโรงพยาบาล ไม่ใช่แค่ “รักษา” แต่ต้อง รู้เท่าทัน ป้องกัน และฟื้นฟู ให้เร็วที่สุด ด้วยระบบบริการที่มีองค์ประกอบครบทั้งศูนย์กายภาพ ห้องผ่าตัดเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและข้อ, เทคโนโลยีผ่าตัดแบบ Minimally Invasive Surgery จากระบบวิเคราะห์ทางชีวกลศาสตร์ (Biomechanical Analysis) เป็นต้น

ทั้งหมดนี้ เพื่อจุดมุ่งหมายเดียว คือ ให้คนไข้ได้กลับไปใช้ชีวิตในแบบที่เขาต้องการ…เร็วที่สุด เท่าที่เป็นไปได้

แน่นอนว่า ความสำเร็จของโรงพยาบาลเฉพาะทางในโลกยุคใหม่ ไม่ได้เกิดจาก “จำนวนเตียง” หรือ “ขนาดของอาคาร” หากแต่เกิดจากความเข้าใจในบริบทของโรคและความรู้สึกของผู้ป่วย ซึ่งต้องการทั้งความแม่นยำและความเอาใจใส่ในเวลาเดียวกัน

ทั้งนี้ รางวัล Thailand Top CEO 2025 ไม่ได้สะท้อนแค่ความสำเร็จเชิงธุรกิจของโรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ แต่ยังสะท้อนถึงแนวคิดของผู้นำที่เข้าใจว่า สุขภาพไม่ใช่เรื่องของโรค แต่คือเรื่องของคุณภาพชีวิต

โดย 9 ปีที่ผ่านมา โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ ไม่ได้เติบโตเพียงตัวเลข แต่เติบโตในหัวใจของผู้ป่วยนับแสน เพราะแนวคิดของ CEO ที่ไม่เคยหยุดเชื่อว่า “สุขภาพ” และ “เวลา” คือของขวัญที่ควรส่งคืนให้กับทุกคน และในฐานะหนึ่งใน CEO ที่ทรงอิทธิพลที่สุดของประเทศไทย นพ.ดิตถพงษ์ บุญอำพล ไม่ได้เพียงสร้างโรงพยาบาลที่ดีที่สุด แต่กำลังสร้าง “แบบจำลองของอนาคตด้านสุขภาพ” ที่เน้นคุณค่าที่ดีที่สุด นั่นเอง