เพราะเชื่อว่า ทุกเทคโนโลยี หรือแม้แต่ต้นทุนอย่างมนุษย์ สามารถจ่ายผลตอบแทนเป็นเงินได้หมด แต่สิ่งที่ซื้อไม่ได้ คือ Hospitality
นิยามของคำคำนี้ สำหรับ ทพ.ทัพพ์ฐิภูม ธันวารชร หรือหมอเอ้ ทันตแพทย์ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอินวิสไลน์ (Invisalign) จนได้รับการยอมรับให้เป็นทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอันดับ 4 ของประเทศไทย ดูจะเป็นมากกว่า Direction
น่าเหลือเชื่ออย่างมากสำหรับหมอฟัน กับวิธีคิดที่บางครั้งดูจะจับต้องได้ยากเสียเหลือเกิน ในยุคที่ใคร ๆ มองแต่ผลประโยชน์ก่อน ซึ่งจะว่าไปแล้ว ตัวตนของทันตแพทย์หนุ่มผู้นี้ มีมุมมองชีวิต การทำงาน และค่านิยมที่น่าสนใจมาก
ถึงขนาดที่ว่า เขาไม่จะยัดเยียดบริการต่าง ๆ ให้กับลูกค้าเพื่อหาผลประโยชน์สูงสุด แต่เขาจะแนะนำสิ่งที่ดีที่สุด กับความพึงพอใจให้ลูกค้าตัดสินใจเอง
“ผมเป็นคนที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ทั้งกับชีวิตส่วนตัวและการทำงาน Dynamic คือตัวตนของผม ดังนั้น สิ่งที่ผมคิด จะต้องไตร่ตรองมาอย่างรอบคอบ แล้วผมจะไม่ทำให้ใครเดือดร้อน
ครอบครัวก็เช่นกัน ลูก ๆ ของผม ผมจะสอนเขาให้อิสระเต็มที่ อิสระทางความคิด และลงมือทำอย่างเต็มที่ ขออย่างเดียว อย่าทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เช่นเดียวกับงานที่ผมรัก ทำไมจึงบอกว่า Hospitality สะท้อนความคิดและเป็นตัวตนของผมมากที่สุด
นั่นเพราะผมเชื่อว่า เทคโนโลยีสามารถซื้อหาได้ แม้กระทั่งคน แต่สิ่งที่ซื้อไม่ได้ คือ Hospitality ซึ่งมีความหมายถึงองค์รวมของการบริการ เป็น Systems ที่สามารถเชื่อมต่อในทุก ๆ รายละเอียด และยังหมายลึกลงไปถึงความมีน้ำใจ เอาใจใส่ในการต้อนรับต่อผู้มาเยือน ไม่ว่าจะเป็นแขก หรือคนแปลกหน้า ด้วยความยินดีในฐานะเจ้าของบ้านที่ดี”
ปัจจุบัน หมอเอ้เปิดร้านทันตกรรมชื่อว่า “อินโน-เดนท์” อาณาจักรทันตกรรมที่มีแนวคิดของการให้บริการทันตกรรมที่แตกต่างจากคลินิกทันตกรรมทั่วไป ภายใต้แนวคิด “เดนทัล รีสอร์ท” (Dental Resort)
เริ่มตั้งแต่เข้ามาถึงร้าน คุณจะพบกับบรรยากาศแบบร่มรื่น พนักงานต้อนรับจะยิ้มรับด้วยไมตรีจิต ซึ่งหมอเอ้บอกว่า ทุกคนที่เข้ามาใช้บริการ เราย่อมอยากมอบสิ่งที่ดีที่สุด จนเกิดเป็นความไว้เนื้อเชื่อใจ
หมอหนุ่มที่ได้รับการจัดอันดับที่ 4 จากความเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดด้วยเทคโนโลยีอินวิสไลน์ (Invisalign) ออกตัวว่า ในเมืองไทยกับการยอมรับบนทางเลือกนี้ เริ่มฉายแววดีขึ้น และคาดว่าในอนาคตจะมีลูกค้าต่างประเทศเข้ามารักษามากขึ้น
“ที่ต่างประเทศ การทำฟันแบบเทคโนโลยีเก่า เทียบกับอินวิสไลน์ (Invisalign) ราคาใกล้เคียงกันมาก จึงเชื่อว่า นี่จะเป็นจุดเปลี่ยนที่มองว่าไม่นานจากนี้ ลูกค้าจะเพิ่มมากขึ้น สำหรับคนไทยกับกระแสตอบรับ คงต้องบอกว่า เมื่อหลายปีที่แล้วแพงมาก เพิ่งปรับลงมาเมื่อปีที่แล้ว เพราะผู้บริโภคเริ่มเข้าใจถึงความปลอดภัย และประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในตอนนี้”
เมื่อถามถึงอนาคตข้างหน้า หมอเอ้ยิ้มกว้างบาดใจ ก่อนบอกสั้น ๆ ว่า ผมผ่านอะไรมาเยอะ “หมูปิ้งขึ้นห้าง, เซรั่มเครื่องสำอาง ผมยังผ่านมาได้ แต่สุดท้ายอาชีพนี้ แรก ๆ ไม่คิดว่าจะเปิดร้านเป็นของตัวเองด้วยซ้ำ แต่ถ้าทำแล้ว ต้องทำให้ดีที่สุด”
คุณไม่รู้หรอกว่า ลูกค้าจะรู้สึกดีแค่ไหน หากเราให้การต้อนรับและให้บริการแบบคนในครอบครัว และคำคำนี้ “Hospitality”
ผมจะย้ำกับทีมงานทุกคน ให้คิดเสมือนว่า ทุกคนที่มาใช้บริการ คือส่วนหนึ่งของครอบครัว เหมือนที่ผมสร้างร้านนี้ขึ้นมา”
คลิกติดตามบทความทั้งหมดได้ที่ นิตยสาร Business+ November 2015 Issue 321
ผู้เขียน : วิทยา กิจชาญไพบูลย์