เปิดกลยุทธ์ WARRIOR ผลงานโบว์แดง ปั้นน้องใหม่ ขึ้นชั้นเบอร์ 5 ในเวียดนาม

หาก “กระทิงแดง” เป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่จุดพลุตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในเมืองไทยและสร้างชื่อจนโด่งดังในต่างประเทศ “วอริเออร์” (WARRIOR) ก็เป็นแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลังอัดแก๊สที่คิดค้นขึ้นเพื่อเจาะต่างประเทศอย่างเวียดนามจนติดลมบนเช่นกัน โดยใช้เวลาเพียง 2 ปี สามารถไต่อันดับขึ้นมาเป็นอันดับ 5 ของตลาดได้ท่ามกลางสภาพการแข่งขันที่ดุเดือด

ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า เวียดนามเป็นประเทศเนื้อหอมที่หลายชาติต้องการเข้ามาลงทุน เพราะด้วยปัจจัยต่าง ๆ ทั้งเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยมีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจอยู่ที่อันดับ 34 ผนวกกับจำนวนประชากร 96 ล้านคน มากเป็นอันดับที่ 14 ของโลก รวมทั้งมีอัตราการใช้อินเทอร์เน็ตสูงเป็นอันดับ 5 ในอาเซียน

และเมื่อเจาะลงไปส่องตลาดเครื่องดื่ม พบว่าเป็นตลาดใหญ่สุดในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค มีสัดส่วนถึง 37.3% ปัจจุบันมีมูลค่า 1 แสนล้านบาท แม้ขนาดตลาดจะเล็กกว่าไทยที่มีมูลค่า 2.3 แสนล้านบาท แต่ในเซ็กเมนต์เครื่องดื่มชูกำลังนั้นใหญ่มีมูลค่าตลาดรวม 25,000 ล้านบาท มีการเติบโตอยู่ที่ 6% เป็นรองแค่ตลาดน้ำอัดลม ขณะที่ไทยมีมูลค่าตลาดรวมเพียง 23,000 ล้านบาท และเติบโตคงที่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

 

อีกทั้งพฤติกรรมในการดื่มเครื่องดื่มชูกำลังของผู้บริโภคเวียดนามยังต่างจากคนไทย โดยนิยมดื่มเพื่อดับกระหายไม่ต่างจากน้ำอัดลม การบริโภคจึงดื่มได้ตลอดเวลา แต่ในขณะเดียวกัน สภาพการแข่งขันของตลาดเครื่องดื่มชูกำลังก็สูงมากตามการเติบโตของตลาด โดยมีคู่แข่งระดับยักษ์ทั้งจากแบรนด์ไทยและแบรนด์ต่างชาติเปิดตัวใหม่ทุกไตรมาสทีเดียว

สำหรับการบุกตลาดเวียดนามของกลุ่ม TCP เริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว ด้วยการส่ง “เรดบูล” เปิดตลาด และด้วยจุดแข็งทั้งในด้านคุณภาพและความแตกต่างในการทำตลาด ทำให้ปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 โดยมีส่วนแบ่งตลาด 37% ทิ้งห่างเบอร์ 2 อย่าง String ของเป๊ปซี่ ที่มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 30% ต้น ๆ

 

ในเมื่อกลุ่ม TCP มี Red Bull ทั้งยังครองเบอร์ 1 ในตลาด ทำไมต้องปั้นแบรนด์ WARRIOR มาลุยตลาดอีก ?

 

“เราต้องการทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน เพื่อตอกย้ำ DNA ของกลุ่มธุรกิจ TCP ที่ไม่หยุดนิ่งในการคิดค้นและพัฒนาสิ่งใหม่ตอบสนองความต้องการของตลาดตลอดเวลา ขณะเดียวกันเราพิสูจน์มาหลายครั้งแล้วว่าการใช้แบรนด์เดิมอาจไม่เหมาะสม แต่การสร้างแบรนด์ใหม่มีโอกาสแจ้งเกิดในตลาดต่างประเทศได้ดีกว่า”

 

วัสนัย กฤษอร่ามเรือง ผู้อำนวยการสายงานธุรกิจต่างประเทศ กลุ่มธุรกิจ TCP บอกถึงเหตุผลและแรงบันดาลใจในการพัฒนา WARRIOR ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เกิดจากการเข้าไปศึกษาวิจัยตลาดและทำความเข้าใจความต้องการผู้บริโภคอย่างแท้จริง โดยพบว่ายังมีช่องว่างอีกมาก

เพราะตลาดเครื่องดื่มชูกำลังอัดแก๊สมีสัดส่วนตลาดถึง 50% จากตลาดรวมเครื่องดื่มชูกำลัง แต่ผู้เล่นในตลาดนี้ยังไม่มากนัก เพราะส่วนใหญ่จะเจาะตลาดเครื่องดื่มชูกกำลังเป็นหลัก ขณะที่ความต้องการของผู้บริโภคต้องการเครื่องดื่ม Refreshment เพื่อช่วยเพิ่มพลังกายและใจให้ทำในสิ่งที่หวังให้สำเร็จ

 

เครื่องดื่มชูกำลังอัดแก๊สภายใต้แบรนด์ WARRIOR จึงเกิดขึ้นในปลายปี 2016 โดยวางโพซิชันเป็น Casual Energy Drink หรือเครื่องดื่มไฮบริดระหว่างเครื่องดื่มชูกำลังและน้ำอัดลม ซึ่งแตกต่างจาก Red Bull และคู่แข่งชัดเจน เพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ เมื่อรวมกับการทำกิจกรรมการตลาดสร้างแบรนด์ที่เน้น Emotional อย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบัน WARRIOR มีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 100% ทุกปี และสามารถก้าวสู่อันดับ 5 ของตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในเวียดนามได้อย่างรวดเร็ว

 

พร้อมกันนี้ในอนาคตยังมีแผนจะพัฒนาผลิตภัณฑ์แบรนด์ใหม่ออกสู่ตลาดอีก 1 แบรนด์ และภายใน 3 ปีตั้งเป้าจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มในเวียดนามมากกว่าอีก 50%

 

ถือเป็นก้าวย่างสำคัญของกลุ่ม TCP ในการสร้างแบรนด์ไทยในต่างประเทศ ก่อนจะต่อยอดนำแบรนด์ไทยก้าวสู่เวทีระดับโลกอย่างแข็งแกร่งต่อไป