พลังงานไฟฟ้าและแบตเตอรี หัวใจความขัดแย้งใหม่ ปี 2020 มีมูลค่าสูงถึง 501,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ช่วงกว่า 100 ปีที่ผ่านมา การต่อสู้ทางการเมืองระหว่างประเทศมหาอำนาจในเวทีโลก มักจะมีเรื่องการแย่งชิงแหล่งน้ำมันดิบมาเกี่ยวข้องเสมอ แต่นับจากนี้เป็นต้นไป ต้นเหตุของความข้ดแย้งของมหาอำนาจจะเป็นเรื่องของการชิงความเป็นจ้าวโลกเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ายานยนต์พลังงานไฟฟ้าและแบตเตอรี ได้กลายมาเป็นผลประโยชน์มหาศาลจนสามารถก่อให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศมหาอำนาจของโลกได้ เนื่องจากแบตเตอรีสมัยใหม่จะก่อให้เกิดเศรษฐกิจโมเดลใหม่ที่อยู่บนพื้นฐานของไฟฟ้า เป็นเศรษฐกิจจากกระบวนทัศน์ใหม่ที่จะเติบโตอีกหลายทศวรรษและมีมูลค่ามหาศาล

ขณะนี้การต่อสู้แย่งชิงขุมทรัพย์ใหม่ของโลกได้ปะทุขึ้นแล้ว ระหว่างสหรัฐอเมริกา ยุโรป และจีน ทุกฝ่ายต่างพยายามที่จะแย่งชิงความเป็นผู้นำในเรื่องของเทคโนโลยี ฐานการผลิต ห่วงโซ่อุปทาน และแหล่งวัตถุดิบของแบตเตอรี่สมัยใหม่ ซึ่งเป็นหัวใจที่ขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจบนฐานไฟฟ้า Gene Munster หุ้นส่วนกรรมการบริษัท Loup Ventures บริษัทเวนเจอร์แคปิตอลจากเมือง Minneapolis ในมลรัฐ Minnesota ให้สัมภาษณ์ว่า “ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องของความเป็นผู้นำที่เอาไว้ใช้โอ้อวด แต่เป็นเรื่องของเดิมพันทางเศรษฐกิจด้วย”

ขณะที่มุมมองจาก Dan Ives ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยตลาดทุนและเทคโนโลยีของบริษัท Wedbush Securities กล่าวว่า “มันเหมือนกับการแข่งขันสะสมอาวุธของประเทศมหาอำนาจ แต่แทนที่เป็นอาวุธกลับเป็นเทคโนโลยีแบตเตอรี่สำหรับตลาดรถไฟฟ้า” รายงานระบุว่าสงครามแบตเตอรีและรถไฟฟ้า ไม่เหมือนกับสงครามการค้าในสมัยก่อนที่ใช้เรือรบและทหารเข้ายึดดินแดนหรือข่มขู่บ้านอื่นเมืองอื่น แต่เป็นความขัดแย้งในโลกไซเบอร์ ซึ่งมีทั้งการโจรกรรมแผนงานหรือนวัตกรรมและการชิงตัวพนักงาน รวมทั้งการใช้เล่ห์กลในการเข้าถึงและครอบครองแหล่งวัตถุดิบ อาทิ โคบอลท์และนิกเกิล

เศรษฐกิจฐานไฟฟ้า ใหญ่ขนาดไหน ?

มูลค่าของเศรษฐกิจบนฐานไฟฟ้าจะใหญ่มาก รายงานที่เขียนโดย Andor Varga ในเว็บ prnewswire.com เผยแพร่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 ชี้ว่า “ทั้งโลกกำลังจะขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี ซึ่งจะทำให้นวัตกรรมแบตเตอรีและวัสดุที่ใช้ผลิตมันขึ้นมา เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความร่ำรวยจากช่วงการเปลี่ยนผ่านของโครงสร้างพลังงาน ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนนับล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ”

แบตเตอรีลิเธียมไอออนที่ใช้กับโทรศัพท์มือถือทั่วโลก กำลังไปไกลกว่าแค่สินค้าคอนซูมเมอร์ เพราะเป็นวัตถุดิบตั้งต้นของห่วงโซ่การผลิตรถไฟฟ้าและตัวกักเก็บพลังงาน ซึ่งกำลังเป็นแนวโน้มใหญ่ในระบบเครือข่ายการส่งไฟฟ้าของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก องค์กรวิจัยพลังงาน Bloomberg NEF ชี้ว่าเงินที่ใช้ลงทุนเพื่อการเปลี่ยนผ่านโครงสร้างพลังงานของโลกเฉพาะในปี 2020 มีมูลค่าสูงถึง 501,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเงินทุนไหลเข้าสู่อุตสาหกรรม New Energy ในระดับที่ถือได้ว่าเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมได้เลยทีเดียว

นิตยสารฟอร์บส์ เรียกการเปลี่ยนผ่านโครงสร้างพลังงานที่กำลังขึ้นว่าเป็น ‘การเปลี่ยนกระบวนทัศน์’ ของพลังงาน และรายงานว่ามีสถาบันต่าง ๆ องค์กรรวมทั้งมูลนิธิซึ่งมีสินทรัพย์รวมกันมากกว่า 14 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่พร้อมจะสนับสนุนการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ครั้งสำคัญของโลกครั้งนี้

และในไม่ช้า ต้นทุนการผลิตพลังงานสะอาดจะถูกลงอย่างไม่น่าเชื่อ รถยนต์พลังไฟฟ้าจะมีราคาเท่าหรือต่ำกว่ารถเครื่องยนต์สันดาปภายในและภายในปี 2024 สถานีกักเก็บไฟฟ้าจะมีราคาถูกลงอย่างมากและกลายเป็นของที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการบริหารจัดการเครือข่ายสายส่งไฟฟ้าทั่วโลก โดยทุกสิ่งทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นมีแบตเตอรีสมัยใหม่เป็นกุญแจสำคัญ ดังนั้น แบตเตอรีทันสมัยจึงเป็นขุมทรัพย์ใหม่แทนที่น้ำมัน

เขียน : วิชัย สุวรรณบรรณ

#พลังงานไฟฟ้า #แบตเตอรี #เศรษฐกิจ #businessplus #สหรัฐจีน #รถยนต์ไฟฟ้า #น้ำมัน