อมาโด้ ส่ง ‘อมาไพร’ ลงตลาดกัญชงเจ้าแรกของไทย ลุยสินค้าสายสมุนไพร หวังกวาดยอดขาย 120 ลบ.

หลังจากปี 2563 ที่ทางภาครัฐมีมติเห็นชอบเปลี่ยนจากกัญชงให้พ้นยาเสพติดเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ทำให้ปัจจุบันเราได้เห็นผู้เล่นในตลาดเปิดตัวสินค้าที่เกี่ยวข้องกับกัญชงอย่างต่อเนื่อง โดยมีการประเมินจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ตลาดกัญชงโลกในปี 2563 มีมูลค่าราว 4,748 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และจะเร่งตัวขึ้นไปแตะ 18,608 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2570 หรือเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ร้อยละ 22.4 ต่อปี 

 

รวมถึงข้อมูลวิจัยของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้ประมาณการมูลค่าอุตสาหกรรมกัญชงของไทยไว้ ณ กรกฎาคม 2564 หลังจากการปลดล็อคการประกอบธุรกิจกัญชงได้เชื่อมโยงไปสู่ห่วงโซ่อุตสาหกรรม 5 กลุ่ม ได้แก่ เครื่องดื่ม อาหาร ยาและอาหารเสริม เครื่องแต่งกาย และผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล ด้วยมูลค่าตลาดกัญชงรวมประมาณ 15,800  ล้านบาท และใน 5 ปีข้างหน้าหรือสิ้นปี 2568 จะเติบโตเฉลี่ย 126% ต่อปี

 

ซึ่งล่าสุดบริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ก็ได้เปิดตัวแบรนด์ “อมาไพร” ส่ง อมาไพร น้ำมันเมล็ดกัญชง พลัส (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร) สู่ตลาดรายแรกในประเทศไทยภายใต้แนวคิด “ธรรมชาติโภชนา” สำหรับคนชอบอาหารเสริมที่เป็นวีแกน พร้อมตั้งเป้ากวาดยอดขาย 120 ล้านบาท

นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ อมาโด้ (amado) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชั้นนำ เปิดเผยว่า อมาโด้มองเห็นโอกาสทางธุรกิจในตลาดสมุนไพรกัญชง เราจึงพร้อมเปิดตัวสินค้าใหม่ในหมวดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลุ่มสมุนไพรตอบโจทย์ “ธรรมชาติโภชนา” ซึ่งเน้นสินค้าที่มีส่วนประกอบมาจากธรรมชาติ โดยเปิดตัวภายใต้แบรนด์ “อมาไพร” มีที่มาจาก อมาโด้ + สมุนไพร ประเดิมสินค้า SKU แรกของแบรนด์ คือ อมาไพร น้ำมันเมล็ดกัญชง พลัส (Amaprai Hemp Seed Oil Plus) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากกัญชงตัวแรกของประเทศไทยที่มีการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ อมาไพร น้ำมันเมล็ดกัญชง พลัส ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีน้ำมันเมล็ดกัญชงเป็น

 

ส่วนประกอบหลัก เสริมประสิทธิภาพให้มากขึ้นด้วยน้ำมันจากธรรมชาติอีก 9 ชนิด ที่ผ่านกระบวนการสกัดเย็นทำให้คงคุณค่าของวิตามินต่าง ๆ อย่างครบถ้วน สำหรับประโยชน์ของน้ำมันเมล็ดกัญชงนั้นมีกรดไขมันกลุ่มโอเมก้า 3, 6 และ 9 จัดเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย จับกลุ่มผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย ยกเว้นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และตอบโจทย์โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการบำรุงระบบประสาทและสมอง บำรุงกระดูกและข้อ และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ

 

อย่างไรก็ตามเนื่องจากมีข้อจำกัดด้านเวลาปลูกต้นกัญชงนานถึง 3-5 เดือน และขั้นตอนการเก็บเกี่ยว สกัดวิเคราะห์ และผลิตกว่า 45 วัน ทำให้มีสินค้าพร้อมจำหน่ายในล็อตแรกเพียง 10,000 กล่องเท่านั้น โดยมีแผนการจัดจำหน่ายผ่าน 3 ช่องทางหลัก คือ 

1.) ตัวแทนจำหน่ายอมาโด้ จำนวน 11.94 ล้านบาท คิดเป็น 60%

2.) เทเลเซลล์ 5.97 ล้านบาท จำนวน คิดเป็น 30% และ 

3.) ช่องทางออนไลน์ของบริษัททั้งโซเชียลคอมเมิร์ซและอี-มาร์เก็ตเพลส จำนวน 1.99 ล้านบาท คิดเป็น 10% บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายของล็อตแรก 10,000 กล่องยอดขายคิดเป็น 19.9 ล้านบาท 

 

ด้านนางสาวจง ซาน ฟั่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด กล่าวเสริมว่า “ยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดได้ประเมินว่าปี 2564 ยอดขายตลาดสินค้าสมุนไพรของโลกจะมีมูลค่า 204,070 ล้านบาทในปี 2563 หรือมีอัตราการเติบโต (CAGR) คิดเป็น 5.9% ในปี 2563-2570 ถือว่ามีการเติบโตสูงสวยสถานการณ์โลกที่โดนผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19 ผู้บริโภคจึงหันมาบริโภคผลิตภัณฑ์ที่เป็นธรรมชาติและออแกนิกมากขึ้นจนเกิดกระแส Healthy Living สอดคล้องกับ อมาไพร น้ำมันเมล็ดกัญชง พลัส เป็นนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนประกอบจากธรรมชาติ 100% มีตราสัญลักษณ์ Vegan รับรอง ซึ่งเราคาดว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า แบรนด์อมาไพร คาดว่าจะแชร์ส่วนแบ่งทางการตลาดได้ถึง 10% จากมูลค่าตลาดสินค้าสมุนไพรไทยและสมุนไพรจีนในไทยรวมกว่า 40,867 ล้านบาท

 

“นอกจากนี้ จากภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากกัญชงโดยปี 2564 อุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่มีกัญชงผสมจะมีมูลค่า 280 ล้านบาท คิดเป็น 46.6% รองมาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารจากกัญชง 240 ล้านบาทคิดเป็น 40%  ยาและอาหารเสริมจากกัญชง 50 ล้านบาท คิดเป็น 8.3% เครื่องแต่งกายที่ทำด้วยใยกัญชง 30 ล้านบาทคิดเป็น 5% และผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลประเมินว่ายังอยู่ในช่วงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นหลักในปีแรก ทั้งนี้ 5 กลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวจะมีการนำกัญชงไปใช้มูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท โดยอมาโด้ได้นำผลิตภัณฑ์ อมาไพร น้ำมันเมล็ดกัญชง พลัส ออกมาอย่าง

 

รวดเร็วและเป็นเจ้าแรกของตลาด คาดว่า 10,000 กล่องแรกจะสามารถแชร์ส่วนแบ่งการตลาดจากอุตสาหกรรมยาและอาหารเสริมจากกัญชงภายในสิ้นปีนี้ได้ และหลังจากหน่วยงานรัฐปลดล็อกใช้สารสกัด CBD เมื่อสิงหาคม เรายังมีแผนออกสินค้าในกลุ่มที่ใช้สารสกัด CBD ในอาหารเสริมด้วย เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคในอนาคต ดังนั้น อมาไพร จะเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจใหม่ให้ธุรกิจสามารถเติบโตและเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภค เมื่อพูดถึงสมุนไพร จะนึกถึงแบรนด์อมาไพรเป็นแบรนด์แรก และในปีหน้าเราจะพัฒนาสินค้าใหม่ให้หลากหลายตอบโจทย์ “ธรรมชาติโภชนา” พร้อมต่อยอดการเติบโตของบริษัทในอนาคต” นายธนาตรัยฉัตร กล่าวทิ้งท้าย

 

โดย 1 กล่อง บรรจุ 20 แคปซูล ราคา 1,990 บาท และพร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ทางตัวแทนจำหน่ายอมาโด้, Amado Shopping Call Center 1451 หรือทาง LineOA: @amaprai