เว็บไซต์ Pantip ที่เราคุ้นเคยกันดี ย้อนกลับไปเมื่อปี 2561 เคยมีจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์มากถึง 4.1 ล้านคนต่อวัน โดยที่เว็บไซต์แหล่งแชร์ข้อมูลยอดนิยมที่ คนจะชอบมาตั้งกระทู้ถามคำถามต่าง ๆ และเข้ามาอ่านรีวิวโรงแรมหรือร้านอาหาร โดยที่หลาย ๆ คนน่าจะเคยอยากรู้อะไร ก็จะเสิร์ชเรื่องนั้น แล้วตามหลังด้วยคำว่า “Pantip”
แต่ตัดภาพมาที่ปี 2566 ยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ Pantip ลดลงเหลือเพียงแค่ 2.5 ล้านคนต่อวันเท่านั้น หรือลดลงเกือบครึ่งจากปี 2561 หรือ 5 ปีก่อน ซึ่งจำนวนผู้เข้าชมที่ลดลงนี้ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อตัวเลขรายได้ของ Pantip ที่มีรายได้หลักมาจากการขายพื้นที่โฆษณาบนเว็บไซต์ และการเขียนบทความโฆษณาให้แก่ผู้สนับสนุน
บริษัท อินเตอร์เน็ตมาร์เก็ตติ้ง จำกัด เจ้าของ Pantip
ปี 2561 รายได้ 115 ล้านบาท กำไร 27 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 129 ล้านบาท กำไร 39 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 81 ล้านบาท กำไร 11 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 72 ล้านบาท กำไร 8 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 71 ล้านบาท กำไร 6 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 64 ล้านบาท กำไร 4.6 แสนบาท
แม้จะยังกำไรอยู่ แต่ก็เรียกได้ว่า รายได้และกำไรของบริษัทปรับลดลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะกำไรที่ลงมาเหลือเพียงหลักแสนแล้ว ซึ่งต้องบอกว่านอกเหนือจากเว็บไซต์ Pantip แล้ว Pantip ก็ยังมีเว็บไซต์อีก 3 แห่งที่ในเครือที่ยังเปิดให้บริการอยู่ ได้แก่
เว็บไซต์ Pantipmarket เว็บบอร์ดลงขายสินค้าต่าง ๆ และลงประกาศรับสมัครงาน
เว็บไซต์ Bloggang พื้นที่สำหรับเขียนบล็อก
เว็บไซต์ Pantown บริการให้ผู้ใช้สร้างเว็บบอร์ดและห้องสนทนาต่าง ๆ
โดย Bloggang และ Pantown ดำเนินการภายใต้บริษัท อินเตอร์เน็ตมาร์เก็ตติ้ง จำกัด ในขณะที่ Pantipmarket ดำเนินการภายใต้บริษัท พันทิปมาร์เก็ต จำกัด ซึ่งถ้ามาลองดูผลประกอบการก็จะเห็นได้ว่าบริษัท พันทิปมาร์เก็ต จำกัด ก็กำลังประสบปัญหาหนักเช่นกัน
ปี 2564 รายได้ 4.3 ล้านบาท ขาดทุน 1 แสนบาท
ปี 2565 รายได้ 4 ล้านบาท ขาดทุน 8.4 แสนบาท
ปี 2566 รายได้ 3.8 ล้านบาท ขาดทุน 1.2 ล้านบาท
สาเหตุหลักที่ Pantip กำลังประสบกับปัญหาก็คงหนีไม่พ้นการถูก disrupt จากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค ที่นิยมใช้สตาร์ตโฟนกันมากขึ้น ก็ทำให้หันมาเล่นแอปพลิเคชันมากกว่าการเข้าไปหน้าเว็บ นอกจากนี้เทรนด์การหาข้อมูลก็เปลี่ยนไปด้วย โดยปัจจุบัน ผู้ใช้รุ่นใหม่เวลาจะดูรีวิวอะไรต่าง ๆ ก็มักจะเข้าไปหาในโซเชียลมีเดียไม่ว่าจะเป็น Facebook TikTok หรือแม้แต่ Lemon8 ทำให้ Pantip ที่ไม่สามารถเจาะตลาดแอปพลิเคชันสตาร์ตโฟนได้ ต้องสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดไป
นอกจากนี้เอง ปัจจุบัน ตลาดเว็บไซต์และแอปฯ ก็มีคู่แข่งเข้ามาลงเล่นเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้ใช้เลือกจะใช้เวลาบนหน้าจอโทรศัพท์ในเว็บไซต์หรือแอปฯ อื่นมากกว่าการเข้า Pantip
ปัจจัยทั้งหมดนี้ก็ทำให้ Pantip ที่เคยมีกำไรเป็นสิบล้านต้องหล่นฮวบมามีกำไรระดับแสนในปัจจุบัน ซึ่งก็ต้องติดตามว่าในอนาคต Pantip ที่อยู่กับคนไทยมานานหลายปี จะสามารถพลิกสถานการณ์ได้อย่างไร
ที่มา: Datareportal, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า, เว็บไซต์ของบริษัท
ผู้เขียนและเรียบเรียง: พรบวร จิรภัทร์วงศ์