กสทช.ยังแก้ไม่ตกปัญหาซิม “ปั้มยอดไลค์” หลัง 3 ค่ายยังมึน

กสทช.เร่งแก้ปัญหาที่ปลายเหตุหลังเกิดกรณีบุกจับชาวจีนที่ใช้ซิมการ์ดปั้มยอดไลค์ หลังเรียกโอเปอเรเตอร์ 3 รายเข้าให้ข้อมูล แต่ยังสรุปไม่ได้ว่า เกือบ 3.5 แสนซิมนั้น เปิดใช้งานทั้งหมดหรือไม่ และเปิดใช้งานได้อย่างไร แต่ทั้ง 3 ค่ายยังยืนยันว่าการเปิดใช้งานต้องลงทะเบียน และอาจเกิดจากการที่ลูกตู้ที่เป็นผู้ขายซิมเป็นผู้เปิด แล้วนำซิมไปขายต่อ พร้อมจับมือกันไปตรวจสอบของกลางที่โรงพัก 17 มิ.ย.นี้

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จากกรณีที่ได้มีการบุกจับชาวจีนจำนวน 3 คน ที่จังหวัดสระแก้ว พร้อมไอโฟน 500 เครื่อง และซิมการ์ดโทรศัพท์เคลื่อนที่จำนวน 347,200 ซิม เพื่อรับจ้างเพื่อยอดไลค์และยอดแชร์บนโซเชียลมีเดียนั้น ในวันนี้ได้เชิญผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 3 ราย ได้แก่ เอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟเอช มาชี้แจงข้อเท็จจริง ว่าซิมการ์ดทั้งหมดได้มีการลงทะเบียนหรือไม่ และสามารถใช้งานได้โดยไม่ลงทะเบียนผู้ใช้งานหรือไม่

โดยทางผู้ประกอบการทั้ง 3 รายต่างตอบไปในแนวทางเดียวกันว่า ไม่แน่ชัดว่าซิมการ์ดที่ถูกเก็บเป็นของกลางในขณะนี้มีการเปิดใช้งานทั้งหมดหรือไม่ พร้อมทั้งยืนยันว่าการใช้งานทุกซิมการ์ดต้องผ่านการลงทะเบียน มิเช่นนั้นจะไม่สามารถเปิดใช้งานได้ แต่ยอมรับว่าการลงทะเบียนซิมการ์ดนั้นมีช่องโหว่ที่ 1 บุคคลสามารถลงทะเบียนเป็นเจ้าของกี่ซิมการ์ดก็ได้

ทั้งนี้ทาง กสทช. และผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จึงได้ทำการสรุปร่วมกันว่าในวันที่ 17 มิถุนายน จะร่วมกันลงพื้นที่ไปยังสถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อตรวจสอบของกลางที่ยึดได้ว่าเป็นซิมการ์ดที่มีการลงทะเบียนเท่าใด มีการปล่อยให้มีการใช้งานได้โดยไม่มีการลงทะเบียนหรือไม่ และผู้กระทำความผิดซื้อหามาจากที่ใด

รวมทั้ง กสทช. จะทำการตรวจสอบอุปกรณ์ในการใช้งานของผู้ที่กระทำความผิดตามภาพข่าวที่ปรากฏ ซึ่งมีลักษณะที่สามารถใช้งานซิมการ์ดต่างๆได้โดยที่ไม่ต้องนำออกจากกรอบ ในจำนวนมากพร้อมๆ กัน โดยหากจากการตรวจสอบพบว่าอุปกรณ์ดังกล่าวสามารถใช้งานซิมการ์ดโทรศัพท์ได้จริง ทาง กสทช. จะดำเนินการแจ้งความเพิ่มในความผิดข้อหาลักลอบนำอุปกรณ์ไทรคมนาคมมาใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.วิทยุโทรคมนาคม พ.ศ.2498 และ พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 ซึ่งจะมีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท

“ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่ามีผู้ประกอบการรายย่อย หรือ ลูกตู้ จำนวนมากที่ลงเบียนใช้งานเป็นชื่อตนเอง ก่อนนำเอาซิมการ์ดมาจำหน่าย รวมถึงยังมีการลงทะเบียนซิมการ์ดเพื่อให้นักท่องเที่ยวนำไปใช้งาน ซึ่งมักพบการดำเนินการในลักษณะดังกล่าวได้มากตามจุดการค้าชายแดนจังหวัดต่างๆ ทั้งนี้ กสทช. จึงอยากขอเตือนผู้ที่กระทำการลงเบียนใช้งานแทนบุคคลอื่นว่า หากผู้ที่นำซิมการ์ดไปกระทำความผิด ผู้ลงทะเบียนซิมการ์ดนั้นๆจะมีความผิดหรือโดนตรวจสอบเป็นคนแรกๆด้วยเช่นกัน”