จีน เชือดไก่ให้ลิงดู!! Didi แค่เริ่มต้น Tech จีนเตรียมกลับประเทศ

การลงโทษบริษัท ตีตีซูชิง (Didi Chuxing) ของทางรัฐบาลจีน ภายใต้ข้อหาความผิดเรื่องการเก็บข้อมูลผู้ใช้งานอย่างผิดกฎหมาย พร้อมกับความเห็นจากหน่วยงานที่ดูแลด้านความปลอดภัยไซเบอร์ของจีนที่มองว่า การกระทำของ ตีตีซูชิง อาจส่งผลต่อความมั่นคงของชาติ ต้องบอกว่านี้คือการลงโทษในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนของรัฐบาลจีนที่มีต่อกลุ่มเทคโนโลยีของประเทศซึ่งอยู่ในยุคเฟื่องฟูมาตลอดทศวรรษ

นาย Ipek Ozkardeskaya นักวิเคราะห์ระดับอาวุโสของ Swissquote Group Holdings SA. มองว่า การลงโทษอย่างรุนแรงในครั้งล่าสุดนี้ถือเป็นข่าวร้ายมาก ๆ สำหรับบริษัทเทคโนโลยีของจีนซึ่งต้องการไประดมทุนในต่างประเทศ ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นเรื่องน่าหนักใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติด้วย ผู้มีอำนาจในปักกิ่งส่งสัญญาณชัดเจนว่าการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐสำหรับบริษัทเทคโนโลยีจากจีนไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสนับสนุนอีกต่อไป

มูลค่าตลาดของ ตีตีซูชิง หายไปกว่า 19,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหลังทางการจีนมีบทลงโทษออกมา ซึ่งหลายฝ่ายมองการเข้าแทรกแซงกลุ่มเทคโนโลยีของทางการจีนผ่านเหตุผลสองประเด็น หนึ่ง คือข้อมูลที่ถูกเก็บโดยบริษัทเหล่านี้คุกคามความมั่นคงของประเทศ สอง การที่บริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้เข้าไป IPO ในตลาดสหรัฐก็ต้องทำตามกฎเกณฑ์ของสหรัฐในเรื่องข้อมูล ซึ่งนั้นเท่ากับปล่อยให้ขุมทรัพย์ของประเทศและข้อมูลส่วนบุคคลตกไปอยู่ในมือของชาวต่างชาติ

การลงโทษบริษัทเทคโนโลยีของประเทศตัวเองของทางการจีนนั้นเกิดขึ้นท่ามกลางความสัมพันธ์ทางการฑูตที่ย่ำแย่ระหว่างจีนกับสหรัฐในหลากหลายมิติ หากใครจำได้ก่อนนี้ทางสหรัฐได้ดำเนินการแบนบริษัทเทคโนโลยีจากจีนจำนวนมากในข้อหาด้านความมั่นคง (จีนล้วงข้อมูลได้แล้วเพราะตอนสมัยเข้าไปจดทะเบียนกันใหม่ ๆ ยังไม่มีกฎเกณฑ์เหล่านี้ออกมา แต่ตอนนี้กำลังจะโดนล้วงกับก็เลยถอยดีกว่ารึเปล่า?) โดยหลายบริษัทของจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐถูกถอดออกจากตลาดไม่ว่าจะเป็น China Telecom, China Mobile รวมไปถึงบริษัทนอกตลาดอย่าง Huawei

ซึ่งประเด็นนี้เองที่ทำให้จีนเริ่มตื่นตัวหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศตัวเองตามพื้นที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เซี่ยงไฮ้, เชินเจิ้น และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ขึ้นมาแทน เพื่อให้สถานที่เหล่านี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของเหล่าบริษัทเทคโนโลยีในประเทศตัวเองเพื่อเข้ามาจดทะเบียน ซึ่งนั้นเท่ากับข้อมูลซึ่งถือเป็น ทองคำ ในอุตสาหกรรมยุคใหม่จะยังคงอยู่ในประเทศตัวเองต่อไป

ภายใต้กฎหมายด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของจีนฉบับนี้บังคับให้บริษัทเทคโนโลยีแพลตฟอร์มไหนก็ตามที่มีความต้องการระดมทุนในตลาดต่างประเทศ และมีผู้ใช้งานตั้งแต่ 1 ล้านบัญชีขึ้นไป จำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากทางหน่วยงานกำกับดูแลของภาครัฐเสียก่อน ซึ่งกฎหมายตัวนี้คล้ายกับกฎหมายของสหรัฐที่ชื่อว่า Foreign Investment Risk Review Modernization Act of the United States ซึ่งบริษัทใดก็ตามที่ทำธุรกรรมซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อมูลของคนมากกว่า 1 ล้านคนขึ้นไปจำเป็นต้องได้รับการเห็นชอบจาก the Committee on Foreign Investment ในประเทศเสียก่อน

ทางคุณ You Yunting ซึ่งเป็นหุ้นส่วนอาวุโสของ Shanghai Debund Law Firm ให้ความเห็นว่า “รัฐบาลจีนปรารถนาที่จะตรวจตราอย่างเข้มข้นต่อบริษัทของจีนที่ไปจดทะเบียนในต่างประเทศ ตั้งแต่มีสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนเกิดขึ้น ข้อมูล กลายเป็นสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายต่างมุ่งเป้า สำหรับ ตีตีซูชิง แล้วมันเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้นของการตรวจตราอย่างเข้มข้น ต่อให้ไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ทางรัฐบาลจีนก็ยังคงดำเนินการบนแนวทางนี้เหมือนเดิม”

โดยสำนักข่าว Bloomberg เปิดเผยว่า จนกระทั่งถึงปีนี้มีบริษัทจากจีนเข้าไอยู่ในตลาดสหรัฐมากถึง 37 บริษัท โดยเฉพาะในปี 2020 พวกเขาระดมทุนรวมกันไปกว่า 12,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่คุณ Feng Chucheng หุ้นส่วนบริษัทวิจัย Plenum ในปักกิ่งมองว่า “กฎหมายฉบับนี้จะผลักดันให้เหล่าบริษัทจากจีนจำเป็นต้องกลับมาจดทะเบียนในตลาดฮ่องกงแทน การกำหนดขั้นต่ำที่ ผู้ใช้งานตั้งแต่ 1 ล้านบัญชี เท่ากับแทบทุกบริษัทอยู่ในข่ายต้องขอการอนุมัติทั้งสิ้น”

การมาของกฎเกณฑ์การกำกับดูแลนั้นครอบคลุมความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอำนาจของต่างชาติ รวมไปถึงการทบทวนความเสี่ยงของข้อมูลซึ่งอาจจะถูกโอนย้าย ขโมย ปล่อยให้รั่วไหล และถูกทำลาย ซึ่งการทบทวนนี้ตั้งอยู่บนความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของชาติที่มีต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลที่สำคัญ

เขียนและเรียบเรียง : เอกพล มงคลพัฒนกุล

ที่มา : ZH

#BusinessPlus #ตีตีซูชิง #DidiChuxing #การลงทุน #GDPจีน #ธุรกิจ #Investment #tech #ความปลอดภัยไซเบอร์ #Cybersecurity