The Business Plus บิสิเนสพลัส
บนโลกของ NFT มักจะมีเรื่องน่าสนใจชวนติดตามให้ได้ประหลาดใจ และสร้างแรงบันดาลให้กับใครหลายคนได้ทุกวัน
ล่าสุดเป็นที่น่าจับตามองกันอีกครั้ง กับความครีเอทีฟบนโลก NFT ของ Jesus Calderon ครีเอเตอร์หนุ่มชิคาโกวัย 29 ปี ผู้ปั้นและออกแบบ Virtual watches นาฬิกาเสมือนจริงในรูปแบบ 3 มิติ ภายใต้แบรนด์ Generative Watches โดยมี DEMØN BITMARINER ผลงานชื่อดังที่สามารถกำไรได้มากถึง 6.6 ETH. หรือราว 6.6 แสนบาท (20,000 ดอลลาร์สหรัฐ)
Jesus Calderon ให้สัมภาษณ์กับทาง hodinkee เว็บไซต์นาฬิกาชื่อดังจากมหานครนิวยอร์ก ว่า แรงบันดาลใจเริ่มแรก เกิดจากที่ตนได้เห็นภาพรถยนต์และนาฬิกาจากนักขุดคริปโตฯ ชื่อดังที่โพสลงทวิตเตอร์ ทำให้เกิดปิ๊งไอเดียที่จะสร้างนาฬิกาเสมือนจริงในโลกคริปโตฯ เพื่อนักสะสม ซึ่งโดยส่วนตัว ตนเองชอบนาฬิกา และเป็นนักสะสมอยู่แล้ว จึงนำเอาสกิลการออกแบบภาพ 3 มิติที่มีอยู่ บวกกับเห็นช่องว่างของโอกาส จึงลงมือลุยตลาด NFT เปิดเป็นแบรนด์ที่มีชื่อว่า Generative Watches
ปัจจุบัน Generative Watch มีผลงานกว่า 181 ชิ้น มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยอยู่ที่ 20.3 ETH (หรือราว 67,106 ดอลลาร์สหรัฐ ตีเป็นเงินไทยประมาณ 2.22 ล้านบาท ในอัตราสกุลเงินปัจจุบัน)
ซึ่งการออกแบบของแบรนด์จะใช้รูปแบบดีไซน์นาฬิกา Rolex มีการเปลี่ยนเครื่องหมายการค้าในเป็น Rødex แทน ซึ่งจีซัสยังเล่าว่า ผลงานคอลเลกชันรุ่น Rødex Daitona ได้ตั้งราคาอยู่ที่ 0.2 ETH ต่อชิ้น ซึ่งเขาสามารถขายไปได้ถึง 68 ภาพ รวมเป็นเงินกว่า 1.58 ล้านบาท (47,600 ดอลลาร์สหรัฐ)
รวมถึงอีกความสำเร็จที่จีซัสภูมิใจ คือ ภาพนาฬิกาคอลเลกชันพิเศษ Generative Watches ที่เขามอบให้กับวาฬ (นักลงทุน) เป็นการตอบแทนสำหรับการกวาดซื้อผลงานไปถึง 25 ชิ้น ซึ่งต่อมานักลงทุนนำไปขายต่อได้ถึง 6.6 ETH หรือราว 6.6 แสนบาท (20,000 ดอลลาร์สหรัฐ) โดยปัจจุบันหากเข้าไปดูราคาของภาพดังกล่าว จะพบว่าราคาแตะอยู่ที่ 7.6 ETH เป็นที่เรียบร้อย หรือราว 8.25 แสนบาทนั่งเอง
ทั้งนี้เป้าหมายของ Generative Watches คือต้องการให้หลายคนจำแบรนด์ได้ เหมือนกับเหล่าแบรนด์ดัง อย่าง Submariner หรือ Daytona เพื่อสร้างเป็นคอมมิวนิตีที่สามารถเพื่อการเทรดและเพิ่มสภาพคล่อง
มากไปกว่านั้นจีซัสยังกล่าวว่า เขาต้องการให้นาฬิกาสามารถใช้งานได้จริง ดูเวลาได้จริง ๆ ในโลก Metaverse หรือโลกเสมือนจริงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในขณะนี้
ถือว่าเป็นไอเดียที่น่าสนใจมากทีเดียวสำหรับการเปิดโอกาสบนโลก NFT ที่มีคู่แข่งมากขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะการนำศิลปะที่เป็นภาพ มาต่อยอดไปเป็นสินค้าที่สามารถใช้ได้ในโลก Mataverse จริง
ซึ่งปฎิเสธไม่ได้ว่าในอนาคตโลกของ Metaverse จะขยายใหญ่ขึ้น มีมูลค่าสูงมากขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น ที่ดิน หรืออสังหาริมทรัพย์ใน Metaverse ก็มีการจับจองซื้อขายที่ดินกันเป็นจำนวนมาก
