ทาวเฮ้าส์ และบ้านเดี่ยวขายดี ช่วงโควิด-19 ดันกำไร ‘พฤกษาฯ’ ไตรมาส 2 โตสวนวิกฤต เสริมแกร่งด้วยธุรกิจ Health Center หนุนรายได้พุ่งถึง 3.2 หมื่นล้าน

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมา เจอผลกระทบค่อนข้างหนัก แถมตลาดครึ่งปีหลังก็ยังต้องเผชิญกับกำลังซื้อที่ถดถอย แต่ ‘พฤกษา โฮลดิ้ง’ ถือว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่ถือว่าทำผลงานได้ค่อนข้างดี

โดยประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2564 สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2564 มีกำไรสุทธิ 427.47 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.54% จากปีก่อน 416.86 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิ 6 เดือนแรกอยู่ที่ 1,033.61 ล้านบาท

ซึ่งกำไรสุทธิที่เติบโตขึ้น เป็นผลจากยอดขายของทาวน์เฮ้าส์ในช่วง 6 เดือนแรกเติบโตได้สูงที่สุด (+57.2%) ด้าน บ้านเดี่ยวเติบโตโดดเด่นเช่นกัน (+53%) ส่วนอาคารชุดก็มีการขยายตัวที่ดี (+21.5%)

และในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้น นั้น ปรับตัวลดลงเล็กน้อยมาทที่ 28.4% สาเหตุมาจากอัตราต้นทุนขายที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงต้นทุนกิจการของโรงพยาบาลวิมุตที่เพิ่งเริ่มเปิดดำเนินการ (ค่าใช้จ่าย และต้นทุนจะสูงเฉพาะในช่วงเตรียมเปิดดำเนินการเท่านั้น)

โดย พฤกษา โฮลดิ้ง ได้ลงทุนธุรกิจโรงพยาบาลวิมุต เป็นที่แรก เริ่มก่อสร้างในช่วงปลายปี 2560 งบการก่อสร้างราว 5,000 ล้านบาท

ด้านเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด เพิ่มขึ้นมาที่ 1,651 ล้านบาท จากปีก่อน 1,336 ล้านบาท (แสดงให้เห็นว่าไตรมาส 2 บริษัทมีความสามารถในการหาเงินสดและรายการเทียบเท่าเพิ่มขึ้น)

PSH

มาดูคำสัมภาษณ์จาก คุณปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พฤกษา เรียลเอสเตท กันสักหน่อย โดย คุณปิยะ ได้เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 2 ประจำปี 2564 ว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะมีการชะลอตัวจากวิกฤติโควิด-19 แต่ด้วยที่อยู่อาศัยยังคงเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่เป็นพื้นฐานสำคัญและตลาดยังคงมีดีมานด์อยู่อย่างต่อเนื่อง

ประกอบกับที่ผ่านมาพฤกษามีการปรับตัวเน้นการใช้ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งเพิ่มมากขึ้น พร้อมกับจัดแคมเปญส่งเสริมตลาดให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้ายุคใหม่ที่เปลี่ยนไป ทำให้ยังคงรักษาการเติบโตได้ดี

โดยในไตรมาส 2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนบริษัทฯ ทำยอดขาย 7,225 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106% ทำรายได้ 6,334 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% และมีกำไรสุทธิ 427 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% และสามารถลดสินค้าคงค้าง (Inventory) ลงไปได้ถึง 58%

พร้อมทั้งเปิดตัวโครงการใหม่ถึง 9 โครงการ ทำให้ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2564 มียอดขายรวม 14,165 ล้านบาท เติบโต 48% มีรายได้ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปี 2563 ที่ 13,222 ล้านบาท โดยเปิดโครงการใหม่ในครึ่งปีแรกไปแล้ว 14 โครงการ มูลค่า 8,792 ล้านบาท

สำหรับแผนงานในครึ่งปีหลัง มีแผนเปิดโครงการใหม่ 15 โครงการ มูลค่า 17,838 ล้านบาท ซึ่งหลังจากมีการปลดล็อกดาวน์แคมป์คนงานก่อสร้าง บริษัทฯ ได้กลับมาเร่งงานก่อสร้างต่อภายใต้มาตรการ Bubble and Seal ซึ่งในครึ่งปีหลังมีคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างจำนวน 7 โครงการและจะทยอยส่งมอบในปีนี้ ทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้ายอดขายและรายได้ที่วางไว้ 32,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังเน้นเพิ่มช่องทางการเข้าถึงลูกค้าผ่านทางออนไลน์ให้ครอบคลุมทุกช่องทาง ควบคู่กับการออกแคมเปญให้ตรงกับความต้องการลูกค้า โดยในไตรมาส 3 ร่วมกับ ‘เอไอเอส’ ออกแคมเปญ ที่ให้ลูกค้าอยู่ฟรีสูงสุด 36 เดือน ฟรีค่าส่วนกลางสูดสุด 36 เดือน ฟรีค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์ และส่วนลดต่าง ๆ แล้ว ลูกค้ายังจะได้รับแพ็กเกจสัญญาณอินเทอร์เน็ตบ้านเอไอเอส ไฟเบอร์ พร้อมด้วยบริการ AIS PLAY ฟรีอีก 1 ปี

มีมุต

มาดูข้อมูลจากทางผู้บริหารรพ.วีมุต กันบ้าง
นายแพทย์กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด เปิดเผยถึงความคืบหน้าธุรกิจโรงพยาบาลวิมุต ว่า ขณะนี้โรงพยาบาลวิมุตได้เปิดศูนย์บริการต่าง ๆ อาทิ เช่น ศูนย์เบาหวานและต่อมไร้ท่อ ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด ศูนย์กระดูกและข้อ ศูนย์สมองและประสาท ศูนย์สุขภาพ ศูนย์ผิวหนังและความงาม

โดยในช่วงโควิด-19 โรงพยาบาลวิมุต ได้เปิดตัวบริการ “Safe Save Surgery” ซึ่งเป็นการผ่าตัดที่ใช้ระยะเวลานอนพักฟื้นระยะสั้น โดยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ พร้อมด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ล่าสุด และควบคุมค่าใช้จ่ายให้เหมาะสม โดยสามารถผ่าตัดได้หลากหลาย อาทิ นิ่วในถุงน้ำดี เนื้องอกมดลูก ผ่าตัดถุงน้ำรังไข่

และขณะนี้ทางโรงพยาบาลปิดรับจองและดำเนินการสั่งซื้อวัคซีนวัคซีนโมเดอร์น่าจากองค์การเภสัชกรรมเรียบร้อยแล้วครบตามจำนวนโดสสำหรับผู้ที่จองและชำระเงินตามกำหนดเวลา ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดสรรลำดับการฉีดวัคซีน จะทยอยเข้ารับวัคซีนตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป (ตามกำหนดการส่งมอบวัคซีนจากบริษัทฯ)

ในปีนี้โรงพยาบาล ซึ่งเปิดตั้งแต่ พฤษภาคม 64 จะสามารถทำรายได้ทะลุเป้าเดิม 375 ล้านบาท ไปเป็น 500 ล้านบาท ตั้งเป้าเติบโตในปีถัดไป ประมาณ 15-20%

ส่วนการลงทุน ViMUT Health Center ที่โครงการ Pruksa Avenue ในย่านบางนา-วงแหวน อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ใช้งบลงทุนรวม 150 ล้านบาท ขนาด 50 เตียง ซึ่งจะเป็นศูนย์สุขภาพ ที่ครอบคลุมบริการที่หลากหลาย อาทิ คลินิก ศูนย์กายภาพ ศูนย์ดูแลและบริบาลผู้สูงอายุ รวมทั้งการให้บริการดูแลสุขภาพถึงบ้าน (Home Health Care) คาดว่าจะเปิดให้บริการในปลายปี 2565

จากเท่าที่ดูข้อมูลตัวเลขผลประกอบการที่ผ่านมาของ พฤกษาฯ และโรงพยาบาลวิมุต ไปแล้วถือว่าทำได้แข็งแกร่ง และการที่ พฤกษาฯ กระโดดลงมาในธุรกิจเกี่ยวกับการแพทย์ ถือเป็นการเพิ่มพอร์ตรายได้ และกระจายความเสี่ยงไปสู่เมกะเทรนด์ ซึ่งจะทำให้ พฤกษา มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

เขียนและเรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์

ข้อมูล : SET,PSH

Line Business+ ได้ที่ https://lin.ee/pbIHC

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #ตลาดอสังหาริมทรัพย์ #อสังหาริมทรัพย์ #อสังหา #พฤกษา #PSH