The Business Plus บิสิเนสพลัส
หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อเดือนกุมภาพันธ์ของสหรัฐ (Consumer Price Index (CPI)) กระโดดทะลุเพดานสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1982 หรือสูงสุดในรอบ 40 ปีมาอยู่ที่ 7.9% เมื่อกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ล่าสุดเมื่อช่วงดึกที่ผ่านมาทางด้านกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปได้ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อออกมาเช่นกันพบว่าอยู่ที่ 5.9% หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.8% จากเดือนมกราคม 2022 ที่ผ่านมาที่ 5.1% (ข้อมูลจากสำนักสถิติ Eurostat statistics agency) โดยในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปทั้งหมดมีเพียง 2 ประเทศเท่านั้นที่ตัวเลขเงินเฟ้อปรับลดลง ที่เหลือ 25 ประเทศล้วนปรับตัวขึ้นหมดนำโดยประเทศอย่าง ลิทัวเนีย ที่อัตราเงินเฟ้อ 14% เอสโตเนีย 11.6% ประเทศสาธารณรัฐเช็ก 10.0% ขณะที่กลุ่มที่มีเงินฟ้อต่ำนำโดยประเทศมอลตา และฝรั่งเศสที่ 4.2% ด้านโปรตุเกส ฟินแลนด์ และสวีเดนขึ้นมาอยู่ที่ 4.4%
โดยอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นรุนแรงมากจากแรงกดดันด้านพลังงาน ซึ่งส่งผลตามต่อมาด้วยภาคบริการที่จำเป็นต้องปรับราคาค่าบริการให้สูงขึ้น เช่นเดียวกับธุรกิจอาหาร เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ยาสูบ และกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าที่ไม่เกี่ยวข้องกับพลังงาน โดยผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าตัวเลขเงินเฟ้อจากนี้คงจะพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างผู้ให้บริการแก๊ซในเยอรมันอย่าง GASAG เผยว่า นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2022 เป็นต้นไปจะเห็นาค่าแก๊ซปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ยอย่างน้อย 26% ตอนนี้ราคาน้ำมันเบนซินในยุโรปเพิ่มขึ้นสองเท่าในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 2 ยูโรต่อลิตร (คิดเป็นเงินไทย 73.3 บาทต่อลิตร)
พร้อมกับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและสหรัฐในเรื่องของยูเครน ซึ่งล่าสุดทางรัสเซียได้ตอบโต้การแซงก์ชั่นของสหรัฐผ่านการงดส่งออกสินค้าไปให้ยุโรปกว่า 200 รายการสำหรับรัฐที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับรัสเซียครอบคลุมตั้งแต่สินค้ากลุ่ม โทรคมนาคม เวชภัณฑ์ ยานยนต์ เกษตร อุปกรณ์ไฟฟ้า และอุปกรณ์เทคโนโลยี จนสิ้นปี 2022
แปลและเรียบเรียง : เอกพล มงคลพัฒนกุล
ที่มา : RT
ติดตาม Business+ ได้ที่ https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ https://lin.ee/pbIHCuS
#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #เงินเฟ้อ #รัสเซียแบนสินค้า #ยุโรปเงินเฟ้อ #EUinflation #แซงก์ชั่น
