“นิวซิตี้” โฟกัสจุดแข็ง ก้าวตามจังหวะของตัวเอง

การเปลี่ยนธุรกิจจากรุ่นส่รุ่นในมุมของ คุณพิภพ โชควัฒนา กรรมการผู้จัดการและรองประธานบริหารสายปฏิบัติการ บริษัท นิวซิตี้ (กรุงเทพฯ) จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเจน 3 เครือสหพัฒน์ มองว่า เมื่อเข้ามาบริหารธุรกิจครอบครัว พบปัญหาหลายเรื่อง

ทั้งเรื่องขององค์กร ความผันผวนของสินค้าแฟชั่น ซึ่งการแก้ปัญหาจะใช้วิธีการพยายามมองหาจุดแข็งของธุรกิจให้เจอเพื่อโฟกัสไปในจุดนั้น และมองหาจุดแข็งอื่น ๆ ในองค์กรด้วย สิ่งสำคัญต้องทำความเข้าใจกับคนในองค์กร ต้องรู้จุดเด่นจุดด้อยของแต่ละคน รวมทั้งเปิดโอกาสให้ลองทำในสิ่งที่คิด ไม่สำคัญว่าผิดหรือถูก ขอให้ในภาพรวมทำเพื่อองค์กร

“โจทย์หลักต้องหาจุดเด่น คิดบวก และเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ทำนั้นทำได้ ทุกอย่างแก้ไขได้ สิ่งเหล่านี้ต้องใช้เวลาหาประสบการณ์ เราต้องยอมรับผิดได้ ประเมินตัวเราด้วย สิ่งที่ทำถ้าถูกย่อมมีผลต่อองค์กรให้เห็นอยู่แล้ว และเมื่อประเมินบ่อย ๆ สามารถเอาข้อมูลมานำเสนอ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ตอนเข้ามาทำงานนั้น เป็นวิกฤตในองค์กร ซึ่งก็เป็นโอกาสในการพิสูจน์ตัวเราด้วย ผมเชื่อว่าหากมีความพยายามผลักดันในองค์กรให้เติบโตไปเรื่อย ๆ จะมีโอกาสรอดเสมอถ้าเราสู้ ไม่มีคำว่าหลังชนฝาแล้วไม่รอด”


สำหรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีต่อธุรกิจนั้น มองว่าแต่ละธุรกิจจะได้รับผลกระทบไม่เหมือนกัน สิ่งที่เป็นเทรนด์ต้องดูให้ดีว่าเราอยู่ในธุรกิจอะไร เหมาะที่จะตามเทรนด์หรือไม่ บางครั้งการเอาเงินไปลงทุนในเทคโนโลยีที่ไม่เหมาะกับธุรกิจก็สูญเปล่า ยิ่งตื่นเต้น ปรับเปลี่ยนเร็วต้องใช้ต้นทุนสูง สุดท้ายในอนาคตสิ่งนั้นก็กลายเป็นสิ่งปกติธรรมดา ดังนั้นต้องมองตัวเองให้ลึก ในแต่ละธุรกิจต้องมีจังหวะของตัวเอง


เมื่อการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นรวดเร็วและยังไม่หยุด ควรรอให้ถึงจุดอิ่มตัว ดูว่าในแต่ละเรื่องจะอิ่มตัวแบบไหน ซึ่งเรามีแบบจำลองอยู่ในใจที่จะวางแผนให้องค์กรเดินไป ตอนนี้สิ่งที่กระทบคือรูปแบบการขายที่เปลี่ยนไป คำถามคือเราจะอยู่ตรงไหน หากมองว่าธุรกิจจะไปสู่อีคอมเมิร์ซหมด ก็ต้องไปอยู่ที่นั่นเพื่อให้มีพื้นที่ของเรา แต่ไม่ใช่พยายามเปลี่ยนตัวเองไปเป็นสตาร์ทอัพอีกหนึ่งราย สิ่งที่น่าสนใจกว่าในยุคนี้คือ เรื่องพฤติกรรมการซื้อสินค้าที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค