gulf

สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลัง GULF ควบรวม INTUCH ดีลใหญ่ที่เกี่ยวโยง 5 บริษัททั้งไทยและตปท.

บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยข้อมูลผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อคืนวันที่ 16 ก.ค. 2567 ว่า จะทำการควบรวมบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC (เจ้าของเครือข่าย AIS)

ซึ่งจริงๆแล้ว GULF ได้เริ่มแผนทยอยเก็บ INTUCH มาตั้งแต่ปี 2563 เป็นครั้งแรกที่สัดส่วน 4.59% และทยอยเก็บมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในขณะนั้นได้ให้เหตุผลว่าเก็บเพราะ INTUCH เป็นหุ้นที่จ่ายปันผลดี แต่ก็ทยอยเก็บมาอย่างต่อเนื่องจนก่อนประกาศแผน Tender Offer หรือการประกาศรับซื้อหุ้นที่เหลือของบริษัท INTUCH จากผู้ถือหุ้นคนอื่นทั้งหมด ในเดือนเมษายน 2564 ตอนนั้น GULF ถือหุ้น INTUCH ด้วยสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 18.93% เข้าไปแล้ว และหลังจากการ Tender Offer GULF ได้ขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของ INTUCH โดยถืออยู่ในสัดส่วน 42.25% และ GULF ยังได้ซื้อหุ้น บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM (เจ้าของธุรกิจดาวเทียม) ทั้งหมดที่ INTUCH ถืออยู่ 41.13% ในปี 2565 ที่ผ่านมาอีกด้วย

ทั้งนี้การควบบริษัทระหว่าง GULF และ INTUCH จะเกิดนิติบุคคลใหม่เป็นบริษัทที่ควบกันขึ้น โดยมีสถานะเป็นบริษัทมหาชน (NewCo) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่ง NewCo จะได้ไปทั้งทรัพย์สิน หนี้ สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของ GULF และ INTUCH ทั้งหมด  คาดว่าธุรกรรมการควบบริษัทจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2 ของปี 2568

NewCo จะมีทุนจดทะเบียนและทุนชําระแล้วของ NewCo จํานวน 14,939,837,683 บาท (เกือบ 15,000 ล้านบาท) และมีบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งสัดส่วนการถือหุ้นใหญ่ในอีกหลายๆบริษัท นั่นทำให้ดีลควบรวมนี้เกี่ยวโยงกับบริษัททั้งในประเทศไทยและในสิงคโปร์เกี่ยวข้องด้วยถึง 5 บริษัท ได้แก่ GULF, INTUCH, ADVANC ,THCOM และ Singtel

ซึ่งภายหลังการควบรวมเสร็จสิ้น โครงสร้างการถือหุ้นใหม่ของ NewCo จะทำให้กลุ่มรัตนาวดี (หรือกลุ่ม GULF) อาจสูญเสีย 1 ที่นั่งในบอร์ดบริหารของ NewCo ให้กับ Singtel แต่อาจได้รับโควต้าบอร์ดบริหารใน ADVANC เพิ่มแทน ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าสัดส่วนการถือหุ้นที่แท้จริงของ Singtel ใน ADVANC น่าจะลดลงจากระดับปัจจุบันที่ 33.42% เป็น 26.98% หลังดีลเสร็จสมบูรณ์

ทีนี้มาดูกันว่า ภายหลังจากการควบรวมสำเร็จจะมีผลอย่างไรบ้างในมุมของการ Synergy ธุรกิจร่วมกัน

บล.หยวนต้า มองว่า ประโยชน์ระยะยาวขึ้นอยู่กับการต่อยอดกิจการ แต่อย่างไรก็ตามจะเป็นบวกต่อ ADVANC เพราะการที่ GULF มาถือ ADVANC โดยตรงจะทำให้สามารถบริหารจัดการ ADVANC ได้โดยตรงไม่ต้องผ่าน INTUCH จึงเพิ่มความคล่องตัวในการกำหนดนโยบายสำคัญได้ง่ายขึ้น อย่างเช่น การปรับเพิ่ม Payout Ratio (หรืออัตราส่วนเงินปันผลต่อกำไร) รวมไปถึงการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนในอนาคต และแผนขยายธุรกิจอื่นๆ เป็นต้น ขณะที่ INTUCH ได้โอกาสไปเติบโตในธุรกิจอื่นๆ ที่มีนัยสำคัญ

ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับ บล.อินโนเวสท์ มองเป็น Positive กับ GULF และ INTUCH เนื่องการปรับโครงสร้างใหม่นี้จะทำให้ NewCo จะมีความยืดหยุ่นในการบริหารมากขึ้น โดยเฉพาะการได้ ADVANC มาถือหุ้นโดยตรง (ก่อนหน้านี้ถือผ่าน INTUCH) ขณะที่คาดว่าจะสามารถทำ Synergy ภายในกลุ่มได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้หลังปรับโครงสร้างแล้ว NewCo จะถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นใหญ่ของ GULF 59.72% ขณะที่ SingTel มีการลดสัดส่วนเหลือเพียง 9.08% ทำให้บริษัท สิงคโปร์ เทเลคอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด (Singtel) ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ2 ใน ADVANC กลายเป็นคนกลุ่มน้อย (Minority) ซึ่งสิทธิการออกเสียงก็จะลดลงเช่นกัน

ด้าน บล.ยูโอบีเคย์เฮียน มองไปถึงมุมการขยายเครือข่ายให้บริการของ AIS ที่กว้างขึ้นในต่างประเทศ เพราะมีโอกาสที่ GULF จะใช้ ADVANC ในการลงทุนไปยังธุรกิจด้านโทรคมนาคม หรือขยายการลงทุนไปในระดับภูมิภาคมากขึ้น

เพราะดีลนี้ได้รับความเห็นชอบจาก Singtel แสดงให้เห็นถึงความเป็นพันธมิตร ซึ่งอาจจะทำให้เกิดข้อแลกเปลี่ยนบางอย่างเช่น การที่จะไปใช้ ADVANC จะได้รับประโยชน์ในการขยายกิจการไปในภูมิภาคที่เป็นไปได้มากขึ้น เพราะในอดีต  SINGTEL มีการลงทุนในคมนาคมในภูมิภาค เช่น ลาว เมียนมาร์ ทำให้ ADVANC จะสามารถเขยิบเข้าไปลงทุนได้ (เพราะก่อนหน้านี้ได้ถูก SINGTEL กันเอาไว้)

บทสรุปในมุมของ Business+ ดีลควบรวมนี้จะทำให้ GULF สามารถช่วยให้บริหารงานได้ง่ายขึ้น เพราะช่วยลดความซ้ำซ้อนของโครงสร้างการถือหุ้น และยังช่วยต่อยอดโอกาสเติบโตในโครงสร้างพื้นฐาน รวมไปถึงธุรกิจดิจิทัล จากเดิมที่ตัวเองเป็นบริษัทพลังงาน ก็จะมีธุรกิจใหม่ๆเข้ามาโดยได้ทั้ง Knowhow และ Asset ซึ่งแน่นอนว่าง่ายกว่าการลงทุนโดยเริ่มจากศูนย์

นอกจากนี้ยังทำให้ GULF มีอำนาจควบคุมใน ADVANC และ THCOM อีกด้วย ซึ่งทาง ADVANC ก็มีโอกาสขยายธุรกิจเครื่อข่าย AIS ไปยังระดับภูมิภาคได้มากขึ้น จึงเป็นที่จับตามองต่อว่ากลุ่ม GULF จะสานต่อ และนำพาธุรกิจไปในทิศทางไหนภายหลังดีลนี้เสร็จในไตรมาส 1 ของปี 2568

ที่มา : SET , GULF
ติดตามผ่าน TikTok ได้ที่ : https://www.tiktok.com/@thebusinessplus
Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS