888 Platinum Fruits

The Success Story of The Month ณธกฤษ เอี่ยมสกุล “Elon Musk แห่งวงการส่งออกผลไม้ของไทย บนเส้นทาง ‘Growing Together Fruitfully’

The Success Story of The Month By ‘Business+’ฉบับเดือนมีนาคม 2567 จะพาผู้อ่านมาพบกับบทสัมภาษณ์สุดพิเศษจาก คุณณธกฤษ เอี่ยมสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลททินัม ฟรุ๊ต จำกัด และกลุ่มบริษัทย่อย ซึ่งหากในอุตสาหกรรมการส่งออกผลไม้แล้วถือว่าเป็น Elon Musk แห่งวงการส่งออกผลไม้ของไทยเลยทีเดียว

888 Platinum Fruits

ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมส่งออกผลไม้ของไทยอาจไม่ได้เติบโตสูงมาก จากสภาพเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญที่ชะลอตัว ขณะที่การจัดการต้นทุนการผลิต ซึ่งมีสัดส่วนรวมกันเฉลี่ยเกือบ 80% ของต้นทุนรวม และหากรวมถึงสภาพอากาศที่แปรปรวน จากอุณหภูมิโลกและระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ตลอดจนปรากฏการณ์เอลนีโญ ยังเป็นความเสี่ยงต่อผลผลิตทางการเกษตร และถือเป็นภัยคุกคามของผู้ประกอบการอีกทางหนึ่ง และด้วยปัจจัยที่ไม่ได้เอื้ออำนวยมากนักเหล่านี้ ซึ่งมักจะถูกยกเป็นข้ออ้างสำหรับการดำเนินธุรกิจส่งออก แต่เชื่อหรือไม่ว่า บทสนทนาระหว่าง Business+ กับคุณณธกฤษ เอี่ยมสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลททินัม ฟรุ๊ต จำกัด และกลุ่มบริษัทย่อย เราค้นพบว่า ชายหนุ่มที่เข้ามาสานต่อธุรกิจครอบครัวต่อจากรุ่นบุกเบิก ได้สะท้อนวิธีคิดของผู้นำแห่งวงการส่งออกผลไม้ของไทยได้อย่างน่าสนใจ

บริษัท แพลททินัม ฟรุ๊ต จำกัด เป็นบริษัท Top 5 ของไทยในด้านการส่งออกผลไม้สดและสินค้าเกษตร โดยเฉพาะ 4-Best exotic Fruits of Thailand ได้แก่ ทุเรียน ลำไย มังคุด มะพร้าว โดยมีตลาดส่งออกกระจายทั้งในเอเชียและยุโรป มีปริมาณการส่งออกเฉลี่ยกว่า 18,000 ตันต่อปี และมี 4-subsidiary companies เชื่อมโยงธุรกิจการส่งออกผลไม้สดและสินค้าการเกษตรแบบครบวงจร

ทั้งการ provide สินค้าระดับพรีเมียมบริการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ระบบ Cold Chain ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ พร้อมลานโหลดสินค้า บริการ shipping ระหว่างประเทศ พร้อมจัดทำเอกสารและพิธีการศุลกากร และบริการลานรับฝากตู้คอนเทนเนอร์ให้แก่ธุรกิจเดินเรือขนส่งสินค้าชั้นนำระดับโลก ทุกธุรกิจในเครือดำเนินงานภายใต้มาตรฐานรับรองระดับสากล

ภายในช่วงเวลาแค่ทศวรรษเดียว คุณณธกฤษ ผู้ซึ่งมี Elon Musk ชายผู้ทรงอิทธิพลมากในโลกธุรกิจยุคใหม่เป็น Idol สามารถขยายไลน์ธุรกิจและการตลาดของบริษัท แพลททินัม ฟรุ๊ต จำกัด จนเติบใหญ่มีมูลค่ายอดขายรวม 5,200 ล้านบาท และวางเป้าหมายจะนำบริษัทฯ ก้าวเข้าไปเป็นบริษัทส่งออกผลไม้รายแรกของเมืองไทย ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ด้วยวิธีการหา Winning Zone ภายในแค่ทศวรรษเดียว ก็ต้องถือว่า บริษัท แพลททินัม ฟรุ๊ต จำกัด มี Key Success Factors ที่น่าสนใจอย่างมาก และถือเป็น The Great Mission ที่อยากเชิญชวนให้ผู้อ่านได้ติดตามไปพร้อม ๆ กัน

888 Platinum Fruits

คุณณธกฤษ เอี่ยมสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลททินัม ฟรุ๊ต จำกัด และกลุ่มบริษัทย่อย กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของ แพลททินัม ฟรุ๊ต ที่ประสบความสำเร็จสร้างรายได้รวม 5,200 ล้านบาทในหนึ่งทศวรรษได้นั้น มาจากการเรียนรู้ธุรกิจของครอบครัว โดยเริ่มต้นธุรกิจจากการส่งออกราชาและราชินีผลไม้ของไทย คือ ทุเรียนและมังคุดไปยังประเทศไต้หวัน ภายใต้แบรนด์ ‘888’ ในปี 2536 และหลังจากนั้นไม่นานได้มีการขยายไลน์ธุรกิจเพิ่มเติม จนก่อตั้งบริษัท แพลททินัม ฟรุ๊ต จำกัด ขึ้นมาเพื่อจะได้เพิ่มโอกาสทางการแข่งขันในอุตสาหกรรมส่งออกผลไม้สดและสินค้าเกษตรของไทย

ภายหลังจากอุตสาหกรรมส่งออกผลไม้สดและสินค้าเกษตรมีมูลค่าทางการตลาดที่ค่อนข้างสูงและมีแนวโน้มจะขยายตัวต่อเนื่อง คุณณธกฤษ จึงมองเห็นว่า หากอยากเป็นผู้เล่นหลักของตลาดต้องคุมทุกกระบวนการใน Supply Chain ทั้งหมด ดังนั้นในปี 2555 จึงตั้งบริษัท ตองแปดโลจิสติกส์ จำกัด (888 Logistic) ขึ้นมา เพื่อบริหารจัดการระบบขนส่งของตัวเองให้มีประสิทธิภาพ และสามารถควบคุมระยะเวลาในการขนส่งสินค้าได้ดีขึ้น

“ข้อดีของการทำระบบโลจิสติกส์เอง คือ เราจะรู้ว่าสินค้าจะเสร็จสิ้นทุกกระบวนการขนส่งเมื่อไหร่ และควบคุมเวลาได้ดีกว่าการใช้ขนส่งที่มีในท้องตลาด เพราะหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจนี้ก็คือระยะเวลา โดยสินค้าเกษตรจะมีช่วงอายุที่กำหนดไว้แล้วหลังเก็บเกี่ยวลงมาจากต้นและลำเลียงขนส่ง ซึ่งเราจะคุมระยะเวลาการขนส่งไม่ให้เกิน 15-20 วัน อย่างเช่น ทุเรียนเป็นผลไม้เมืองร้อน ต้องใช้เวลามากสุดในตู้เย็นไม่เกิน 20 วัน ดังนั้นหลังจากเก็บเกี่ยวต้องทำให้ถึงปลายทางให้เร็วที่สุด” คุณณธกฤษ กล่าว

4 นโยบายที่ทำให้ ‘แพลททินัม ฟรุ๊ต’ ประสบความสำเร็จ

  1. สร้าง Quality Management ที่ไม่ใช่เพียงแค่คุณภาพสินค้า แต่รวมถึงองค์กร และบุคลากร
  2. ติดตามความคืบหน้าของผลงาน
  3. จัดสรรการทำงานอย่างชัดเจน เพื่อให้การดำเนินงานบรรลุผล
  4. สร้างวัฒนธรรมองค์กร

แน่นอนว่า เบื้องหลังความสำเร็จของ แพลททินัม ฟรุ๊ต คือการสร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบฉบับของตัวเองขึ้นมาใหม่ เพื่อให้รากฐานธุรกิจแข็งแกร่งมากกว่าเดิม และใช้การบริหารด้วยระบบ Top Down ซึ่งข้อดีของการบริหารจัดการรูปแบบนี้คือ การนำประสบการณ์ทำงานของผู้บริหารระดับสูงมาปรับใช้กับกระบวนการทำงานของพนักงานทุกระดับ จึงทำให้สามารถวางแผนป้องกันข้อผิดพลาดล่วงหน้า และทำให้องค์กรสามารถเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้

นอกเหนือจากนั้น การบริหารองค์กรยังต้องพิจารณาภาพรวมของธุรกิจอยู่เสมอ และต้องเข้าใจตำแหน่งธุรกิจของตนเองว่าอยู่จุดไหนของห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ซึ่งจะช่วยให้ดำเนินธุรกิจได้คล่องตัว มีประสิทธิภาพมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น หากเป็นธุรกิจต้นน้ำอาจจะไม่ต้องเน้นในส่วนของการตลาดมากนัก แต่ต้องมาเน้นในเรื่องของคุณภาพสินค้า การจัดการระบบขนส่งให้ตรงตามเวลานัดหมาย เป็นต้น

อีกสิ่งหนึ่งคือ เรื่องของบุคลากร หากมีพนักงานที่ดีก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะสินค้าเกษตรจะไม่เหมือนกับสินค้าประเภทอื่น เนื่องจากช่วงอายุการเก็บรักษาที่สั้น ดังนั้นพนักงานจำเป็นต้องมีความรอบคอบ และสามารถแก้ไขปัญหาได้เป็นอย่างดี

888 Platinum Fruits

No.1 ประเทศอินโดนีเซีย

สำหรับแผนในการขยายตลาดนั้น คุณณธกฤษ กล่าวว่า การมองหากลุ่มตลาดในช่วงแรกเริ่มของการทำธุรกิจมีความท้าทายอย่างมาก เพราะกำลังการผลิตในช่วงเวลานั้นยังไม่สามารถรองรับจำนวนออร์เดอร์ปริมาณที่มากได้ จึงต้องมองหาตลาดรองที่มีโอกาสเติบโตสูง โดยเน้นในเรื่องของคุณภาพสินค้าที่ถูกคัดสรรแบบพรีเมียม ทำให้ประเทศแรกของการเริ่มต้น คือ ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจากการสำรวจหลายธุรกิจมักจะเลือกไปเจาะตลาดใหญ่อย่างประเทศจีน โดยที่ไม่ได้ดูโครงสร้างรวมของธุรกิจเพียงเพราะเป็นตลาดที่ให้ราคาสูง นั่นหมายถึงว่าของคุณภาพดีส่วนใหญ่จะถูกส่งออกไปจีน ขณะที่สินค้าเกรดรองลงมาจะถูกกระจายไปยังตลาดอื่น ภูมิภาคอื่น

แพลททินัม ฟรุ๊ต ทำตรงกันข้ามกับหลาย ๆ แบรนด์ โดยการเลือกไปเจาะอินโดนีเซียที่อาจดูเป็นตลาดขนาดเล็กแต่ก็มีจำนวนประชากรมากติดอันดับ 4 ของโลก ซึ่งสินค้าที่ส่งไปนั้นก็มีคุณภาพในระดับสูง โดยมุมมองต่อตลาดฝั่งอินโดนีเซียมีคู่แข่งน้อย และถ้าหาก แพลททินัม ฟรุ๊ต สามารถครองมาร์เก็ตแชร์ได้มากก็จะได้เปรียบในเชิงการแข่งขัน ซึ่งผลลัพธ์ของการวางกลยุทธ์แบบนี้ทำให้ในตลาดอินโดนีเซียมีสินค้าของ แพลททินัม ฟรุ๊ต เป็นส่วนใหญ่ และก็ทำให้เกิดภาพจำของแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ แบรนด์เป็นที่รู้จัก (Awareness) เพราะมีการลำเลียงส่งสินค้าอย่างต่อเนื่อง แม้จะเกิดสถานการณ์ COVID-19 ที่หลาย Suppliers มีสินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการ และมีการติดขัดในเรื่องของการขนส่ง

สำหรับการ Supply สินค้าให้กับผู้จัดจำหน่าย (Distributor) ทาง แพลททินัม ฟรุ๊ต ดำเนินการบนแผนผลักดันให้เติบโตไปด้วยกัน โดยไม่ได้หาผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ของอินโดนีเซีย เพราะส่วนหนึ่งไม่อยากลงไปแข่งขันทางด้านราคา จึงเน้นผู้จัดจำหน่ายขนาดกลางและเล็กแทน ในบางครั้งรายเล็กก็สั่งสินค้าตรง และบางครั้งก็ซื้อจากรายใหญ่เพิ่ม

เราจะช่วยซัพพอร์ตคนที่เห็นว่ามีโอกาสและจะเติบโตไปกับเรา ตามนโยบาย ‘Growing Together Fruitfully’ ซึ่งแผนงานที่ทำมาตลอดคือซัพพอร์ตผู้จัดจำหน่ายขนาดกลางและเล็ก หากมีความก้าวหน้ายังไงก็ยังคงอยู่เป็นพาร์ตเนอร์กัน เพราะเราซัพพอร์ตเต็มที่คุณณธกฤษ กล่าว

คุณณธกฤษ กล่าวต่อว่า ในช่วง 5-6 ปีแรกของ แพลททินัม ฟรุ๊ต ยังไม่ได้เจาะตลาดจีน โดยมุ่งเน้นเพียงแค่อินโดนีเซียอย่างเดียวเพื่อให้รากฐานธุรกิจมั่นคง ซึ่งในอินโดนีเซียสินค้าหลัก ๆ จะเป็นทุเรียนและลำไย ต่อมาไม่นานทางการอินโดนีเซียออกกฎระเบียบใหม่ในการจำกัดการนำเข้าผลไม้ ทำให้ยอดส่งออกผลไม้ในช่วงนั้นได้รับผลกระทบ แต่ แพลททินัม ฟรุ๊ต มองเห็นโอกาสจึงได้เจรจาขอเพิ่มโควต้า โดยบริษัทก็จะส่งสินค้าเกรดพรีเมียมให้เท่านั้น ที่จากเดิมสินค้ามีคุณภาพสูงอยู่แล้วก็ถูกยกระดับมาตรฐานให้สูงขึ้นอีก ซึ่งเสียงตอบรับที่ได้กลับมาดีเกินคาดมีออร์เดอร์เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ และภายหลังธุรกิจมีความแข็งแกร่งแล้วจึงได้มุ่งเป้าไปยังตลาดจีนที่ถือเป็นตลาดใหญ่ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2558 – 2559

“การที่จะรักษา Gross Profit ได้ต้องสร้างมาตรฐานให้กับสินค้า ซึ่งในช่วงที่ทางการอินโดนีเซียมีการกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตรขึ้นมา หลายผู้ประกอบการไม่ได้แข่งขันในเรื่องของราคาแต่แข่งขันในเรื่องของคุณภาพสินค้า เพราะโควต้าที่ได้รับมีจำนวนจำกัด ซึ่งถ้าสินค้าเราดีมีมาตรฐานสูงก็จะทำให้ขายได้กำไร และ แพลททินัม ฟรุ๊ต ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสินค้าเรามีความเหนือชั้นกว่าผู้เล่นรายอื่น จึงทำให้สามารถครองอันดับ 1 ของสินค้าทุเรียนและลำไยในตลาดอินโดนีเซียได้คุณณธกฤษ กล่าว

TOP 5 Exporter of Thailand

ทั้งนี้ในเชิงของการทำธุรกิจมีหลายบริษัทชั้นนำที่ต้องการร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับ แพลททินัม ฟรุ๊ต โดย คุณณธกฤษ กล่าวว่า บริษัทที่เข้ามาเป็นพาร์ตเนอร์กันแทบไม่ต้องลงมือในการจัดการบริหารงาน เพราะมีการซัพพอร์ตครบวงจร นั่นทำให้ แพลททินัม ฟรุ๊ต เป็นผู้เล่นสัญชาติไทยที่ติดท็อปไฟว์ของอุตสาหกรรมการส่งออกผลไม้สดและสินค้าเกษตรของไทย โดยความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากการวางแผน และคิดค้นกลยุทธ์ใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันที่เหนือกว่าอยู่เสมอ ต่างจากผู้เล่นรายอื่นที่มักดำเนินธุรกิจแบบ Play Safe จึงทำให้ถูกจำกัดกรอบการเติบโต

ในแง่ของคุณภาพนั้น เป็นสิ่งที่ แพลททินัม ฟรุ๊ต เหนือกว่าคู่แข่งแบบเห็นได้ชัด โดยเฉพาะผลผลิตที่มีคุณภาพอย่างทุเรียนและลำไย ซึ่งเกิดจากการให้ความสำคัญตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการเพาะปลูกเพื่อให้ได้ผลผลิตตรงตามคุณภาพที่ตั้งไว้ ด้วยการสร้างความรู้เชิงปฏิบัติการ (Know-How) ที่ลงลึกมากขึ้น ดังนั้น จึงสามารถสร้างผลผลิตที่ดีกว่าเดิม และผลลัพธ์จะออกมาอยู่ในรูปของรายได้และกำไร

“ผมมีแนวคิดตั้งแต่เด็กว่าอยากเป็นผู้นำในธุรกิจส่งออกผลไม้และสินค้าเกษตรในเอเชีย ซึ่งตอนนี้ใกล้เป็นจริง โดยเราครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ที่อินโดนีเซีย จึงได้เปรียบในการแข่งขันเป็นอย่างมาก และยังเป็นรายใหญ่ในตลาดจีน คุณณธกฤษ กล่าว

คิดแล้วทำผลลัพธ์ที่ได้ Exponential Growth’

สำหรับปัจจัยที่จะสนับสนุนให้ แพลททินัม ฟรุ๊ต เติบโตอย่างต่อเนื่องมาจากการขยายธุรกิจส่วนอื่น ๆ ในวงโคจรของ Supply Chain ให้มากขึ้นกว่าเดิม อย่างการขยายธุรกิจโลจิสติกส์ ที่เดิมทีมีรถหัวลากเพียง 2 หัว เพื่อวิ่งขนตู้คอนเทนเนอร์ แต่เมื่อสินค้ามีจำนวนมากขึ้นก็ได้ทำการเรียนรู้ และวิเคราะห์ขั้นตอนการทำงาน ระยะเวลาขนส่ง เมื่อได้ข้อมูลครบถ้วนจึงได้มีการเพิ่มจำนวนรถหัวลากมาเป็นรถหัวลาก 25 หัว และหางบรรทุก 50 หาง ซึ่งส่งผลให้พนักงานขับรถสามารถวิ่งงานได้ตลอดโดยไม่ขาดช่วงของการขนส่ง

ขณะเดียวกันการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์มีความคล่องตัว แต่ลานที่วางตู้สินค้ามีไม่เพียงพอ แพลททินัม ฟรุ๊ต จึงได้ใช้พื้นที่ 5 ไร่ที่ทางบริษัทมีอยู่แล้ว สร้างลานโหลดสินค้า มีระบบ ISO9001:2015 และ ระบบ Cold Chain เพื่อรักษาคุณภาพของสินค้า ขณะที่ได้มองหาสาเหตุของการดำเนินงานที่ล่าช้า ว่าเกิดจากการตรวจเช็ก Cold Chain ที่ใช้เวลานานกว่า 6 ชั่วโมง ซึ่งภายหลังทางบริษัทได้มีการนำปัญหาที่เจอมาแก้ไข และจัดการบริหารออกเป็นส่วนย่อยหลาย ๆ ส่วน ส่งผลให้มีการตรวจเช็ก Cold Chain ระบบ 24 ชั่วโมง และทำให้ แพลททินัม ฟรุ๊ต กลายเป็นลานโหลดสินค้าที่มีกระบวนการทำงานที่เร็วที่สุด เพราะใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็สามารถได้ตู้คอนเทนเนอร์

จะเห็นได้ว่า Key Success Factors ของ แพลททินัม ฟรุ๊ต นอกจากการควบคุมคุณภาพสินค้าตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงการที่มีระบบโลจิสติกส์เอง ช่วยให้ แพลททินัม ฟรุ๊ต มีศักยภาพการแข่งขันที่เหนือกว่า เพราะสามารถควบคุมกระบวนการทุกอย่างได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของเวลาที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง ดังนั้นในมุมของคุณณธกฤษแล้ว การลงทุนในโลจิสติกส์ถือเป็นการลงทุนในระยะยาวที่จะสร้างรายได้ให้ต่อเนื่อง

“ไม่มีผู้ประกอบการรายไหนที่อยากเอาตู้คอนเทนเนอร์มาค้างไว้ เพราะการทิ้งไว้ก็เหมือนตู้เสียที่วิ่งไม่ได้ เรามีการวางแผนโครงสร้างธุรกิจโลจิสติกส์เป็นอย่างดี เพราะสิ่งสำคัญของธุรกิจบนโลกใบนี้คือ Timing ทำยังไงก็ได้ให้เวลาที่เดินผ่านไปแต่ละนาทีเกิดประโยชน์และใช้ได้คุ้มค่ามากที่สุด” คุณณธกฤษ กล่าว

นอกเหนือจากนั้นยังมีเรื่องการประชาสัมพันธ์ บริหารจัดการที่ต้องมีการประสานงานกับ Suppliers อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มีการเตรียมตัว หรือเตรียมพร้อมกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น คุณณธกฤษ กล่าวว่า ปกติการขนส่งทุเรียนจะใช้เวลา 15-20 วัน แต่ในช่วง COVID-19 ต้องเพิ่มระยะเวลาขนส่งเป็น 30 วัน ซึ่ง แพลททินัม ฟรุ๊ต ได้แนะนำพาร์ตเนอร์เพื่อให้เข้าใจถึงหลักการขายสินค้าว่า หากระยะทางของลูกค้าที่จะมารับสินค้าไกลเกินไป ใช้ระยะเวลาขนส่งยาวนานก็จะไม่ขายสินค้า เพราะสินค้าจะยิ่งเสียคุณภาพ รวมถึงต้องบอกความเสี่ยงเรื่องรสชาติอาจจะไม่เหมือนรอบปกติให้กับพาร์ตเนอร์เข้าใจ ซึ่งเมื่อทุกอย่างทำเป็นหลักขั้นตอนปรากฏว่าแผนการดำเนินงานนี้ทำให้มีลูกค้าเพิ่มขึ้น ดังนั้นในช่วงสถานการณ์ COVID-19 เรียกได้ว่าช่วยผลักดันยอดขายได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังต้องใช้การวิเคราะห์ข้อมูลตลาด (DATA) เชิงลึก ที่เปรียบเสมือนเทคนิคที่ต้องใช้ความชำนาญในการเก็บเกี่ยว การขนสินค้าแต่ละชนิดที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่

ผลไม้เมืองร้อนกับผลไม้เมืองหนาวก็จะมีความแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของการเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว ซึ่งผลไม้เมืองหนาวจะเก็บเกี่ยวช่วงที่สุกแล้ว แต่ผลไม้เมืองร้อนจะเก็บเกี่ยวตอนดิบแล้วให้ไปสุกปลายทาง โดยระหว่างทางก็จะมีการบ่มไปตามระยะเวลาและอุณหภูมิ พอถึงปลายทางก็สามารถรับประทานได้เลย เพราะฉะนั้นกระบวนการหรือเทคนิคนี้จึงต้องมีความเชี่ยวชาญอย่างมาก คุณณธกฤษ กล่าว

จากการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ ปัจจุบัน แพลททินัม ฟรุ๊ต มีบริษัทลูกทั้งหมด 4 แห่ง ประกอบด้วย

  1. บริษัท ตองแปดผักผลไม้ จำกัด (888 Fruits & Vegetables) ดำเนินธุรกิจส่งออกผักและผลไม้ โดยมีตลาดหลัก ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน ไต้หวัน และยุโรป
  2. บริษัท ตองแปดโลจิสติกส์ จำกัด (888 Logistic) บริการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ภายในประเทศ และระหว่างประเทศ พร้อมลานโหลดสินค้า มีระบบ ISO9001:2015 และระบบ Cold Chain
  3. บริษัท สกาย ชอร์เทรดดิ้ง จำกัด (Sky Shore Trading) บริการ shipping ระหว่างประเทศ จัดทำเอกสารและพิธีการศุลกากร โดยมีใบรับรองจากศุลกากรโลก
  4. บริษัท สกายชอร์ ดีโปท์ จำกัด (Sky Shore Depot) บริการลานรับฝากตู้คอนเทนเนอร์ให้ธุรกิจการเดินเรือขนส่งสินค้าชั้นนำระดับโลก

Future Operations Plan

สำหรับแผนการในอนาคต คุณณธกฤษ กล่าวว่า แพลททินัม ฟรุ๊ต จะขยายฐานลูกค้าไปพร้อม ๆ กับพาร์ตเนอร์รายเดิม เพื่อเจาะตลาดหากลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ และเติบโตไปด้วยกัน ซึ่งทางฝั่งบริษัทก็จะมีการซัพพอร์ตพาร์ตเนอร์อย่างครบวงจร ขณะที่การเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่มองว่าไม่ใช่เรื่องยาก เพราะสินค้าของ แพลททินัม ฟรุ๊ต มีคุณภาพสูง สามารถเทียบเคียงแข่งขันกับรายอื่นในตลาดได้เป็นอย่างดี

โดยแผนการขยายธุรกิจในปี 2567 มองเป้าหมายไปที่ตลาดอินเดีย โดยผลไม้ที่จะเป็นสินค้าหลัก ก็คือ ‘ลำไย’ โดยปัจจุบันนี้ Branding ของแพลททินัม ฟรุ๊ต ติดตลาดเป็นอันดับ 1 ของอินโดนีเซีย ซึ่งเหตุผลหลักที่เจาะตลาดอินเดียเพราะมีจำนวนประชากรที่มาก และคนอินเดียก็มีกำลังทรัพย์สามารถซื้อได้

ขณะเดียวกันได้เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ซึ่งเหตุผลหลักที่ตัดสินใจเข้าตลาดฯ เพราะต้องการเพิ่มการรับรู้ต่อแบรนด์ และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์เพื่อหาโอกาสในการขยายตลาดให้เติบโตมากยิ่งขึ้น โดยการเป็นบริษัทมหาชนก็จะดึงดูดให้เกิดการร่วมมือทางธุรกิจได้ง่าย ดังนั้นการเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ ครั้งนี้จะเป็นใบเบิกทางให้กับ แพลททินัม ฟรุ๊ต ได้อย่างมาก

“ในการทำธุรกิจอย่าหยุดที่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง ต้องมีการขยายแตกไลน์ธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อให้โครงสร้างธุรกิจเกิดความแข็งแรง ซึ่งนอกจากจะขยายธุรกิจในด้านต่าง ๆ แล้ว เรื่องของสินค้าก็อย่าหยุดพัฒนาเช่นกัน โดยเรามีแผนจะแปรรูปสินค้าเกษตรให้มีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนานขึ้นเพื่อให้เกิดความแปลกใหม่ของสินค้า” คุณณธกฤษ กล่าว

ตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจเข้าปีที่ 14 ของ แพลททินัม ฟรุ๊ต’ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการมีโครงสร้างองค์กรแข็งแกร่ง หรือ นโยบายที่ดี จะช่วยขับเคลื่อนให้บริษัทประสบความสำเร็จได้ ขณะเดียวกันมุมมองจากการลองผิดลองถูก รวมถึงการลงมือทำอย่างรวดเร็วเพื่อหาช่องทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้เกิดการสร้างรายได้ในระยะยาว ทั้งหมดนี้ถือเป็นจุดแข็งและจุดเด่น ภายใต้การบริหารงานของ คุณณธกฤษ เอี่ยมสกุล ที่เริ่มต้นธุรกิจจากศูนย์ จนสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัททะลุเกินกว่า 5 พันล้านบาท

เขียนและเรียบเรียง : ศิริวรรณ อรรถสุวรรณ , พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์
ติดตาม Business+ ได้ในช่องทางอื่นๆ ที่ Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS