ย้อนกลับไปในปี 2011 เราจะเห็นได้ว่าเม็ดเงินลงทุนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาสู่อาเซียนเราอยู่ที่ 2,974,652 ล้านบาท
โดยมีสิงคโปร์เป็นอันดับ 1 ที่นักลงทุนทั่วโลกสนใจ ทั้งนี้ยังมีอินโดนีเซีย และมาเลเซียตามลำดับ อย่างไรก็ตามทั้ง 3 ประเทศนี้ถือเป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมใหญ่แตกต่างกันไป พร้อมทั้งยังมีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์อีกด้วย
แต่ทว่า 10 ปีผ่านไป (ปี2021) เราจะสะดุดตากับตัวเลขของประเทศอันดับที่ 4 อย่างเวียดนาม ที่เติบโตขึ้น 118% เลยทีเดียว ซึ่งในช่วงเวลานี้เวียดนามเองก็เปรียบเสมือนคู่แข่งตัวฉกาจของไทย เพราะด้วยเวียดนามมีค่าแรงถูก ทรัพยากรธรรมชาติที่ยังมีเหลือใช้ หลาย ๆ นักลงทุนเริ่มเข้าไปสร้างโรงงานการผลิตในเวียดนามมากพอสมควร
อย่างไรก็ดีไทยเราเองก็มี FDI เติบโตขึ้นกว่า 385% ตลอด10ปีที่ผ่านมานับได้ว่าสูงมาก ๆ ซึ่งเราสามารถดึงดูดเหล่านักลงทุนได้จากหลายอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็น อาหาร ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ยางและพลาสติก เคมีภัณฑ์ และปิโตรเลียม ในอนาคตเราอาจจะเห็นนักลงทุนมาตั้งฐานการผลิตในไทยเราอีกมากมายเช่นกัน
และเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ เราคงเห็นได้ว่าหากเราเทียบมูลค่าเม็ดเงิน FDI ทั้งอาเซียนจากปี 2011-2021 เติบโตขึ้นมากถึง 87% สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนทั่วโลกกำลังมองอาเซียนเป็นอีกหนึ่งในจุดหมายปลายทางของการลงทุนนั่นเอง
เขียนและเรียบเรียง : อโญศิริ สุระตโก
ที่มา : data.aseanstats, BOT, bangkoksme
ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/o9fQ6fA
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.thailand/…
#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus#FDI #asian #Thailand #vietnam #Singapore