วิกฤตแรงงานสหรัฐ !! McDonald มองการแจกเงินผ่านมาตรการกระตุ้น สร้างปัญหาการจ้างงาน ขณะที่ระเบิดเวลาเงินเฟ้อใกล้เข้ามา

สมาคมเจ้าของธุรกิจแห่งชาติ (The National Owners Association) โดยกลุ่มแฟรนไชส์อิสระของอาหารจานด่วนยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง McDonald ได้มีการส่งจดหมายถึงสมาชิกในกลุ่มเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาซึ่งพูดถึงการให้สมาชิกเตรียมรับมือกับปัญหาของผลกระทบจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล (สิทธิประโยชน์คนว่างงาน) ซึ่งสมาคมเจ้าของธุรกิจแห่งชาติ มองว่าอัตราการจ้างงานของเดือนเมษายน 2021 ที่เปิดเผยออกมาล่าสุดน้อยกว่าที่คาดไว้มาก

“หลายคนถามว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อคุณอยู่บ้านแล้วได้เงินมากกว่าออกไปทำงาน ใคร ๆ ก็คงเลือกอยู่บ้าน แต่เราก็ตำหนิพวกเขาไม่ได้ ถ้าจะต้องตำหนิใครสักคนก็คงเป็นระบบ” และด้วยสถานการณ์ในตอนนี้นั้นทำให้ผู้ประกอบการจะต้องเผชิญหน้ากับค่าใช้จ่ายมากมายไม่ว่าจะเป็น ค่าจ้างที่สูงขึ้น เงินโบนัส และอื่น ๆ ที่อ่อนไหว ทั้งหมดนี้ดีต่อภาคแรงงานของสหรัฐ

“แน่นอนเราดีใจไปกับพวกเขาด้วย เพราะคนทำงานชาวอเมริกันคือลูกค้าของเรา เมื่อพวกเขามีเงินเยอะขึ้น พวกเขาก็จะใช้จ่ายซึ่งมันดีกับยอดขายของเรา แต่ตอนนี้มีบางอย่างผิดพลาดไป ค่าจ่างสูงขึ้น โบนัสมี และอื่น ๆ ตามมา แต่ไม่มีการทำงาน นั้นทำให้พวกเรากำลังมีปัญหา”

นาย Neema Ardebili รองประธานด้านการหาพันธมิตรแฟรนไชส์และกลยุทธ์ทั่วโลกของ ADP บอกว่า “คนทำงานอุตสาหกรรมร้านอาหารจำนวนมากได้รับค่าจ้างที่ค่อนข้างต่ำ นั้นหมายความว่าเงินที่ได้จากการทำงานน้อยกว่าเงินที่ได้รับจากสิทธิประโยชน์คนว่างงานที่รัฐบาลให้ ซึ่งโดยธรรมชาติของมนุษย์จะเลือกรับเงินที่มากกว่าแถมได้อยู่ที่บ้านไม่ต้องออกไปเสี่ยงกับโคโรน่าไวรัส”

ด้านนายคริส เคมป์ชินสกี้ ประธานกรรมการบริหารของ McDonald บอกว่าสถานการณ์การจ้างในปัจจุบันค่อนข้างที่จะยุ่งยาก และบอกเป็นนัยถึงการขึ้นค่าจ้าง ด้านนายโจเอล เออลิงค์เจอร์ ประธานกรรมการของ McDonald สหรัฐ ก็พูดถึงเรื่องนี้ว่า “พวกเรากำลังทำงานเพื่อเปลี่ยนแปลงในส่วนร้านอาหารที่เราเป็นเจ้าของในมุมของค่าจ้างและค่าชดเชย พวกเราคิดว่าปัจจัยแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกในเวลานี้เหมาะสมแล้วในการทำสิ่งนี้ พวกเราคิดว่ามันจะเป็นการตัดสินใจทางธุรกิจที่ดีเยี่ยมของพวกเรา”

ขณะที่ทางภาคเอกชนอย่างหอการค้าก็ได้มีการออกมาเรียกร้องให้สภาคองเกรสยุติการขยายโครงการสิทธิประโยชน์คนว่างงานออกไปก่อนหน้านี้ซึ่งไม่เป็นผล (ปัจจุบันโครงการสิทธิประโยชน์คนว่างงานจะไปสิ้นสุดเดือนกันยายน 2021) นายนีล แบรดลี่ย์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายหอการค้า พูดถึงเรื่องนี้ว่า “ทำไมคุณถึงอยากไปทำงานละ ในเมื่ออยู่บ้านได้เงินมากกว่าอีก” เขาย้ำว่านโยบายของภาครัฐบาลจะทำลายแรงงาน และเมื่อมีปริมาณเงินสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลแบบนี้ เลี่ยงไม่ได้เลยที่บริษัททั้งหลายจะต้องมีการปรับปรุงค่าจ้างและโบนัสกันใหม่ รวมไปถึงสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ด้วย

แม้ท่านประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะพูดถึงเรื่องนี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า “มาตรการเหล่านี้จะไม่มีผลกระบบต่อการจ้างงานให้ช้าลง” (นักการเมืองน้อยมากที่จะพูดความจริง) แต่นักวิเคราะห์จากธนาคารเพื่อการลงทุนอย่าง Credit Suisse มองว่า “มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลทำให้เกิดปัญหาอย่างรุนแรงต่อการจ้างงาน และจะนำไปสู่การขาดแคลนแรงงานในที่สุด” ขณะที่เจ้าของร้านอาหารจำนวนหนึ่งพูดว่าลูกจ้างหลายคนของเขาจะไม่กลับมาทำงานอีกแล้ว เพราะเกิดสภาวะหมดไฟในการทำงาน ด้านลูกจ้างก็มองว่าทำไมพวกเขาต้องทนกับสภาพแวดล้อมเช่นนั้น แถมก็ได้เงินเพียงน้อยนิด เว้นแต่ว่าจะจ่ายในระดับที่ดี

กลุ่มแฟรนไชส์อิสระของอาหารจานด่วนยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง McDonald เปิดท้ายในเรื่องนี้ว่า “เห็นได้ชัดเจนว่าการเพิ่มเงินและสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ล้มเหลวในการชักจูงคนให้กลับมาทำงาน แต่ถึงอย่างไรเราก็จำเป็นต้องทำเรื่องเหล่านี้ให้ดีขึ้น แต่ขณะเดียวกันผลกระทบที่เลี่ยงไม่ได้คือราคาอาหารในร้านก็จะแพงขึ้นตามไปด้วย” ราคาจะเพิ่มขึ้นทุกหนทุกแห่ง เจ้าของกิจการจะเจอต้นทุนที่แพงขึ้นรวมถึงเราด้วย นั้นทำให้ราคา Big Mac จะแพงขึ้นอีก

“รัฐบาลของเราจำเป็นต้องรู้ว่า อะไรที่กำลังเกิดขึ้นในโลกของความเป็นจริง พวกเขาจำเป็นต้องรู้ว่าอะไรที่พวกเขาสร้างคือ ระเบิดเวลาของเงินเฟ้อ”

ก็อย่างที่แอดมินบอกมาตลอดเวลาว่าคุณกำลังนั่งอยู่บนวิกฤตที่ไม่เคยเจอกันมาก่อนในช่วงชีวิตของคุณ หลายคนยังดูประเมินสถานการณ์ต่ำกว่าความเป็นจริงไปมาก หลังอ่านข่าวนี้จบหลายคนที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ คุณควรประเมินสถานการณ์ใหม่ และเตรียมตัวให้พร้อมกับมหาวิกฤตครั้งนี้ แต่ขณะเดียวกันหากมองเห็นโอกาสมันจะพาคุณโลดแล่นไปก่อนใคร ๆ เช่นกัน

ที่มา : Business Insider

#เงินเฟ้อ #แรงงาน #การจ้างงาน #สหรัฐ #McDonald