ออกกำลังกาย พัฒนาสมองอย่างไร?

ออกกำลังกาย พัฒนาสมองอย่างไร? ใคร ๆ ก็ต่างทราบดีว่ายุคนี้เป็นยุคของการรักสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ Sport Gadget ที่ออกมาตอบสนองคนที่รักการออกกำลังต่าง ๆ มากมาย การออกกำลังกายช่วยให้สุขภาพแข็งแรง แล้วรู้หรือไม่ว่ามันส่งผลอย่างไรต่อสมอง

สุขภาพต่อผลอย่างไรต่อสมอง

การออกกำลังกายทำให้เราได้ พัฒนาสมอง ในส่วนที่ต่างจากการทำงานหรือการเรียน ซึ่งเป็นการพัฒนาสมองซีกขวาอันเป็นจุดสำคัญในด้านความคิดและจินตนาการ ทำให้เราสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีขึ้น รวมถึงบำรุงให้สมองได้คิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ เป็นการพัฒนาสมองที่ดี

ประโยชน์ 3 ข้อของการออกกำลังกาย

ข้อ 1 เพิ่มทักษะในการรับข้อมูลขณะที่กำลังขยับตัวอยู่

เนื่องการการเล่นกีฬาให้ดี จำเป็นต้องใช้การจัดการข้อมูลที่ไม่ได้ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นภาษา เช่น การคาดเดาสถานการณ์รอบข้าง การดูแล้วทำตาม การลงมือทำ และการจดจำด้วยร่างกาย

โดยเฉพาะกีฬาแบบทีมที่ต้องรวบรวมความสัมพันธ์อันซับซ้อนของแต่ละคนเข้าด้วยกัน อ่านสถานการณ์ของเกมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รวมไปถึงการวิเคราะห์สถานการณ์และหน้าที่ของตัวเองให้ได้

เรียกได้ว่าเป็นการพัฒนาทักษะในการรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝันที่ไม่ได้มาจากการนั่งเรียนอยู่กับที่นั่นเอง

ข้อ 2 คนเล่นกีฬามักทบทวนตัวเองเสมอ

การทบทวนตัวเองอย่างเป็นกลางช่วยพัฒนาการเจริญเติบโตของสมอง เมื่อเราทุ่มเทให้การออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬา ทำให้เรามีโอกาสย้อนกลับมามองการเล่นหรือสภาพร่างกายของตนเองมากขึ้น จึงทำให้สมองได้พัฒนา

ข้อ 3 สมองสามารถเชื่อมต่อกับระบบประสาทที่ทำหน้าที่อื่น ๆ ได้ดี

เพราะการเคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้ใช้เพียงแค่การเคลื่อนไหวเท่านั้น แต่ต้องใช้สมองส่วนอื่น ๆ ในการคิด วเคราะห์ และควบคุมร่างกายและการกระทำด้วย

ออกกำลังกาย ออกกำลังสมอง

1 กระตุ้นการเติบโตของสมอง การออกกำลังกายช่วยไม่ให้อัตราการสร้างเซลล์สมองลดลงเมื่อแก่ตัวลง เนื่องจากการออกกำลังกายทำให้ระบบเลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น มีออกซิเจนไปเลี้ยงสมองมากขึ้น

2 ช่วยให้ความจำดีขึ้น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ประสาทและเซลล์สมอง และพัฒนาระบบไหลเวียนออกซิเจนที่ช่วยหล่อเลี้ยงสมอง

3 รักษาโรคซึมเศร้า เมื่อออกกำลังกาย ร่างกายก็จะผลิตฮอร์โมนแห่งความสุขอย่างเซโรโทนิน โดพามีน และเอนโดรฟิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ดีต่อสมอง และเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทำให้ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าสามารถมีสมาธิจดจ่อกับบางสิ่งได้ดีขึ้น

4 ลดความเครียด เนื่องจากการออกกำลังกายจะช่วยผลิตฮอร์โมนที่ช่วยในเรื่องของการผ่อนคลายความเครียด

5 กระตุ้นความคิดและความจำ ทำให้เราจดจ่อกับงาน และสามารถทำงานที่มีความซับซ้อนได้ดีขึ้น อีกทั้งยังส่งผลให้มีความสามารถในการแก้ปัญหาและการวางแผนอีกด้วย

6 พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ในช่วงเวลาที่สมองตื้อ คิดอะไรไม่ออก อาจส่งผลมาจากการที่เราใช้สมองในการคิดมาต่อเนื่องยาวนานเกินไป การลุกขึ้นเดินเคลื่อนไหวร่างกาย ทำให้สมองเราได้เปลี่ยนการใช้งาน จากการคิดมาเป็นการออกกำลัง

สมองส่วนที่คิดงานก็ได้พักผ่อนช่วงระยะเวลาหนึ่ง และการเดินก็เป็นพื้นฐานของการเคลื่อนไหวร่างการ เป็นวิธีกระตุ้นสมองที่ง่ายและเหมาะสมที่สุด หากรู้สึกว่าสมองไม่แล่น คิดอะไรไม่ออก ลองลุกเดินซัก 10-15 นาทีให้สมองได้พักบ้าง

ออกกำลังกาย เท่ากับได้ “พัฒนาสมอง”

การเข้าฟิตเนสหรือวิ่งเป็นประจำ ทำให้เรามีความอดทนและมีสมาธิมากขึ้น คนส่วนใหญ่จะหยุดออกกำลังกายเมื่อคิดว่า เหนื่อยแล้ว พอแค่นี้ แต่หากควบคุมตัวเองในการตั้งเป้าหมายว่าจะออกกำลังกายจนถึงเวลาที่ตั้งไว้จึงจะหยุด เป็นการฝึกความอดทน และควบคุมเรื่องที่ตัวเองอยากทำได้ ส่งผลให้จัดการกับงานต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น

สำหรับคนที่อยากเริ่มออกกำลังกายเบา ๆ ขอแนะนำให้ตั้งเป้าการเดินเริ่มต้นที่ 7,000 ก้าว โดยคนเราควรเดินให้ได้สัปดาห์ละ 500,000 ก้าว เนื่องจากเป็นการเคลื่อนไหวร่างกายที่พอดีไม่น้อยเกินไป หากตั้งเป้าน้อยกว่านี้อาจทำให้การทำงานของร่างกายและสมองช้าลงได้

แม้แต่การขึ้นก้าวบันได ก็ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีในการกระตุ้นสมอง เนื่องจากการก้าวขึ้นลงบันไดที่ไม่ใช่ท่าทงปกติ ทำให้เราต้องคำนวนจุดและเวลาที่เท้าจะสัมผัสพื้นอย่างถูกต้อง อีกทั้งยังต้องคำนวนพละกำลังที่ต้องใช้พร้อมกับการก้าวขาออกไปอีกด้วย

การขึ้นบันไดแบบเว้น 1 ขั้น จึงใช้การสังเกตมากกว่าปกติ จึงเป็นการส่งแรงกระตุ้นแบบใหม่ไปที่สมองนั่นเอง

ออกกำลังแล้วสามารถ พัฒนาสมอง ได้ดีขนาดนี้ อย่าลืมแบ่งเวลาในการพัฒนาตัวเอง พัฒนาร่างกายให้แข็งแรงเพื่อหลีกห่างโรคภัย และพัฒนาสมองให้เป็นคนเก่งที่สามารถจัดการเรื่องราวในชีวิตได้เป็นอย่างดีกันเถอะ!

ขอบคุณภาพประกอบจาก www.shutterstock.com