ในยุคหนึ่งคำว่า Kitsch ได้นิยามถึง สิ่งที่ดูไร้รสนิยม เสแสร้ง อยากจะเลียนแบบของชั้นสูง แต่ทำออกมาได้อย่างชั้นต่ำ จนดูประหลาดแบบล้น ๆ เกินกว่าที่ของชั้นสูงจะเป็น ทว่าเป็นความโชคดีที่โลกนี้อะไรก็ล้วนต้องเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ความรู้สึกนึกคิดที่มนุษย์มีต่อศิลปะก็เช่นกัน ในยุคนี้แม้ว่ากรอบทางศิลปะจะยังคงมีให้เห็นอยู่ แต่คนก็เปิดใจให้กับสิ่งที่ผิดแผกจากขนบกันมากขึ้น เส้นแบ่งความหรูหราและรากหญ้า ถูกแปลงไปเป็นศิลปะอย่างชนชั้นกลางมากขึ้น ไม่ว่าศิลปะนั้นจะทำมาจากอะไร ใครคือผู้สร้าง หรือเป็นของชนชั้นใด ก็มีคุณค่าและเอกลักษณ์ความงามเฉพาะตัวได้เช่นกัน
จากคำปรามาสที่ใช้เสียดสีอย่างรุนแรงนี้ ได้กลับเป็นสิ่งที่จุดประกายแรงบันดาลใจให้คู่รักสายอาร์ต ลูกศร-ศรุติ ตันติวิทยากุล ดีไซเนอร์สาวเจ้าของแบรนด์ Daddy and the Muscle Academy และ อั้ม-บุญญนัน เรืองวงศ์ อาร์ตไดเรกเตอร์โฆษณา หยิบเอาสิ่งที่ดูคิตช์ มาสร้างสรรค์ใหม่แล้วเติมแต่งด้วยจินตนาการและเรื่องราวต่าง ๆ จนเกิดเป็น Kitsch Hotel โรงแรมบูติกน้องใหม่ใจกลางราชเทวี ออกแบบและตกแต่งด้วยสไตล์วินเทจ ผสมผสานจินตนาการเข้ากับดีไซน์สุดคิวท์ สีสันสุดน่ารัก จะนอนพักก็สบาย จะถ่ายรูปก็สวยทุกมุม ตอบโจทย์วัยรุ่นสายคอนเทนต์ โดยเฉพาะกลุ่ม GenZ เพศหญิง ที่ความสวยงามเป็นอีกหนึ่งข้อที่ให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่าบริการและทำเลที่ดี มีให้เลือกหลากหลาย Theme สุดแฟนซีมากถึง 19 สไตล์ จาก 23 ห้องพัก เช่น Teddy Room, Kitsch Room, Floral Oasis, Forbidden Apple, Pink Pavilion, New Romance, Virgin Dream, Candy Cottage
โดยวิธีที่ทำให้ Kitsch Hotel ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็ด้วยวิธีโพรโมตที่ให้ความสำคัญกับการสร้าง Branding จากการใช้ภาพ Photoshoot ที่ผ่านการคิดมาอย่างดีสื่อสารคอนเซปต์ของโรงแรมแห่งนี้ให้ชัดยิ่งขึ้น รวมถึงการใช้ Video Marketing เพื่อแนะนำห้องพักแต่ละห้อง โดยดึงเอาเอกลักษณ์ของแต่ละห้องมาเล่าผ่านนางแบบเพศหญิงที่กำลังสวมบทบาทตามจินตนาการ ท่ามกลางบรรยากาศของห้องที่ถูกจัดแต่งตามธีมอย่างลงตัว ซึ่งก็เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยสร้างสตอรี่ให้แต่ละห้องสื่อสารกับผู้คนได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงการที่มีอินฟลูเอนเซอร์หลายท่านมาเข้าพักและถ่ายภาพลงโซเชียลก็ถือเป็นการโพรโมตที่ทำให้ Kitsch Hotel ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
และนอกจากความน่ารักจัดเต็มแล้ว จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ที่นี่สามารถดึงดูดผู้เข้าพักได้ คือ ดีไซน์ที่สวยงามระดับสตูดิโอถ่ายภาพที่ตกแต่งมาอย่างดี ผู้เข้าพักสามารถใช้เวลาทั้งวันได้กับการถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ ในราคาหลักพัน (กรณีที่ไม่ใช่เพื่อเชิงพาณิชย์) ที่หากเทียบกับราคาเช่าสตูดิโอแล้วถือว่าสูสีกัน แต่กลับมีข้อจำกัดที่มากกว่า เช่นระยะเวลาที่จำกัดเพียงไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งเมื่อเทียบกับการเข้าพักที่ Kitsch Hotel จึงถือว่ามีความคุ้มค่ากว่า เป็นอิสระได้มากกว่า และไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ ทั้งยังมีหลากหลายมุมให้ใช้เวลาครีเอตไอเดียความสนุกได้เต็มที่ และได้พักผ่อนสบาย ๆ พร้อมคอนเทนต์กลับไปแบบจัดเต็ม ตอบโจทย์อินฟลูเอนเซอร์ หรือกลุ่มวัยรุ่นที่ต้องการหาสีสันใหม่ ๆ ลงแพลตฟอร์มโซเชียลของตัวเอง
เพื่อให้เห็นภาพ เราขอยกตัวอย่างบางส่วนของ Kitsch Hotel มาให้ทุกท่านได้ทำความรู้จักที่นี่กัน ก้าวแรกเมื่อเข้าไปเยือน Kitsch Hotel ท่านจะพบกับแมวสีขาวสุดน่ารัก ยืนต้อนรับทุกท่านเข้าสู่โลกแห่งจินตนาการแห่งนี้ แต่นี่ไม่ใช่ตุ๊กตาแมวธรรมดา ๆ ทั่วไปอย่างที่มีภาพคุ้นตากัน ความพิเศษที่ทำให้ที่นี่แตกต่างอย่างโดดเด่น ก็เห็นได้ตั้งแต่ขนาดตัวและดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร เราอยากชวนให้นึกสนุกไปอีกสักนิด แล้วลองสังเกตรายละเอียดต่าง ๆ ที่ Kitsch Hotel ตั้งใจรังสรรค์ ใส่ใจในทุกรายละเอียด เช่น กระเบื้องโมเสกบริเวณพื้น ที่คุณลูกศรลงมือเรียงด้วยตัวเองเป็นชื่อ Kitsch Hotel ลวดลายหน้าลิฟต์ที่ราวกับประตูเวทมนตร์ หรือแม้แต่ของตกแต่งแต่ละชิ้นที่เสริมให้พื้นที่แห่งนี้เป็นดั่งโลกแห่งจินตนาการที่มีอยู่จริง
Kitsch Room เค้กก้อนโต วอลเปเปอร์ลายตาราง คู่สีฟ้าขาว เฟอร์นิเจอร์ไม้ พรมขนนุ่มฟู ทุกองค์ประกอบต่าง ๆ ภายในห้องสร้างบรรยากาศที่ชวนให้นึกถึงอเมริกัน ยุค 1950s ด้วยโทนสีพาสเทลที่จะมาเติมความหวานให้หัวใจพองโต สานฝันวัยเด็กที่ไม่ว่าใครก็เป็นเจ้าหญิงได้
Teddy Room เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามา เบื้องหน้าจะพบกับตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลตัวโต ภายในห้องรายล้อมด้วยภาพทิวทัศน์ ต้นไม้ สายน้ำ ภูเขา ของอุทยานแห่งชาติโยเซมิตี (Yosemite National Park) แห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ประกอบกับแสงไฟโทนอุ่น เติมเต็มให้บรรยากาศในห้องนี้เต็มไปด้วยความอบอุ่น ผ่อนคลาย เหมาะกับผู้พักทุกเพศทุกวัย มีความน่ารัก แต่ไม่หวานเลี่ยน รวมกับความเท่ที่ทำให้ห้องนี้กลมกล่อมลงตัว
Candy Cottage ห้องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Swedish farmhouse ในยุค 1960s ดีไซน์ด้วยโทนสีสุดน่ารัก ดูสบายตา พนังห้องแต่งแต้มด้วยรูปผลเชอร์รี่สีแดงตัดกับสีเขียวของใบส่งให้ห้องนี้ให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น มีการแยกโซนเตียงและพื้นที่นั่งเล่นเป็นสัดส่วน กลางห้องมีกระจกบานใหญ่ช่วยเสริมให้ห้องนี้มีเอกลักษณ์และดูสนุกยิ่งขึ้น เตียงแต่งด้วยระบายขอบหยัก ที่หมอนปักข้อความสีชมพูตัดกับสีเขียวลายทาง ดูน่ารัก น่านอน องค์ประกอบโดยรวมจึงทำให้ห้องนี้ดูน่ารักราวกับอยู่ในการ์ตูนเด็กสักเรื่อง
Floral Oasis โดดเด่นด้วยลวดลายดอกไม้บนพนังและเพดาน ที่บรรจงวาดด้วยมือลงด้วยความใส่ใจ ประกอบกับเฟอร์นิเจอร์สีเขียวละมุน การออกแบบที่ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวและเงียบสงบ ส่งให้ค่ำคืนนี้นอนหลับสบาย เป็นการจบวันที่สมบูรณ์แบบ พร้อมตื่นมาด้วยความรู้สึกดี ๆ ที่รายล้อมด้วยสภาพแวดล้อมที่สวยงาม
นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กน้อยที่เราหยิบยกมาชวนให้ผู้อ่านทุกท่านได้รู้จักกับ Kitsch Hotel มากขึ้น และแน่นอนว่ายังมีดีเทลความน่ารักอีกมากมายที่รอให้ท่านได้มาสัมผัสด้วยตัวเอง มาปล่อยใจเพลิดเพลินและเล่นสนุกไปกับดินแดนแห่งนี้ ที่ที่จะทำให้การพักผ่อนครั้งนี้ไม่ธรรมดา พร้อมเสิร์ฟความสนุกด้วยประสบการณ์ที่หาจากที่ไหนไม่ได้ บอกได้เลยว่า ถูกใจสายคอนเทนต์อย่างแน่นอน ท่านใดสนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลห้องพักหรือนัดหมายจองล่วงหน้าได้ที่ www.kitschhotels.com หรือ โทร. +66 81 445 2516
เขียนและเรียบเรียง : โพธิยา พาภักดี
ที่มา : Capital, Riety ภาพ : Kitsch Hotel
ติดตาม Business+ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/