Haier จาก China Brand สู่ Global Brand

Haier รักษาตำแหน่งผู้นำ Global Brand โชว์กลยุทธสุดล้ำ ดึงผู้บริโภคมีส่วนร่วมกระบวนการผลิตตั้งแต่ขั้นแรก

Haier  แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ก้าวจาก China Brand สู่ Global Brand อย่างเต็มตัวในระยะเวลา 32 ปี รั้งตำแหน่งผู้นำในธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนไว้ได้อย่างต่อเนื่อง

พร้อมปรับโมเดลทางธุรกิจให้เข้ากับยุคอินเตอร์เนต เชื่อมโยงให้ผู้บริโภคกลายเป็นนักออกแบบและมีส่วนร่วมในการวิจัย พัฒนา และกระบวนการผลิต

 

ไฮเออร์ Haier

 

ตู้ จิ้งกั๋ว ประธานเจ้าหน้าที่บริการกลุ่มบริษัท Haier เอเชีย กล่าวว่า Haier เป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านรายใหญ่ที่สุดในประเทศจีนก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1984 โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองชิงเต่า สาธารณรัฐประชาชนจีน ปัจจุบันบริษัทฯ กำลังจะครบรอบ 32 ปี ได้พัฒนาตัวเองจนกลายเป็นแบรนด์ที่มีผู้บริโภคกว่า 100 ประเทศทั่วโลก และมีรายได้ 30.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีผลกำไร 2.89 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี พ.ศ.2558

“ด้วยกลยุทธ์ทางด้านธุรกิจ Haier จึงเร่งพัฒนาขีดศักยภาพการแข่งขันไปทั่วโลก เช่นเดียวกับการขยายเครือข่ายจัดซื้อ การผลิต การจำหน่ายและการบริการลูกค้า ซึ่งปัจจุบันHaier มีศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์(R&D) 5 แห่ง, บริษัทขาย (Trading Companies) 66 บริษัท และนิคมอุตสาหกรรม (Industrial Parks) 21 แห่งทั่วโลก โดยมีฐานการผลิตครอบคลุมทุกทวีปทั่วโลก ในหลายประเทศ ได้แก่ จีน สหรัฐฯ อิตาลี รัสเซีย ปากีสถาน อินโดนีเซีย เวียดนาม ญี่ปุ่น อินเดีย และไทย และในปี 2012 บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป ได้จัดอันดับ Haier เป็น 1 ใน 10 บริษัทที่มีนวัตกรรมล้ำสมัยมากที่สุดในโลก และเป็นบริษัทที่มีการพัฒนาที่ดีที่สุดในประเภทธุรกิจค้าปลีกและสินค้าสำหรับผู้บริโภค”
ไฮเออร์ Haier

“จากการสำรวจโดยยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นองค์กรอิสระชั้นนำของโลกที่สำรวจข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรม ประเทศ บริษัท และผู้บริโภค ระบุว่า Haier เป็นแบรนด์ที่มีโมเดลทางธุรกิจ ที่เข้ากับยุคอินเตอร์เนตและความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งยังได้รับการจัดอันดับเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนอันดับ 1 เป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน โดย Haier มีส่วนแบ่งการตลาดถึงร้อยละ 9.8 ของปริมาณการค้าปลีกทั่วโลกในปี 2558” ตู้ จิ้งกั๋ว กล่าว

ตู้ จิ้งกั๋ว เปิดเผยว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนของโลกมีความเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก ผู้บริโภคใช้อินเตอร์เนตกันมากขึ้นในการเลือกสรรผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการเฉพาะตัว โดยระบบการผลิตในอุตสาหกรรมที่เป็นระบบปิดและล้าสมัยไม่สามารถที่จะสนองความต้องการที่เกิดขึ้นได้อีกต่อไป ซึ่งบริษัทต่างๆ จึงจำเป็นต้องรับฟังและตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคเพื่อที่จะสร้างความโดดเด่นในตลาดสินค้า

 

ไฮเออร์ Haier
ตู้ จิ้งกั๋ว ประธานเจ้าหน้าที่บริการกลุ่มบริษัท Haier เอเชีย

แม้ว่าตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนทั่วโลกจะมีการเติบโตไม่มากนัก แต่ Haier ก็สามารถรักษาตำแหน่งผู้นำในธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนไว้ได้ ด้วยการปรับโมเดลทางธุรกิจเพื่อตอบรับยุคอินเทอร์เนตและความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน อาทิ Interconnection Factory ซึ่งเป็นต้นแบบของระบบการผลิตที่พัฒนาขึ้นโดยไฮเออร์ รวมถึงระบบวิเคราะห์ธุรกิจอัฉริยะ (Business Intelligence)

 

เพื่อสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้ใน Industry 4.0 Haier ได้เปิดโรงงานประเภทนี้ไปแล้วจำนวนหนึ่ง ได้แก่ โรงงานผลิตตู้เย็นในเสิ่นหยาง โรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศในเจิ้งโจว และโรงงานผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในฝอซาน ซึ่งเชื่อมโยงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder) ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน หุ้นส่วน ลูกค้า ผู้บริโภคหรือกระทั่งซัพพลายเออร์เข้าไว้ด้วยกัน ภายใต้โมเดลธุรกิจนี้ ผู้บริโภคของ Haier จึงกลายเป็นนักออกแบบและสามารถมีส่วนร่วมในการวิจัยและพัฒนา รวมไปถึงกระบวนการผลิตสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่

ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของไฮเออร์ที่จะทำให้โลกเป็นเสมือนฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมทั้งฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ของบริษัท