“ลฐิกา นิลสุวรรณากุล” จากนักการเงินสู่นักการศึกษาฝีมือเฉียบ

เพราะการศึกษาคือรากฐานของชีวิต ไม่แปลกที่ผู้ปกครองจะลงทุนและสรรหาโรงเรียนที่ดี เพื่อเตรียมความพร้อมและปูทางให้ลูก ๆ ในอนาคต ดังนั้นการสร้างโรงเรียนที่ดีและตอบโจทย์ผู้ปกครองจึงไม่ใช่เรื่องง่าย

แต่สำหรับ “ลฐิกา นิลสุวรรณากุล” ผู้บริหารรุ่นใหม่แห่ง “Kids’ Academy International Pre-School” กลับสามารถถ่ายทอดเจตนารมณ์ของคุณแม่และก้าวเป็นนักการศึกษาเลือดใหม่ที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง

เวลา 14.00 น. ซึ่งเป็นเวลาเลิกเรียนของน้อง ๆ Kids’ Academy International Pre-School ทาง Business+ มีนัดพูดคุยกับ “ลฐิกา นิลสุวรรณากุล” หรือคุณแยม ทายาทรุ่นที่ 2 ที่เข้ามารับไม้ต่อบริหารโรงเรียน Pre-School จากคุณแม่อย่างเต็มตัว ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จในการปูพื้นฐานเด็กให้กลายเป็นนักคิดและผู้นำในอนาคต ภายใต้กรอบความคิดของโรงเรียนที่ว่า “The Foundation for Leaders of Tomorrow”

“ลฐิกา นิลสุวรรณากุล”

แม้ว่าปัจุบันลฐิกาจะเป็นนักการศึกษาที่ประสบความสำเร็จ แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ใครจะคิดว่าผู้หญิงคนนี้มีพื้นฐานและความฝันที่ดูเหมือนไม่มีอะไรเชื่อมกับการศึกษาได้เลย แล้วอะไรคือจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ?

ลฐิกา เริ่มต้นแนะนำตัวกับ Business+ ว่าก่อนที่จะเข้ามารับไม้ต่อจาก ญาณิกุล สุวรรณมาศ ผู้เป็นมารดา เธอได้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาบัญชีและการเงินจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท MBA สาขา Finance มหาวิทยาลัยเซนต์หลุยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนจะเข้าทำงานสายการเงินในบริษัทที่มีชื่อเสียงหลายแห่งกว่า 7 ปี ก่อนที่จะเข้ามาช่วยบริหารด้านการตลาดและการเงินให้กับโรงเรียนภายหลังจากการแต่งงาน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการสร้างครอบครัว และก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารโรงเรียนเต็มตัว โดยมี Passion ที่ต้องการสร้างโรงเรียนที่ดี มีคุณภาพ ดูแลเด็กทุกคน เหมือนลูกของตัวเองในทุก ๆ เรื่อง

จากจุดเริ่มต้นของ Passion นี้เอง ที่ทำให้คุณแยมพลิกโฉมของโรงเรียนทั้ง 2 แคมปัสในทุกด้าน เริ่มต้นจากด้านหลักสูตร ที่เน้นหลักจากประเทศอังกฤษ สำหรับก่อนวัยเรียนที่มีการเรียนการสอนถึง 4 ภาษา ได้แก่ อังกฤษ ไทย ญี่ปุ่น และจีน และต่อยอดเป็นหลักสูตร 2 ภาษา Japanese Bilingual ที่ผู้ปกครองให้การตอบรับเป็นอย่างดี เพราะเป็นโรงเรียนแรก ๆ ที่จัดการเรียนการสอนในโปรแกรมลักษณะนี้

นอกจากนี้ ยังได้รับคะแนน 98 เต็ม 100 คะแนน มาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนถึง 3 ปีซ้อน เป็นการรับประกันว่าเป็นโรงเรียนเอกชนที่มีระบบการประกันคุณภาพ ภายในสถานศึกษาระดับปฐมวัยดีมาก นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรที่พัฒนาทักษะในการแก้ปัญหาของเด็ก อย่าง IQ Education ที่นำหลักสูตรมาจากญี่ปุ่นโดยตรง

ทางด้านบุคลากร คุณแยมย้ำว่าเป็นส่วนที่ให้ความสำคัญมากที่สุด โดยมีคุณครูราว ๆ 20 คน เป็นชาวต่างชาติที่ผ่านการทดสอบมาตราฐานต่าง ๆ รวมทั้งครูพี่เลี้ยงในอัตรา 3 ต่อ 1 เพื่อการดูแลที่ครอบครัว โดย Kids’ Academy International Pre-School ดูแลเด็กเล็กตั้งแต่ 1.5 ขวบ-7 ขวบ โดยเด็กกว่า 70% เป็นเด็กลูกครึ่งและต่างชาติ โดยเฉพาะญี่ปุ่นที่ครองสัดส่วนกว่า 90%

ลฐิกา นิลสุวรรณากุล

นอกเหนือจากหลักสูตรที่น่าสนใจแล้ว คุณแยมยังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและการดูแลในทุก ๆ ส่วนของเด็ก
ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนสร้างสนามเด็กเล่นที่มีพื้นที่กว่า 1 ไร่ใจกลางซอยเอกมัย ให้เด็กได้เรียนรู้ สัมผัส และทดลองด้วยตัวเอง รวมไปถึงความปลอดภัย ความสะอาด และการป้องกันปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ของเด็กที่จะไม่ให้เกิดขึ้น และมีพยาบาลจากห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลรามาธิบดีมาประจำที่โรงเรียน

นอกจากนี้ คอนเซ็ปต์สำคัญที่ขาดไปไม่ได้ คือเอกลักษณ์ความเป็นไทย ที่คุณแยมจัดให้เด็ก ๆ ได้ทำกิจกรรมเกี่ยวกับศาสนา ประเพณี เทศกาลต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการเรียนการสอน

“ครั้งแรกที่เข้ามาดูแลเราต้องปรับตัวเยอะมาก เรียกได้ว่าชีวิตเปลี่ยนไปเลยพอเรามีลูกเองมุมมองในการบริหารก็เปลี่ยนไปด้วย เรารู้ว่าพ่อแม่ต้องการอะไรมากแค่ไหน ต้องยอมรับว่าตอนแรกที่เข้ามาทำเราไม่มีความรู้สึกร่วมกับตรงนี้ แต่พอมีลูกเรา Concern ทุกอย่าง ดังนั้นผู้ปกครองจึง Happy ในสิ่งที่เรา Concern เพราะเขาเชื่อมั่นว่าอะไรที่เรากล้าให้ลูกเราใช้ลูกเขาก็ใช้ได้ และมันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด สะอาดที่สุด ปลอดภัยที่สุด”

ซึ่งปัจุบัน Kids’ Academy International Pre-School ได้เปิดการสอนใน 2 แคมปัส ณ เอกมัย ซอย 2 โดยแคมปัสอยู่ภายใต้ชื่อและคอนเซ็ปต์ที่ว่า Kids’ Academy Discovery และโรงเรียนแห่งที่ 2 ภายใต้ชื่อ Kids’ Academy Sensory และเพื่อต่อยอดแคมปัสทื่ 2 และตอกย้ำความสำเร็จดังกล่าว ลฐิกายังมีแพลนที่จะเปิดแคมปัสที่ 3 ภายในเดือนตุลาคมนี้ภายใต้ชื่อ Kids’ Academy Imagination ซึ่งมีการเรียนการสอนขยายไปถึงชั้นประถมศึกษา ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Building the leaders and thinkers of tomorrow”

Kids’ Academy Imagination เป็นโรงเรียนนานาชาติที่สอนโดยใช้หลักสูตรการสอนตามมาตรฐาน British National Curriculum โดยสอนทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีนควบคู่กันไป และถูกออกแบบให้เป็นสถานที่แห่งการสํารวจและจินตนาการมากกว่าที่จะเป็นโรงเรียน มีจุดเด่นเฉพาะตัวที่เห็นได้อย่างชัดเจน คือเรื่องของการออกแบบโรงเรียนที่มีความล้ำด้านนวัตกรรม

นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมือเสริมการเรียนรู้ที่พร้อมให้เด็ก ๆ สํารวจและคิดค้นอย่างรอบด้าน อาทิ Science Center Art Center และ Performance Center ที่จะเป็นศูนย์การเรียนรู้และขยายจินตนาการให้เด็ก ๆ กล้าแสดงออก ทั้งในด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ศิลปะ และดนตรี

ลฐิกา นิลสุวรรณากุล

“ทั้ง 3 แคมปัส เราเน้นดูแลเด็กแบบ Individual Boutique School เด็กมีความสนใจอะไร เราก็เสริมศักยภาพตรงนั้นเข้าไป และให้ความสำคัญอย่างมากในเรื่องของธรรมชาติ เรามีส่วนที่ใหญ่ที่สุดในย่านเอกมัยเพื่อให้เด็กได้พัฒนาประสาทสัมผัสทั้ง 5 นี่คือสิ่งที่เราไม่ลังเลที่จะลงทุน นอกจากนี้ยังสร้างความใกล้ชิดกับผู้ปกครองด้วยโปรแกรมเฉพาะให้ผู้ปกครองสามารถติดตาม และดูพัฒนาการในแต่ละวันของลูกผ่านโปรแกรมที่เซตไว้ได้” ลฐิกา สรุปปิดท้ายอย่างน่าสนใจ