มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี: สู่ความเป็นมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ

นับตั้งแต่วิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี สถาปนาเป็น “มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี” โดยผู้สถาปนาคือ อาจารย์ชวลิต เบ็ญจาธิกุล และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.บังอร เบ็ญจาธิกุล ใน พ.ศ. 2545 และยกระดับเป็น “มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี” ใน พ.ศ. 2552 โดยมุ่งพัฒนาเป็น “มหาวิทยาลัยสมบูรณ์แบบมืออาชีพ (Comprehensive Professional University)”

เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 3 ประการ ที่จะสานความฝันให้เห็นเป็นรูปธรรมในวงการศึกษาของประเทศไทย คือ

(1) สร้างความเสมอภาคทางการศึกษาแก่ผู้ด้อยโอกาสทางเศรษฐกิจ เพื่อให้ลูกหลานไทยจากส่วนภูมิภาค ได้เข้ามารับการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยในกรุงเทพมหานคร ด้วยการสนับสนุนทุนการศึกษา หรือจัดหาแหล่งทุนการศึกษาแบบให้เปล่าหรือกู้ยืมเพื่อให้นักศึกษาได้เข้าศึกษา  เสริมความรู้ภาคทฤษฎีแก่ผู้ประกอบการที่ไม่มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนระดับปริญญาในวัยเรียน

 

(2) เปิดโอกาสให้นักธุรกิจที่เป็นเจ้าของธุรกิจมีทุนทรัพย์ และประสบความสำเร็จ มีทุนดำเนินการเป็นพันล้าน หมื่นล้านบาท ให้ได้เข้าศึกษาในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก และมีโอกาสนำประสบการณ์มาแลกเปลี่ยนระหว่างนักศึกษาด้วยกันเอง เพื่อให้สำเร็จการศึกษาออกไปเป็นบัณฑิตมืออาชีพ

 

และ (3) จัดให้มีคลังสมอง เป็นเวทีให้นักวิชาการที่มีประสบการณ์ ที่เกษียณอายุราชการหรือพ้นจากหน้าที่การงาน ได้เข้ามาเป็นคณาจารย์ของมหาวิทยาลัย เพื่อชี้นำคณาจารย์รุ่นใหม่ให้สามารถพัฒนาการสอน โดยใช้ความรู้และทักษะจากการปฏิบัติจริง เพื่อให้มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่จัดเตรียมสภาพแวดล้อมให้เป็นเวทีจำลองสังคม เพื่อให้นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนจริง ทำจริง และมีประสบการณ์จริง และสำเร็จการศึกษาเป็นบัณฑิตมืออาชีพ

หลังจากยกฐานะเป็นมหาวิทยาลัยสมบูรณ์แบบ มหาวิทยาลัยได้ขยายการศึกษาระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษา ไปสู่ความเป็นมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สุขภาพ โดยเปิดคณะพยาบาลศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ และคณะเภสัชศาสตร์ตามลำดับ

 

คณะพยาบาลศาสตร์และคณะสาธารณสุขศาสตร์ เปิดสอนและผลิตบัณฑิตพยาบาลและสาธารณสุขไปหลายรุ่น โดยได้รับความชื่นชมจากหน่วยงานต่างๆ ในความสามารถ ความอดทนในการทำงานของบัณฑิตตลอดมา

คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา ร่วมกับสำนักกีฬามหาวิทยาลัย ได้เปิดสอนนักศึกษาเพื่อเป็นนักกีฬามืออาชีพ และประสบ

ความสำเร็จเป็น “เจ้าเหรียญทอง” ในกีฬามหาวิทยาลัย 2 ปีต่อกัน คือ ในปี 2560 ชนะเลิศ 83 เหรียญทอง และเป็นแชมป์ฟุตบอลมหาวิทยาลัย และ พ.ศ. 2561 ชนะเลิศ 96 เหรียญทอง และคาดว่าจะคงความเป็นแชมป์กีฬามหาวิทยาลัยในปีต่อ ๆ ไป

คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬาและคณะศึกษาศาสตร์ ได้เปิดสอนหลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาพลศึกษา เพื่อเตรียมครูพลศึกษาที่ เพียบพร้อมด้วยความรู้และประสบการณ์ ทั้งในภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ไปสอนเยาวชนในโรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา เพื่อยกระดับมาตรฐานการกีฬาของชาติให้เข้มแข็งขึ้นในอนาคต

 

คณะทันตแพทยศาสตร์ เป็นคณะที่ 16 จัดตั้งเมื่อ พ.ศ. 2559 โดยเริ่มเปิดสอนระดับปริญญาโท หลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดฟัน และกำลังเปิดรับสมัครนักศึกษา ทันตแพทยศาสตร์บัณฑิต เพื่อเปิดสอนในภาคการศึกษาที่ 1/2562 โดยการนำของรองศาสตราจารย์ ทพ. ทองนารถ คำใจ อดีตคณบดี คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณาจารย์ประจำหลักสูตร อาทิ พตท. ทพ. พจนารถ พุ่มประกอบศรี (ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง นายกสภาทันตแพทยศาสตร์ แห่งประเทศไทย)

คณะแพทยศาสตร์ เป็นคณะที่ 17 เปิดสอนหลักสูตรแพทยศาสตร์ บัณฑิต ในปีการศึกษา 2563 ด้วยการบันทึกความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร โดยมีมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เป็นมหาวิทยาลัยพี่เลี้ยง และมีโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ และโรงพยาบายหลวงพ่อทวีศักดิ์ เป็นโรงพยาบาลหลัก รวมถึงมีโรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานครเป็นโรงพยาบาลสมทบ โดยมีศาสตราจารย์ นพ. สารเนตร์ ไวคกุล นายกแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย เป็นคณบดี

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี มีจุดเน้นในการเป็น “Smart Medical School” ด้วยการใช้เทคโนโลยีทันสมัยมาใช้ในการผลิตบัณฑิตแพทย์ที่มีความรู้และประสบการณ์ในด้านการรักษาผู้สูงวัย ด้านการกีฬา และเวชศาสตร์ชุมชน 

คณะเภสัชศาสตร์ เป็นคณะที่ 18 จะเปิดรับนักศึกษาในปีการศึกษา 2563 โดยมุ่งผลิตเภสัชกรสำหรับโรงพยาบาล โรงงานเภสัชกรรม ทันตคลินิก และด้านความงาม

 

ศูนย์ดูแลผู้สูงวัย (Senior Complex) เพื่อตอบสนองความต้องการของ

ผู้สูงอายุที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีได้จัดตั้งผู้สูงอายุ ที่มีกิจกรรมดูแลและพยาบาลผู้สูงวัย ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เพื่อ (1) รองรับสังคมผู้สูงอายุ (2) เพื่อเป็นที่พักอาศัยคุณภาพของผู้สูงอายุ ที่มีความสะดวกสบาย ปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และ (3) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนเครือข่ายดำเนินงานของภาครัฐ (กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์)

อุดมการณ์ และการพัฒนามหาวิทยาลัยสู่ความเป็นเลิศ

 

 อุดมการณ์

อุดมการณ์ คือ สภาพเต็มของมหาวิทยาลัย ประกอบด้วยปรัชญา ปณิธาน วิสัยทัศน์ พันธกิจ อัตลักษณ์ และเอกลักษณ์

 

ปรัชญา (Philosophy): “สร้างปัญญา พัฒนาคน ฝึกฝนคุณธรรม” (Cultivating Man with Wisdom and Morality)

ปณิธาน (Mission): “มหาวิทยาลัยมืออาชีพ” (The Professional University)

วิสัยทัศน์ (Vision): มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี มุ่งพัฒนาเป็นสถาบันการศึกษาที่มีการจัดหาและจัดสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เครื่องมืออุปกรณ์ สื่อการศึกษา เครือข่ายคอมพิวเตอร์และโทรคมนาคม เพื่อรองรับการเรียนการสอนด้วยระบบการสอนแบบอิงประสบการณ์ เตรียมนักศึกษาไปสู่ความเป็นบัณฑิตนักปฏิบัติอย่างมืออาชีพคือ คิด และทำงานอย่างเป็นระบบ

                อัตลักษณ์ (Identity): “นักปฏิบัติมืออาชีพ” (Hand-on Professionals)

เอกลักษ์ (Uniqueness): “สถาบันอุดมศึกษาที่ส่งเสริมให้นักศึกษาเรียนจริง ฝึกจริง อิงประสบการณ์” (Authentic Experience-Based Professionals)