จีน ผลักดัน กีฬาฤดูหนาว สู่ระดับโลก คาดสร้างเม็ดเงินกว่า 300 ล้านหยวน

มหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ปักกิ่ง 2022 ครั้งนี้ จะถือเป็นอีกหนึ่งบททดสอบที่ยิ่งใหญ่ของประเทศจีนเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นมิติทางเศรษฐกิจที่จะมีการเปิดตัวใช้งานดิจิทัลหยวนในระดับที่ใหญ่ และเสมือนเป็นการเปิดตัวดิจิทัลหยวนอย่างเป็นทางการผ่านงานนี้ไปพร้อม ๆ กัน ขณะที่มิติอื่น ๆ อย่างการเมืองซึ่งล่าสุดทางสหรัฐก็ยืนยันว่าจะไม่ส่งเจ้าหน้าที่จากทางการเข้าร่วม โดยอ้างประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนเช่นเดิม ตรงนี้เหมือนเป็นการแสดงพลังแบนจีนทางอ้อมกลาย ๆ ท่ามกลางความตึงเครียดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ รวมไปถึงการชิงชัยสุดยอดความเป็นเจ้าเหรียญทองของกีฬาโอลิมปิกเกมส์ในครั้งนี้ ซึ่งถ้าจีนครองตำแหน่งไปได้ ตรงนี้จะเหมือนเป็นสัญญาณที่ชัดเจนซึ่งบ่งบอกถึงผู้นำโลกในยุคใหม่แล้วใช่รึเปล่า

แต่สุดท้ายแล้วใครครองตำแหน่งคงต้องติดตามกันต่อไป ขณะที่มหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ของมวลมนุษยชาตินี้กำลังจะอุบัติขึ้นในอีกไม่กี่อึดใจนี้แล้ว แต่ภายใต้ความยิ่งใหญ่ก็มักจะต้องประกอบไปด้วยเรื่องดี ๆ จำนวนมากรวมกันขึ้นมาเป็นสิ่งเหล่านั้น โดยหนึ่งในเรื่องดี ๆ เรื่องนั้นคือ อุตสาหกรรมกีฬาฤดูหนาว ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าจะถูกผลักดันให้กลายเป็นที่นิยมในหมู่ชาวจีนจากงานกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ปักกิ่ง 2022 ในครั้งนี้

โดยปกติแล้วชาวจีนชนชั้นกลางจำนวนมากนิยมไปเล่นสกีที่ประเทศญี่ปุ่น โดยหมุดหมายปลายทางอยู่ที่เทือกเขาแอลป์ในประเทศญี่ปุ่น เมืองโทยาม่า แต่ภายใต้สถานการณ์การระบาดของโรคร้ายตลอดเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้นักเล่นสกีชาวจีนจำเป็นต้องหันมาเล่นสกีภายในประเทศแทน โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ซึ่งตลอด 2 ปีที่ผ่านมานักเล่นสกีชาวจีนมาที่แห่งนี้เป็นจำนวนมาก พร้อมกับอุปกรณ์เครื่องมือที่เป็นลักษณะมืออาชีพมากขึ้นเรื่อย ๆ และนั่นแพงกว่าที่มีขายในท้องถิ่นที่นี่ซะอีก

โดยปกติแล้วต้นทุนพื้นฐานที่ต้องจ่ายสำหรับเล่นกีฬาอย่างสกีจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 หยวน หรือราว 1,570 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนเลยทีเดียว (คนจีนมีกำลังซื้อสูงมาก)

โดยทางการจีนพยายามให้การสนับสนุนกีฬาชนิดนี้มาโดยตลอดในช่วงหลัง ๆ โดยเฉพาะหลังจากทำผลงานได้ดีในการแข่งขันครั้งก่อน ภาครัฐได้ทุ่มเงินให้สูงถึง 300 ล้านหยวน สำหรับการวางโครงสร้างพื้นฐานกีฬาทางด้านนี้ทั้งหมด ไล่ตั้งแต่ ลานสเก็ตน้ำแข็ง หรือครึ่งท่อที่เป็นโครงสร้างที่ใช้ในกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่ใช้แรงโน้มถ่วง เช่น สโนว์บอร์ด สเก็ตบอร์ด สกี บีเอ็มเอ็กซ์ฟรีสไตล์ สเก็ต และขี่สกูตเตอร์ เป็นต้น ตรงนี้ต้องชื่นชมนักกีฬาของจีนที่มีการแสดงออกที่ยอดเยี่ยมในครั้งก่อน ทำให้ภาครัฐเดินหน้าสนับสนุนเพิ่มเติม ในส่วนผลลัพธ์ของมันเราจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว

กีฬาหน้าหนาวสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนถูกคาดว่าจะสร้างเม็ดเงินถึง 300.5 ล้านหยวน ระหว่างหน้าหนาวปี 2021-2022 นี้ พร้อมกับรายได้จากการท่องเที่ยวในหน้าหนาวอีก 323,000 ล้านหยวน ตามรายงานจาก กรมวิชาการด้านการท่องเที่ยวของจีนในเดือนล่าสุด ด้านคุณ Joe Song ซึ่งเป็นวิศกรชาวจีนที่เพิ่งเริ่มเล่นสกีครั้งแรกในช่วงปี 2019-2020 ที่ผ่านนี่เอง โดยมีสาเหตุมาจากการที่คุณหมออยากให้ออกกำลังกายเนื่องจากสุขภาพของเขาไม่แข็งแรง ซึ่งเขาบอกว่านับตั้งแต่เขาเริ่มเล่นมาจนถึงตอนนี้จ่ายเงินไปมากกว่า 12,000 หยวนแล้ว (ตอกย้ำถึงกำลังซื้อของจีนว่ามากแค่ไหนในเวลานี้)

โดยบริษัท Ctrip (บริษัท ท่องเที่ยวออนไลน์ข้ามชาติของจีนที่ให้บริการรวมถึงการจองที่พักตั๋วการขนส่งทัวร์แบบแพ็คเก็จและการจัดการการเดินทางขององค์กร ก่อตั้งขึ้นในปี 2542) ได้เผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า เนื้อหาในชุมชนเกี่ยวกับการเล่นสกีมีการเติบโตมากขึ้นถึง 224% ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2021 เมื่อเทียบกับปี 2020 และสำหรับ 12 วันสุดท้ายของเดือนธันวาคม 2021 ที่ผ่านมามียอดจองรีสอร์ทสกีพุ่งขึ้นกว่า 6 เท่า ด้านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและอีคอมเมิร์ซอย่าง Little Red Book ก็เผยว่า หนึ่งใน 10 เทรนด์ปี 2022 ที่คนจีนอยากทำกันมากที่สุดก็คือ การเรียนสกี ซึ่งในปี 2021 ที่ผ่านมามีปริมาณคอร์สเรียนสกีเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า โดยทางแพลตฟอร์มได้มีการปล่อยแคมเปญเรียกผู้ใช้กันอย่างครึกครื้น พร้อมล่อใจด้วยรางวัลสูงถึง 500,000 หยวน หากสามารถเล่นชนะได้

ขณะที่คนที่อยู่ในวงการสกีของจีนก็ให้ความเห็นว่า ตลาดกีฬาฤดูหนาวของจีนนั้นมีศักยภาพที่จะโตได้อีกมาก เพราะเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ และผู้เล่นจำนวนมากก็เต็มใจจะจ่ายเงินนับหมื่นหยวนเพื่อให้ได้อุปกรณ์ที่เป็นมืออาชีพมากขึ้น

และเพื่อจะเน้นย้ำให้เห็นถึงการเติบโตในกีฬานี้แบบชัดเจนมากขึ้น บริษัท New Oriental Education ซึ่งผู้ให้บริการการศึกษาเอกชนในประเทศจีนได้ลงทุนมากกว่า 10 ล้านหยวนในเดือนมิถุนายนปี 2021 ที่ผ่านมาในการฝึกสอนกีฬาฤดูหนาวทั้งหลาย ขณะเดียวกันรัฐบาลท้องถิ่นของจีนก็ได้มีนโยบายออกมาสนับสนุนกีฬาชนิดนี้จำนวนมาก เช่น คลาสสอนการเล่นสกีสาธารณะ เป็นต้น

โดยคุณ Zhang Xiaohei ซึ่งคร่ำหวอดในวงการสกีมามากกว่า 10 ปี และเคยทำงานเป็นผู้ฝึกสอนให้กับคนเล่นสกีที่ ฮาคุบะ ประเทศญี่ปุ่น ให้มุมมองในเรื่องนี้ว่า ญี่ปุ่นมีชื่อเสียงในเรื่อง รีสอร์ทสกี อย่างมากในระดับโลก แต่ปัญหาก็คือโครงสร้างพื้นฐานด้านนี้ค่อนข้างล้าหลัง เพราะสร้างมานานแล้ว ขณะที่ รีสอร์ทสกี ของจีนได้แซงหน้าไปแล้วในแง่ของคุณภาพสิ่งอำนวยความสะดวก แม้อุตสาหกรรมนี้ของจีนจะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังมีงานต้องทำอีกมาก โดยเฉพาะการให้ความรู้ในเรื่องของความปลอดภัยสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มเล่นกีฬาชนิดนี้

แม้คุณภาพของผู้ฝึกสอนในจีนจะไม่ด้อยไปกว่าชาติอื่น ๆ แต่คนจีนที่เล่นกีฬานี้จำนวนมาก มักจะไม่ใช้งานหรือเรียนรู้จากผู้ฝึกสอน และในหลาย ๆ กรณีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บก็มาจากช่วงเริ่มฝึกหัดเล่นนี้เอง

แปลและเรียบเรียง : เอกพล มงคลพัฒนกุล

ที่มา : SCMP