รู้จัก ‘125 สาทร’ คอนโดหรูระดับ Super Luxury หลังศาลสั่งถอน EIA หวั่นซ้ำรอย ‘แอชตัน อโศก’

ถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่กำลังได้รับความสนใจไม่น้อย สำหรับกรณีการถูกศาลสั่งหยุดก่อสร้าง พร้อมทั้งเพิกถอน EIA ของโครงการคอนโดหรู ‘125 สาทร’ ที่มีการก่อสร้างไปแล้วตั้งแต่ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีผู้ทำการจองไปแล้วถึง 50% ซึ่งภายหลังจากมีข่าวออกมา ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่นานก็เพิ่งมีประเด็นการเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างโครงการ ‘แอชตัน อโศก’ จนทำให้มีลูกบ้านได้รับผลกระทบเป็นจำนวนไม่น้อย ทำให้เกิดความวิตกกังวลว่ากรณีของ ‘125 สาทร’ จะเป็นการซ้ำรอยโครงการก่อนหน้านี้หรือไม่

โดยวันนี้ Business+ จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับโครงการ ‘125 สาทร’ คอนโดหรูระดับ Super Luxury ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงอยู่ในตอนนี้

สำหรับโครงการ ‘125 สาทร’ หรือ ‘125 SATHORN’ เป็นคอนโดที่ถูกพัฒนาภายใต้ บริษัท พีเอ็มที พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งเกิดจากการผนึกกำลังกันระหว่างบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) (TTA) ถือหุ้น 60% และหุ้นส่วนบริษัทญี่ปุ่นสองราย ถือหุ้น 40% ได้แก่ บริษัท คันเดน เรียลตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (KRD) และ บริษัท โทเร คอนสตรัคชั่น จำกัด (TCC)

โดยโครงการ ‘125 สาทร’ เป็นคอนโดหรูระดับ Super Luxury สูง 36 ชั้น จำนวน 2 ตึก เชื่อมถึงกันบนพื้นที่กว่า 450 ตร.ม. พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันบนพื้นที่กว่า 4,500 ตร.ม.ย่านสาทรซึ่งเป็นทำเลใจกลางกรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิดเพื่อเป็นพื้นที่แห่งการพักผ่อน เสมือนโอเอซิสใจกลางเมือง เพื่อหลบหนีความวุ่นวายและการใช้ชีวิตแสนเร่งรีบในปัจจุบัน โดยบริเวณพื้นที่ภายในและการตกแต่งถูกรังสรรค์ รวมห้องพักอาศัยทั้งหมด 755 ยูนิต มีขนาดตั้งแต่ 1 – 2 ห้องนอน ราคาเริ่มต้นที่ 6.9 ล้านบาท ที่ตั้งอยู่ใจกลางสาทร ซึ่งถือเป็นทำเลทอง บนพื้นที่กว่า 3 ไร่ ด้วยพื้นที่โครงการหน้ากว้างถึง 97 เมตร เลียบถนนสาทร ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีช่องนนทรีเพียง 500 เมตร ด้วยมูลค่าโครงการสูงกว่า 8,000 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างในเดือนกันยายน 2566 และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2569 โดยโครงการนี้ยังได้รับการสนับสนุนวงเงินสินเชื่อระยะยาวจากธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด รวม 1,700 ล้านบาท อีกด้วย

สำหรับประเภทห้องพัก แบ่งเป็น
1Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.55-43.70 ตร.ม.
2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 59.70-103.85 ตร.ม.
3 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 120.15-152.45 ตร.ม.
4 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 178.35-178.90 ตร.ม.
Duplex Penthouse พื้นที่ใช้สอย 163.60-330.60 ตร.ม.
Penthouse พื้นที่ใช้สอย 260.75-282.85 ตร.ม.

ทั้งนี้ ภายหลังการเปิดจองโครงการ ‘125 สาทร’ ทางบริษัทฯ ก็ออกมาเปิดเผยว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าชาวไทยและต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูง (High-Net-Worth Individual) โดยมียอดขายแล้วถึง 50%

อย่างไรก็ดี ภายหลังก่อสร้างได้ไม่นานก็เกิดข่าวที่ทำให้ทั้งเจ้าของโครงการและว่าที่ลูกบ้านต่างก็รู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ไปตามกัน เมื่อศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งเพิกถอนการรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอ (EIA) และใบอนุญาตก่อสร้างของโครงการ ‘125 สาทร’ โดยมีผลย้อนหลัง

โดยคำพิพากษาดังกล่าวเป็นผลจากการฟ้องร้องคดีโดยเจ้าของร่วมอาคารชุด ‘เดอะ เม็ท’ (ซึ่งตั้งอยู่บนที่ดินผืนเดียวกัน) โดย ’เดอะ เม็ท’ ยื่นฟ้องคดีนี้ต่อหน่วยงานของรัฐหลายหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการให้ความเห็นชอบรายงาน EIA และการออกใบอนุญาตก่อสร้างสำหรับโครงการ ‘125 สาทร’ สืบเนื่องจากเดิมนั้น ‘บริษัท เพบเพิล เบ (ประเทศไทย) จำกัด’ ผู้พัฒนาโครงการ ‘เดอะ เม็ท’ เป็นเจ้าของที่ดินขนาด 10 ไร่ ซึ่งต่อมาเมื่อปี 2547 ‘เพบเบิล เบ’ ได้แบ่งที่ดินดังกล่าวออกเป็นสองแปลง ได้แก่ ที่ดิน 7 ไร่ สำหรับการก่อสร้างโครงการ ‘เดอะ เม็ท’ และที่ดิน 3 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินที่จะมีการก่อสร้างโครงการ ‘125 สาทร’  ปัจจุบันที่ดินดังกล่าวเป็นของ ‘บริษัท พีเอ็มที พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด’

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากที่ดินทั้งสองแปลงดังกล่าวได้ใช้ในการขออนุญาตก่อสร้างโครงการ ‘เดอะ เม็ท’ ไปแล้ว ที่ดินทั้ง 10 ไร่ จึงอยู่ภายใต้การใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อก่อสร้างอาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษ ดังนั้นทางฝั่งโครงการ ‘เดอะ เม็ท’ จึงได้กล่าวอ้างว่าแบบอาคารของ ‘125 สาทร’ มีขนาดใหญ่เกินกว่าขนาดอาคารที่กฎหมายกำหนด หลังจากหักพื้นที่ดินของ ‘เดอะ เม็ท’ ออกจากพื้นที่ 10 ไร่ จึงนำมาซึ่งการฟ้องร้องดังกล่าว

อย่างไรก็ดี ภายหลังการเผยแพร่คำพิพากษาดังกล่าว ทางบริษัท พีเอ็มที พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ได้ออกมาประกาศว่าจะยังคงดำเนินโครงการต่อไป โดยระบุว่า บริษัทฯ ในฐานะผู้พัฒนาโครงการ 125 Sathorn ยังคงยืนยันถึงความมั่นคงและความแข็งแกร่งทางด้านการเงินและการลงทุน พร้อมทั้งเตรียมแผนสำรองในการดำเนินการก่อสร้างเพื่อให้เกิดผลกระทบกับลูกค้าให้น้อยที่สุด มั่นใจโครงการจะยังคงดำเนินการก่อสร้างจนสำเร็จตามความคาดหมายของผู้พัฒนาโครงกา

เช่นเดียวกับทางบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) (TTA) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมพัฒนาโครงการ ‘125 สาทร’ ก็ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถึงการดำเนินโครงการต่อไปเช่นกัน โดยระบุว่า บริษัทฯ ยืนยันว่า การดำเนินการขอรับความเห็นชอบ EIA จาก คชก. และขอรับใบอนุญาตก่อสร้างจาก สนย. กรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการไปตามระเบียบขั้นตอนภายใต้ข้อกำหนดทางกฎหมายทุกประการจนได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง TTA ยังคงยืนยันถึงความมั่นคงและความแข็งแกร่งทางด้านการเงินและการลงทุน พร้อมทั้ง PMTP ได้เตรียมแผนสำรองในการดำเนินโครงการให้เกิดผลกระทบกับลูกค้าให้น้อยที่สุด ซึ่งมั่นใจได้ว่า PMTP จะพัฒนาโครงการจนสำเร็จในที่สุด

ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีการยืนยันจากทางผู้พัฒนาโครงการออกมา แต่ก็ยังคงต้องติดตามความคืบหน้าต่อไปว่าท้ายที่สุดแล้วโครงการ ‘125 สาทร’ จะสามารถดำเนินการก่อสร้างต่อไปจนแล้วเสร็จและสามารถต้อนรับผู้อาศัยได้ตามเดิมหรือไม่ ซึ่งทางผู้พัฒนาโครงการจำเป็นต้องเร่งดำเนินการเพื่อหาข้อสรุปที่ชัดเจนจากทุกฝ่ายมานำเสนอต่อสังคมต่อไป เนื่องจากก่อนหน้านี้ที่มีกรณีคล้ายกันนี้ คือกรณีของโครงการ ‘แอชตัน อโศก’ ที่ถูกศาลปกครองสูงสุดพิพากษาเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้าง จนทำให้เกิดผลกระทบต่อลูกบ้านจำนวนไม่น้อย อีกทั้งเกิดการตั้งคำถามจากสังคมมากมาย และท้ายที่สุดผู้ที่ได้รับผลกระทบหากโครงการไม่สามารถไปต่อได้ นอกจากผู้พักอาศัยแล้ว ก็คือผู้พัฒนาโครงการที่นอกจากจะเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์แล้วยังกระทบต่อชื่อเสียงที่จะมีผลต่อการประกอบธุรกิจอีกไม่น้อย

ที่มา : 125sathorn, siamrath, thinkofliving, InfoQuest, dailynews

เขียนและเรียบเรียง : เพชรรัตน์ แสงมณี

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.thailand/

#Businessplus #TheBusinessplus #นิตยสารBusinessplus #125สาทร #คอนโดหรู #แอชตันอโศก