ในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และมุมมองต่อการขับเคลื่อนองค์กรในยุค Disruption ของธุรกิจครอบครัวนั้น คุณเอกชัย
ยังวาณิช รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เสถียรสเตนเลสสตีล จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเจน 2 ของแบรนด์ “หัวม้าลาย”
เล่าว่า แนวทางธุรกิจของบริษัทยังคงยึดแบบเดิม แต่เปลี่ยนวิธีการตามความเร็วในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงเร็วมาก ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายในการเปลี่ยนแปลง เพราะบริษัทก่อตั้งมานานมีคนรุ่นเก่าจำนวนมาก จึงมีปัญหาเรื่องวัฒนธรรมองค์กรอยู่บ้าง ทำให้ต้องค่อย ๆ ปรับกันไป

ส่วนการนำนวัตกรรมมาต่อยอดธุรกิจนั้น ในแง่การผลิต บริษัทได้ลงทุนพัฒนานำเทคโนโลยีมาใช้อย่างต่อเนื่อง โดย 10 ปีที่ผ่านมา การนำหุ่นยนต์มาใช้แทนแรงงานคน เพื่อแก้ปัญหาค่าแรงแพงและขาดแคลนแรงงาน โดยไม่ต้องการย้ายฐานการผลิตไปจีนหรือเวียดนาม ซึ่งมองว่าค่าแรงในอนาคตจะแพงขึ้นเช่นกัน และต่อไปในอนาคตจะมีการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาใช้ในการผลิตอีกมาก รวมทั้งนำ AI มาใช้ด้วย

เช่นเดียวกับงานบริการก็ได้นำนวัตกรรมมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ จากเดิมมักมีปัญหาเรื่องรับคำสั่งซื้อสินค้าไม่ถูกต้อง จึงแก้ปัญหาด้วยการแจกไอแพดให้คีย์คำสั่งซื้อผ่านระบบเข้ามาเลย ข้อดีคือ 1. คำสั่งซื้อไม่ผิด 2. ลดจำนวนพนักงานลง และ 3. คำสั่งวิ่งเข้าระบบโดยตรงสามารถบริหารจัดการได้เร็ว รวมทั้งช่วยลดต้นทุนด้วย ในอนาคตเมื่อนำ AI มาใช้จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพได้มากขึ้น เนื่องจากมีระบบประมวลผลที่รวดเร็ว

“การเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเกิดจากภาวะบีบคั้น เช่น ขาดแรงงาน ต้องการผลิตสินค้าอย่างรวดเร็ว เมื่อหันไปใช้หุ่นยนต์ตอบโจทย์กว่า ตอนนำเครื่องจักรเข้ามาไม่ได้ถูกต่อต้าน เนื่องจากเอามาทำงานที่น่าเบื่อคนไม่อยากทำอยู่แล้ว บางงานอันตราย เราเริ่มจากสิ่งที่คนได้ประโยชน์ก่อน ซึ่งในอนาคตคนรุ่นใหม่ก็ไม่อยากทำงานประจำ งานบางอย่างคงต้องจ้างองค์กรข้างนอกมากขึ้น ดังนั้นต้องตัดงานที่ไม่ถนัดออกไป ทำเฉพาะที่เป็นธุรกิจหลักที่เราถนัดเท่านั้น”
The Business Plus บิสิเนสพลัส
