ค้าปลีกทั่วโลก โตสวน โควิด!! ฟื้นตัวเร็วกว่า วิกฤตการณ์เงิน 2008 ถึง 9 เท่า

แม้ว่าหลายฝ่ายจะมองว่าอุตสาหกรรมค้าปลีกจะต้องเจอผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโรคในครั้งนี้ แต่เชื่อหรือไม่ว่า มูลค่าของแบรนด์ค้าปลีกระดับโลก 75 แบรนด์เติบโตขึ้น 12% มูลค่าพุงแตะ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นที่เรียบร้อยแล้วในปีที่ผ่านมาจากรายงานของ Kantar บริษัทด้านวิจัยตลาดและแบรนด์

แม้ว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะกำลังอยู่ในสภาวะแย่สุดขีด แต่กับบริษัทที่อยู่ใน BrandZTM Top 75 Most Valuable Global Retail Brands Ranking 2020 กับพบว่าหลังสถานการณ์โควิดปีที่แล้ว ข้อมูลทั้งหมดยืนยันไปในทางเดียวกันว่า พวกเขาสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าหลังวิกฤตการณ์เงิน 2008 ถึง 9 เท่า โดยคุณ David Roth ซึ่งเป็น CEO ของ The Store WPP EMEA and Asia และเป็นประธานของ BrandZ เผยว่า “โคโรน่าไวรัสได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของบทบาทธุรกิจค้าปลีกในสองมิติไม่ว่าจะเป็นชีวิตประจำวันสภาพเศรษฐกิจโลกโดยทั่วไป พวกเรากำลังเห็นความกล้าหาญของอุตสาหกรรมค้าปลีกจำนวนมากเพื่อเข้าหาลูกค้าตามความจำเป็นเพื่อช่วยให้โลกยังสามารถหมุนต่อไปได้ ขณะที่เรื่องราวดำเนินไปอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง รายงานเหล่านี้ได้แสดงเหล่าธุรกิจที่มีการลงทุนจนตอนนี้กลายเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่ง สามารถยืนอยู่ได้ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยากลำบากสูงสุด และจากข้อมูลของ BrandZ ยืนยันว่าการมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งจะสามารถช่วยให้ธุรกิจพวกเขาสามารถผ่านวันเวลาที่ยากลำบากต่อไปได้”

การเดินหน้าตัดสินใจทำคือ สิ่งสำคัญ

แบรนด์ที่มีความกระฉับกระเฉงและมีนวัตกรรมจะสามารถทำในสิ่งที่แตกต่างเพื่อชีวิตคนจำนวนมากที่ต้องอาศัยอยู่ที่บ้านเป็นหลักและถูกบังคับให้เปลี่ยนนิสัยที่เป็นปกติของพวกเขา นอกจากนี้ข้อมูลยังเผยอีกว่าพวกเขามีความสามารถในการรักษาเส้นทางที่สำคัญเพื่อผ่านวิกฤตไปสู่จุดที่ดีที่จะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว บริษัทระดับท็อปทั้งหลายในปี 2020 คือตัวอย่างที่ดีของขนาดและความกว้างของกิจกรรมที่แบรนด์ทำซึ่งแตกต่างอย่างมีความหมายและสำคัญต่อผู้บริโภคในยุคของโคโรน่าไวรัส

Amazon เบอร์หนึ่งของโลกในด้านนี้ได้ทำการบริหารจัดการความต้องการและลดช่องว่าของความเร็วซึ่งเป็นกุญแจสำคัญต่อการจัดลำดับผลิตภัณฑ์ ขณะที่ Alibaba เบอร์สองของโลกได้ใช้ Ali Cloud ของพวกเขาซึ่งมี AI ที่เชี่ยวชาญอยู่ด้านหลังคอยสนับสนุนทีมแพทย์เพื่อช่วยลดระยะเวลาในการวินิฉัยโรคให้สั้นลง ด้าน Louis Vuitton บริษัทแม่ของ LVMH ใช้เวลาแค่ 72 ชั่วโมงในการเปลี่ยนสายการผลิตไปสู่การผลิตน้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อใช้ล้างมือ ด้าน JD ใช้เครือข่ายขนส่งที่กว้างขวางในการส่งมอบยาและอาหารที่จำเป็น

ความสามารถในการฟื้นตัวของแต่ละแบรนด์ (สำหรับกลุ่มที่เป็นดิจิตอลอยู่แล้ว)

Amazon—————32%
JD———————24%
Alibaba—————-16%

ความสามารถในการฟื้นตัวของแต่ละแบรนด์ (สำหรับกลุ่มที่เป็นร้านค้ามาก่อน)

Costco—————35%
Target—————-27%
Walmart————–24%
Sam’s Club———–19%

การรักษาความสัมพันธ์

ธุรกิจค้าปลีกที่ฉลาดจะต้องดำเนินการต่อต้านความยั่วยวนเพื่อประหยัดค่าการลงทุนโฆษณา เรียนรู้บทเรียนจากจีนที่ซึ่งแบรนด์จำนวนมากต้องเข้าสู่ช่วงเวลาที่มืดมนและต้องดิ้นรนต่อสู้กับในช่วงแรกของการฟื้นตัว ขณะที่ผู้บริโภคจะเลือกพวกเขาจากการที่พวกเขาพิสูจน์ว่าสนับสนุนสิ่งต่าง ๆ อย่างกระตือรือร้น และการตลาดก็ต้องมีการปรับขณะที่คนจำนวนมากต้องใช้ชีวิตอยู่ที่บ้าน นาย Graham Staplehurst ซึ่งเป็น Global Strategy Director for BrandZ ของ Kantar บอกว่า “แบรนด์ที่แข็งแกร่งไม่วัดกันแค่ที่ตัวเลขงบการเงินเท่านั้น แต่หมายถึงชื่อเสียงในสายตาของผู้บริโภคทั้งหลายด้วย ผู้ประกอบการค้าปลีกในตอนนี้ต้องอยู่บนเงื่อนไขในการช่วยหลือผู้คนจำนวนมากให้ผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ พร้อมไปกับการรักษาคนทำงาน และยอมทำตามรัฐบาลและคำแนะนำด้านสาธารณสุขซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้พวกเขาอยู่รอด การพิสูจน์ถึงความสัมพันธ์และประโยชน์ของพวกเขาต่อลูกค้าจะต้องดำเนินต่อไปจนกว่าชีวิตจะกลับมาอยู่ในระดับปกติ ซึ่งนั้นจะนำพวกเขาไปสู่สถานที่ที่พวกเขามีความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้า และนำไปสู่ระยะของการฟื้นตัวและภาพในระยะยาวของพวกเขาต่อไป”

แบรนด์ค้าปลีกที่แข็งแกร่งที่สุด 10 แบรนด์ในปี 2020

ลำดับ——————–มูลค่า (ล้าน USD)——–ประเภท
1.Amazon————–415,900——————–ค้าปลีก
2.Alibaba—————152,500——————–ค้าปลีก
3.McDonald’s———129,300——————– อาหารจานด่วน
4.The Home Depot—-57,600————————–ค้าปลีก
5.Louis Vuitton——–51,800————————–สินค้าฟุ่มเฟือย
6.Nike——————-50,000————————–เครื่องนุ่งห่ม
7.Starbucks————-47,800————————–อาหารจานด่วน
8.Walmart————–45,800————————–ค้าปลีก
9.Chanel—————-36,100————————–สินค้าฟุ่มเฟือย
10.Hermès—————33,000————————–สินค้าฟุ่มเฟือย

เขียนและเรียบเรียง : เอกพล มงคลพัฒนกุล

ข้อมูล : Kantar

ติดตาม Business+ ได้ที่ thebusinessplus.com
Line Business+ ได้ที่ https://lin.ee/pbIHC

#businessplus #Retail #ค้าปลีก #alibaba #amazon #ค้าปลีกฟื้นตัว