ประกันเด็ก

ซื้อ ประกันเด็ก เพื่อลูกน้อยที่ไหนคุ้ม

ซื้อ ประกันเด็ก ให้ลูกจำเป็นไหม? เป็นคำถามที่ผู้ปกครองหลายๆคน ถามย้ำตัวเองแล้ว ถามย้ำตัวเองอีกเพราะแม้จะรู้อยู่แล้วว่าเด็กล้วนมีความเสี่ยง จากความซุกซนตามวัยและโรคภัยใหม่ๆที่ค่อนข้างจะรุนแรง แต่เบี้ยประกันที่ต้องจ่ายดันแพงกว่าเบี้ยประกันของผู้ใหญ่ จึงไม่แปลกที่ผู้ปกครองหลายๆคนจะยังคงลังเล 

แต่ที่จริงผู้ปกครองสามารถวางแผนอนาคตให้กับลูกหลาน ผ่านผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่เหมาะสมได้ ซึ่งปัจุบันบริษัทประกันหลายค่ายก็ทยอยออกผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ที่มีกรมธรรม์ครอบคลุมหลายด้านมาให้เลือกชอปปิ้งกันดังนั้นมาดูกันซิว่า ประกันชีวิตแต่ละค่ายมีดีอะไร คุ้มครองครอบคลุมอะไรบ้าง

เพราะแม้ว่าแผนประกันสุขภาพของแต่ละบริษัทจะมีความคุ้มครองที่คล้าย ๆ กัน แต่อาจจะแตกต่างกันในเรื่องเงื่อนไขอยู่ในบางข้อ ตัวอย่างแผนประกันสุขภาพสำหรับลูกน้อยในตลาด อาทิ

บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)

กับแผนประกันสุขภาพเด็กตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงวัยเรียน อายุตั้งแต่ 1 เดือน – 5 ปี คุ้มครองค่าใช้จ่ายกรณี admit เข้ารักษาที่ รพ.เอกชน 280 แห่งทั่วประเทศ ด้วยแผนคุ้มครองกรณีเจ็บป่วยที่แบ่งเป็น 4 แบบ แบบแรก Package A ราคาประหยัด แบบไม่มีเงินคืน+ประกันสุขภาพ ส่วน Package B จะรวมแบบประกันออมทรัพย์และประกันสุขภาพเข้าด้วยกัน ซึ่งจะมีเงินคืน 150,000 เมื่อครบอายุสัญญา 20 ปี ถือเป็นการวางแผนอนาคตให้ลูกอีกด้วย ขณะที่ Package C ไม่มีเงินคืน เน้นค่ารักษาแบบค่าห้อง 4,000 บาทต่อคืน และPackage Max จะให้ค่ารักษาจ่ายตามจริงปีละไม่เกิน 1,000,000 ค่าห้อง 6,000บาท

จุดเด่นของประกันของเมืองไทยประกันชีวิต

1. คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ไม่ต้องสำรองจ่ายตามวงเงินคุ้มครองในแบบประกัน
2. เน้นความคุ้มครองเด็กเล็กช่วงก่อนเข้าโรงเรียนที่ยังมีภูมิคุ้มกันต่ำ และเด็กเล็กก่อนเข้าอนุบาล รวมถึงเด็กแรกเกิด
3. คุ้มครองโรคยอดฮิต RSV มือ เท้า ปาก และเป็นไข้สูง ตัวร้อน virus สายพันธ์ต่าง ๆ ปอดบวม อาหารเป็นพิษ virus rota, หลอดลมอักเสบ อื่น ๆ
4. อุบัติเหตุก็คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอกด้วย ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล หกล้มอุบัติเหตุ แผลนิดหน่อยก็เคลมได้

 

อาคเนย์ประกันชีวิต

แบบประกันภัย สไมล์ คิดส์ เพื่อเติมรอยยิ้มให้ลูกรักได้เต็มที่กับทุกการเรียนรู้ รับประกันตั้งแต่วัย 1 เดือน – 15 ปี ถือเป็นอีกหนึ่งแบบประกันสุขภาพสำหรับลูกน้อยที่พ่อแม่ควรพิจารณาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก


จุดเด่นของตัว อาคเนย์ สไมล์ คิดส์
1. ค่าเบี้ยประกันภัยเริ่มต้นอายุ 0-5 ปี ราว 13,xxx เท่านั้น
2. ความคุ้มครองที่อุ่นใจกับลูกวัย 1 เดือน ถึง 15 ปี ให้ความคุ้มครองยาวถึงอายุ 89 ปี
3. มีแผนความคุ้มครองให้เลือกถึง 3 แผน ตามทุนประกันที่เหมาะสมตามต้องการ
4. คุ้มครองค่าใช้จ่ายในโรงพยาบาล ไม่ว่าจะเจ็บป่วยด้วยโรคทั่วไปหรือบาดเจ็บ รวมถึงค่าห้อง ค่าเอ็กซ์เรย์ วินิจฉัยโรค และค่าปรึกษาแพทย์ ค่าห้องสูงสุด 3,700 บาทต่อวัน ในแผน 3 จากสัญญา H&S ค่าห้อง 2,200 รวมกับสัญญา H&S Plus อีก 1,500 บาท รวมสูงสุด 3,700 บาทต่อวัน
5. รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนเกินให้อีก 90% ในความคุ้มครองอื่น ๆ ยกเว้นค่าห้องค่าอาหาร จะรับผิดชอบให้ตามตารางผลประโยชน์
6. คุ้มครองผู้ป่วยนอกจากอุบัติเหตุ คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน ขณะเป็นผู้ป่วยนอกเนื่องจากอุบัติเหตุ
7. สามารถซื้อให้ลูกรักได้เลย โดยไม่ต้องซื้อพ่วงพ่อแม่

กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต Healthy Kid
แบบประกันชีวิตที่มาพร้อมประกันสุขภาพให้ลูกรัก เพื่ออนาคตให้เขาก้าวเดินได้อย่างมั่นคง เพราะเป็นแบบประกันที่มีแบบประกันภัยหลัก คือ สมาร์ท โพทรเทคเตอร์ (25PL) ให้ความคุ้มครองชีวิตเริ่มต้น 500,000 บาท +สัญญาเพิ่มเติมค่ารักษาพยาบาลห้อง (2,500 & 3,500) เป็นแบบประกันสุขภาพสำเร็จรูปที่ให้ความคุ้มครองสำหรับเด็ก อายุ 1 เดือน – 10 ปี โดยจะมีเงินออมให้ลูกด้วย เงินคืน ประจำปีตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 2 เป็นต้นไป

ส่วนในด้านความคุ้มครองประกันสุขภาพ หลักๆ
1.ให้ความคุ้มครองค่ารักษาผู้ป่วยในต่อเนื่อง 150 วัน
2.ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกต่อเนื่องจากการรักษาพยาบาลในฐานะผู้ป่วยใน
3.ค่าปรึกษาแพทย์เฉพาะทางในโรงพยาบาลสูงสุด 20 ครั้ง/ปี
4.รับค่าห้อง 2,500 และ 3,500 สูงสุด150 วัน
5.ค่าห้อง ICU สูงสุด 30 วัน
6.รับเพิ่มอีก 70 % กรณีรักษาค่าแพทย์ผ่าตัดและหัตถการ
7.รับเพิ่มอีก 70 % ของส่วนเกินค่ารักษาพยาบาล 70 โรคร้ายแรง

 

ไทยประกันชีวิต เพื่อลูกสุดรัก
เป็นอีกหนึ่งแบบแบบประกันที่ให้ความคุ้มครองรอบด้านเพื่อลูกสุดรัก เมื่อลูกเจ็บป่วย นอนโรงพยาบาลจากโรคอื่น ๆ รับเงินชดเชยสูงสุดวันละ 2,000 บาท

แต่ถ้านอนโรงพยาบาลจาก 5 โรคพบบ่อยในเด็ก ทั้งโรคมือเท้าปาก โรคปอดบวมหรือปอดอักเสบ โรคอาหารเป็นพิษ โรคบาดทะยัก และโรคไข้สมองอักเสบจากเชื้อไวรัส รับเงินชดเชยสูงสุดวันละ 4,000 บาท

ขณะเดียวกัน ไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุเล็กหรือใหญ่ ไม่ต้องสำรองจ่าย ให้เงินค่ารักษาพยาบาลสูงสุดครั้งละ 100,000 บาทต่อครั้ง นอกจากนี้ ยังจะได้รับเงินคืนเพื่อเป็นของขวัญให้ลูกตลอดสัญญา สูงสุดถึง 700,000 บาท

 

ประกันสะสมทรัพย์ (ออมเพื่อการศึกษา)
หากต้องเลือกที่จะมอบของขวัญให้กับลูกในอนาคต ระหว่าง “เงิน” และ “การศึกษา” เชื่อว่าพ่อแม่ส่วนใหญ่จะมองไปที่การมอบการศึกษาที่ดี ๆ หรือ มีเป้าหมายส่งลูกเรียนให้จบสูง ๆ ปัจจุบันพ่อแม่บางคนอาจจะต้องวางแผนด้านการศึกษาให้กับลูกตั้งแต่เริ่มก่อนวัยเรียน เพราะยิ่งวางแผนได้เร็ว ย่อมมีทางเลือกในการออมเงินเพื่อมอบเป็นของขวัญทางการศึกษาให้กับลูกได้เร็วกว่านั่นเอง

สำหรับการออมเงินเพื่อการศึกษาลูกในอนาคตนั้น มีตัวเลือกให้พ่อแม่ได้ใช้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการออมผ่านกองทุนรวม การออมในหุ้น หรือการออมด้วยแบบประกันสะสมทรัพย์

และในตัวเลือกเหล่านี้ แบบประกันสะสมทรัพย์ จะมีความเสี่ยงต่ำสุด และมีผลตอบแทนในอนาคตที่ชัดเจน แม้จะได้รับผลตอบแทนต่ำกว่าการออมรูปแบบอื่นก็ตาม เพราะเบี้ยประกันส่วนใหญ่จะถูกนำไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น พันธบัตรรัฐบาล เป็นต้น แต่ก็ได้ในเรื่องของความปลอดภัย และยังได้รับความคุ้มครองชีวิตด้วย

แน่นอนว่า แบบประกันสะสมทรัพย์ เพื่อการศึกษา จึงเป็นอีกหนึ่งแบบประกันชีวิตที่พ่อแม่ควรมอบเป็นของขวัญให้กับลูกในอนาคต เพราะการศึกษาเป็นรากฐานสำคัญในชีวิต ซึ่งตลอดการเรียนรู้ของลูกเริ่มตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนจบปริญญาตรี ต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะหากต้องการให้ลูกได้รับการศึกษาในสถาบันการศึกษาระดับท็อป ๆ ของประเทศ แต่หากเราวางแผนการเงินดี ๆ ย่อมสามารถนำพาลูกรักไปถึงฝั่งด้านการศึกษาได้อย่างแน่นอน

สำหรับแบบประกันสะสมทรัพย์ เพื่อการศึกษา มีบริษัทประกันชีวิตเกือบทุกแห่งนำออกมาเป็นตัวเลือกให้ อาทิ

เมืองไทย แฮปปี้ ไลฟ์พลัส
สร้างหลักประกันเพื่ออนาคตของลูกรัก ด้วย เมืองไทย แฮปปี้ ไลฟ์พลัส เป็นแบบประกันที่จ่ายเบี้ยไม่แพง และมีเงินคืนระหว่างสัญญา เพื่อเป็นหลักประกันว่าลูกรักมีเงินที่เราออมใว้ให้กับเขาแน่นอน เป็นของขวัญของลูกรักในอนาคต ด้วยระยะเวลาเอาประกันภัย 21 ปี และระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย 21 ปี เช่นกัน

จุดเด่นของ เมืองไทย แฮปปี้ ไลฟ์พลัส
1.รับเงินจ่ายคืนปีละ 10% ทุกรอบ 3 ปี กรมธรรม์ ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 3 – 18 รวมทั้งหมด 60%
2.รับเงินครบสัญญาสูงสุดถึง 140%
3.รับความคุ้มครองชีวิตสูงสุดถึง 165%
4.ทำได้ตั้งแต่ อายุ 1 เดือน ถึง 60 ปี
ข้อเสีย : เบี้ยประกันชีวิตของแบบประกันนี้ ไม่สามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามกฎหมายกำหนด

 

เอฟดับบลิวดี ประกันหนูน้อยวัยซน
เป็นอีกหนึ่งแบบประกันสะสมทรัพย์ ที่ออกมาเพื่อให้พ่อแม่มั่นใจว่าอนาคตทางการศึกษาของลูกน้อยจะมั่นคงและสดใส ตั้งแต่ชั้นประถมจนจบมหาวิทยาลัย

จุดเด่นอยู่ที่
1.มีเงินคืน เพื่อเป็นทุนการศึกษาระดับประถม และเพิ่มขึ้นตามช่วงการศึกษา พร้อมรับเงินก้อนโตเมื่อเรียนจบ
2.ชำระเบี้ยประกันจนลูกอายุ 18 ปี และคุ้มครองลูกจนถึงอายุ 22 ปี
3.ด้วยความคุ้มครองเพิ่มเติมผู้ชำระเบี้ย บริษัทจะจ่ายเบี้ยประกันแทนเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันกับพ่อ แม่ หรือผู้ปกครอง
ข้อเสีย : เบี้ยประกันชีวิตของแบบประกันนี้ ไม่สามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามกฎหมายกำหนด

 

อย่างไรก็ดี การเลือกจะออมหรือลงทุนเพื่อการศึกษาลูกอย่างไรถึงเหมาะสมกับเรา ก็ต้องพิจารณาให้เหมาะสมทั้งความเสี่ยงของเรา และระยะเวลาที่จะลงทุน นั่นเพราะหากเลือกใช้การออมผ่านประกันแบบสะสมทรัพย์ แม้จะมีความเสี่ยงต่ำ ให้ผลตอบแทนตามที่เราวางไว้ แต่ยังมีจุดด้อยเรื่องผลตอบแทน และสภาพคล่องที่ต่ำกว่าการออมแบบอื่น ๆ หากเราต้องการใช้เงินเร่งด่วน เพราะฉะนั้น เราต้องวางแผนให้ดีเพื่อจะสามารถทำให้การออมเงินเพื่อการศึกษาของลูก บรรลุเป้าหมายตามที่เราต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่