กสิกรไทย ทุ่ม 8 พันล้านบาทเปิดตัว “เควิชั่น”ลุยตลาด AEC+3

รุกเข้าสู่แพลตฟร์อมดิจิทัลเป็นรายแรกๆของไทย พร้อมยอดผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องขึ้นทุกปี ซึ่งตัวเลขล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้ว(กรกฎาคม) ยอดผู้ใช้งาน K PLUS อยู่ที่ราวๆ8.4-8.5 ล้านราย โดยธนาคารตั้งเป้าเพิ่มเป็น 10.8 ล้านราย ภายในสิ้นปี 2561 นี้


และดูเหมือนเป้าหมายของ กสิกรไทย จะไม่ได้หยุดอยู่แค่ในประเทศไทยอีกต่อไป เพราะกะแสข่าวล่าสุดจากปากผู้บริหาร ก็พอจะทำให้ภาพของกสิกรไทยต่อจากนี้ชัดเจนแล้วว่า จะมุ่งสู่การเป็นธนาคารแห่งภูมิภาคเต็มรูปแบบ แน่นอน

ดูเหมือนจะเป็นโจทย์ที่ยากเอาเรื่อง แต่สำหรับ กสิกรไทย เมื่อกล้าออกมาประกาศเช่นนี้ ย่อมหมายความว่าทุกอย่างได้วางแผนไว้หมดแล้ว เริ่มจากการพลิกบทบาทตัวเองมาสู่บริบทใหม่ ไลฟ์ แพลตฟอร์ม “คนรู้ใจ” ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการในชีวิตประจำวันของเหล่าดิจิทัล คอนซูเมอร์ ซึ่งสามารถเข้าถึงบริการใหม่ ๆ ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่กรอบการให้บริการการเงินแบบเดิมอย่างที่ธนาคารเคยทำมา ไม่ว่าจะเป็นการช้อปปิ้ง การเดินทาง ความบันเทิง และอื่น ๆ อีกมากมาย ผ่านเทคโนโลยี APIs (Application Programming Interface) ที่ให้พันธมิตรทางธุรกิจ นำสินค้าและบริการต่าง ๆ มาเชื่อมต่อกับบริการของธนาคารได้อย่างไร้รอยต่อ

เท่านั้นยังไม่พอ กสิกรไทยยังได้เตรียมขยายธุรกิจในภูมิภาคในรูปแบบดิจิตอลเทคโนโลยีโดยควักกระเป๋าก้อนใหญ่ 8 พันล้านบาท(245 ล้านเหรียญสหรัฐ) จัดตั้ง บริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด (KASIKORN VISION COMPANY LIMITED)หรือ เควิชั่น (KVision)ร่วมลงทุนและแสวงหาดิจิทัล เทคโนโลยีชั้นนำจากทั่วโลก เพื่อนำมาต่อยอดธุรกิจธนาคารในตลาด AEC+3 เป็น Regional Life Platform of Choice ผ่านช่องทางดิจิตอลและโมบาย โซลูชั่น

 

ซึ่งหัวใจสำคัญ คือ การพัฒนาศักยภาพด้านดิจิทัล เทคโนโลยี ให้ก้าวขึ้นสู่ระดับภูมิภาค โดย KVision จะมีฐานะเป็น Investment Holding Company ภายใต้เครือธนาคารกสิกรไทยเพื่อที่จะเข้าไปเสาะหาและร่วมพัฒนาความเป็นไปได้ทางเทคโนโลยีใหม่ ๆ กับ เทค คอมมูนิตี้ หรือ บุคลากรผู้เชียวชาญด้านเทคโนโลยี จากทั่วทุกมุมโลก

 

ทั้งนี้ ภัทรพงศ์ กันหสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า การดำเนินการในระยะแรกของ เควิชั่น จะมุ่งเป้าไปที่การสร้างฐานรากก่อน โดยการตั้ง บิสซิเนส อินโนเวชั่น สเก๊าท์ติ้ง เพื่อเข้าไปค้นหาพันธมิตรในกลุ่มประเทศทีมีความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาและนำใช้กับผู้บริโภคในประเทศนั้น ๆ ก่อน 4 ประเทศ คือ สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ปัจจุบันมีจำนวน Fin-Tech Unicorns หรือบริษัทที่มีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านดอลล่าห์สหรัฐ แซงหน้าสหรัฐอเมริกาไปแล้ว เวียดนาม และอินโดนีเซีย ประเทศที่มีการเติบโตของเทค สตาร์ทอัพเป็นอันดับต้น ๆ ใน AEC+3 สุดท้ายคือ อิสราเอล ที่เป็นจุดกำเนิดเทคโนโลยีใหม่และเป็นแหล่งรวมของ บุคลากรผู้เชียวชาญด้านเทคโนโลยี

ภัทรพงศ์ กันหสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย

หลังจากที่บิสซิเนส อินโนเวชั่น สเก๊าท์ติ้ง เข้าไปเรียนรู้และค้นหาพันธมิตรที่มีศักยภาพได้แล้ว บริษัท เควิชั่น ก็จะศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าไปลงทุน ทั้งในรูปแบบการเข้าไปถือหุ้นโดยตรง หรือการลุงทุนผ่านกองทุน Beacon Venture Capital Fund ที่มีการเพิ่มเม็ดเงินลงทุน เพื่อเตรียมให้ความสนับสนุนด้านเงินทุนในการทำธุรกิจแก่เทค สตาร์ทอัพที่มีศักยภาพและมีเทคโนโลยีที่อยู่ในช่วงกำลังพัฒนา แต่มีความน่าสนใจและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ทางธุรกิจของธนาคาร และนำเอาเทคโนโลยีดังกล่าวมาปรับใช้และยกระดับบริการของธนาคารทั้งในไทยและใน AEC+3

 

การก่อตั้ง เควิชั่น จะทำให้กสิกรไทยได้เปรียบในเรื่องความคล่องตัวในการนำดิจิตอล โซลูชั่นส์ต่าง ๆ มาให้บริการแก่ลูกค้า สามารถย่นระยะเวลาในการพัฒนาบริการอย่างก้าวกระโดด นำเสนอประสบการณ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายและรวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ก็จะเป็นการยกระดับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรของธนาคารจากการเรียนรู้และปฏิบัติจริงที่ได้จากร่วมงานกับผู้เชี่ยวชาญในการสร้างนวัตกรรมในระดับนานาชาติที่จะเข้ามาร่วมงานกับเครือธนาคารกสิกรไทย

ภัทรพงศ์ กล่าวตอนท้ายว่า กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกรวมทั้งธุรกิจธนาคารที่ไม่ได้แข่งกับธนาคารกันเองอีกต่อไป ธนาคารจึงจำเป็นต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลาเพื่อยกระดับบริการและประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ เพื่อก้าวสู่การเป็น ไลฟ์ แพลตฟอร์ม อันดับหนึ่งของภูมิภาค ในอนาคตอย่างแท้จริง

 

ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของธนาคารพาณิชย์ไทยที่มีเป้าหมายชัดเจนในก้าวออกสู่เวทีการแข่งขันด้านดิจิตอลในระดับโลก เพื่อมุ่งพัฒนาศักยภาพและแสวงหาเทคโนโลยีชั้นนำมารองรับการขยายบริการธนาคารยุคใหม่ การก่อตั้ง เควิชั่น จะช่วยให้ธนาคารสามารถพัฒนาและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ กับพันธมิตร และก้าวไปยืนอยู่ในระดับแถวหน้าของดิจิทัล เทคโนโลยีที่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในทุกแพลตฟอร์มในระดับภูมิภาคได้

สุดท้ายนี้ กสิกรไทยจะสามารถก้าวขึ้นมาธนาคารพาณิชย์ไทยแห่งแรกบนเวทีการแข่งขันด้านดิจิตอลในระดับโลกได้หรือไม่ เกมส์นี้คงต้องดูกันยาวๆและให้โอกาส กสิกรไทยได้พิสูจน์ตัวอีกสักพัก