VIETNAM ประเทศที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเติบโตมากที่สุดในโลก

เชื้อไวรัส COVID-19 ได้ทำให้การท่องเที่ยวของเวียดนามเจอผลกระทบอย่างหนัก จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่กำลังเป็นขาขึ้นกลับต้องเผชิญกับศึกหนักไปนับ 20 เดือน แต่ในวันนี้เมื่อโลกเริ่มให้ความสำคัญกับ COVID-19 เป็นเพียงแค่โรคประจำถิ่น ทำให้เวียดนามเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง ในวันนี้ ‘เวียดนาม’ จึงเป็นประเทศที่น่าจับตามองในแง่ของการฟื้นตัวในตลาดท่องเที่ยวที่กำลังจะกลับมายืนหยัดอย่างแข็งแกร่ง

เวียดนามในช่วงก่อนเกิดการระบาดของ COVID-19 ถือเป็นประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางอันดับที่ 6 ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และเป็นประเทศที่มีการเติบโตของการท่องเที่ยวสูงที่สุดในโลก โดยในช่วงก่อนการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 พบว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในเวียดนามคิดเป็น 7.5% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของประเทศ โดยในปี 2561 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนเวียดนามประมาณ 15.49 ล้านคน

หากแบ่งสัดส่วนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวเวียดนามจะพบว่าส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวมาจากทวีปเอเชียจำนวน 12 ล้านคน คิดเป็น 23.7% และมาจากประเทศในทวีปยุโรปจำนวน 2 ล้านคน

โดยสามารถแยกนักท่องเที่ยวเอเชียเป็นรายประเทศในปี 2561 ได้ดังนี้ (ข้อมูลจาก ‘สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงฮานอย’) (ทำเป็นแผนภูมิวงกลม)
– นักท่องเที่ยวจากประเทศจีน 4.9 ล้านคน
– นักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้ 3.5 ล้านคน
– นักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่น 0.83 ล้านคน
– นักท่องเที่ยวจากไต้หวัน 0.71 ล้านคน

ขณะที่ในปี 2562 จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติของเวียดนามทำสถิติสูงถึง 18 ล้านคน ซึ่งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทำรายได้ให้กับเวียดนามได้ถึง 30,800 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1,016,400 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์การระบาดของ COVID-19 ในเวียดนามเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2563 ได้ทำให้สำนักงานการบินพลเรือนเวียดนามสั่งระงับทุกเที่ยวบินเข้าออกจากพื้นที่ที่เกิดการระบาดในประเทศจีน และระงับการออกวีซ่าให้กับผู้ที่เดินทางมาจากสถานที่เหล่านั้น แน่นอนว่า ผลกระทบครั้งนี้ถือว่าหนักหน่วงมาก เนื่องจากจีนเป็นตลาดการท่องเที่ยวรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม

หลังจากนั้นสถานการณ์ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม เมื่อชาวเวียดนามจำนวนมากที่เดินทางกลับจากต่างประเทศติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น จึงทำให้เจ้าหน้าที่ต้องบังคับใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม และระงับเที่ยวบินระหว่างประเทศทั้งหมด รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมทุกแห่งและสถานบันเทิงต่าง ๆ ในประเทศ รวมถึงบาร์และร้านคาราโอเกะต้องปิดให้บริการ นั่นทำให้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเวียดนามที่เคยมีมูลค่าสูงถึง 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1 ล้านล้านบาท) ต้องประสบปัญหาอย่างหนักหน่วง

แต่ฝันร้ายครั้งนี้ก็ดูเหมือนจะจบลงด้วยดี เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา ‘กระทรวงการท่องเที่ยวของเวียดนาม’ ได้เปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางเกือบทั้งหมด โดยปัจจุบันหากมองเพียงแค่การเดินทางของนักท่องเที่ยวไทยไปยังเวียดนามในขณะนี้ต้องบอกว่าหลายสายการบินกลับมาให้บริการอีกครั้ง
โดยเส้นทางการบิน เส้นทางระหว่างไทย-เวียดนาม มีทั้งหมด 5 สายการบิน รวมทุกสายการบินปัจจุบันให้บริการทั้งหมด 52 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ คือ

– เวียดนามแอร์ไลน์ส เส้นทางโฮจิมินห์-กรุงเทพฯ และฮานอย-กรุงเทพฯ
– สายการบินแบมบู แอร์เวย์ส เส้นทางโฮจิมินห์-กรุงเทพฯ
– สายการบินไทยสมายล์ เส้นทางกรุงเทพฯ-โฮจิมินห์ และกรุงเทพฯ-ฮานอย
– สายการบินไทยแอร์เอเชีย เส้นทางกรุงเทพฯ-โฮจิมินห์, กรุงเทพฯ-ฮานอย และกรุงเทพฯ-ดานัง
– สายการบินเวียตเจ็ทแอร์ เส้นทางโฮจิมินห์-กรุงเทพฯ, ดานัง-กรุงเทพฯ และฮานอย-กรุงเทพฯ
(ที่มา : ททท.สำนักงานโฮจิมินห์)

‘นครโฮจิมินห์’ ศูนย์กลางเศรษฐกิจการค้าของเวียดนามเปิดเมืองแบบ 100%
เมื่อเราได้ลงพื้นที่สำรวจประเทศเวียดนามในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ในส่วนของโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City) ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของเวียดนามด้วยชื่อเดิมคือ ไซ่ง่อน (Saigon) พบว่า คนเวียดนามได้ออกมาทำกิจกรรมกันแบบเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสถานบันเทิง หรือร้านอาหารต่างเปิดให้บริการกันแบบ 100% ขณะที่เริ่มมีนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เห็นกันมากขึ้นในย่านสถานบันเทิง ซึ่งประกอบด้วยร้านอาหารและห้างสรรพสินค้า

การที่โฮจิมินห์เริ่มคึกคักจะทำให้ภาคธุรกิจของเวียดนามฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว เพราะโฮจิมินห์ถือว่าเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจการค้าของเวียดนาม เพราะเคยปกครองโดยระบบเสรีนิยมจึงเป็นเมืองที่เปิดกว้างด้านการค้าและการลงทุน และเป็นศูนย์กลางธุรกิจการค้า การเงินการธนาคาร ศูนย์กลางด้านการศึกษาและสุขภาพพยาบาล อสังหาริมทรัพย์ รวมถึงด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว

ซึ่งเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2565 ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เป็นหนึ่งในธนาคารที่ได้เข้าไปเปิดสำนักงานผู้แทนในนครโฮจิมินห์ โดยที่จะเข้าไปมีบทบาทสนับสนุนให้เกิดธุรกิจการค้าและการลงทุนของไทยในเวียดนามมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีโครงการลงทุนในเวียดนามภายใต้การสนับสนุนของ EXIM BANK ในหลากหลายธุรกิจ อาทิ โรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด ปิโตรเคมี ห้างค้าส่งและค้าปลีก

ทรัพยากรธรรมชาติ ‘เวียดนาม’ ถูกฟื้นฟู
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่เน้นธรรมชาติอย่าง ‘ดานัง’ เมืองท่าสำคัญของเวียดนามกลาง เริ่มกลับมาคึกคักเช่นกัน โดยที่ความน่าสนใจคือ ทรัพยากรอย่างหาดทรายและทะเลเหมือนกับได้ถูกฟื้นฟูขึ้นมาหลังจากช่วง COVID-19 ทำให้ใครที่กำลังจะไปเที่ยวเวียดนามในช่วงนี้จะได้เจอกับหาดทรายขาว และทะเลที่สวยงามมากยิ่งขึ้น
โดยดานังถือว่าเป็นเมืองที่มีความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวมากที่สุดของเวียดนามกลาง เพราะมีทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ หาดทรายขาว วิวที่สวยงามของภูเขาหินอ่อน รวมถึงร้านอาหารทะเลสด และรสชาติดี

นอกจากนี้ยังมีเมืองมรดกโลกอย่าง ‘ฮอยอัน’ หรือ โห่ยอาน จังหวัดกว๋างนาม (Quang Nam) ที่ไม่ว่าจะไปกี่ครั้งก็ยังคงเป็นเมืองที่มีความสวยงาม ด้วยตึกสีเหลืองสวยสไตล์โคโลเนียล ซึ่งถูกอนุรักษ์ให้คงความเป็นเอกลักษณ์จนได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก ‘UNESCO’ เมื่อปี 2542 จากการเป็นเมืองท่าค้าขายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15-19 ที่ได้มีการผสมผสานศิลปะและสถาปัตยกรรมทั้งของท้องถิ่นและของต่างชาติไว้ได้อย่างมีเอกลักษณ์ จึงทำให้ดานังสามารถดึงดูดใจนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกไว้ได้

จะเห็นได้ว่าเวียดนามตอนนี้มีความพร้อมที่จะให้บริการด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกับผู้คนทั่วโลก โดยข้อมูลล่าสุด จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานโฮจิมินห์ ระบุว่า ปัจจุบันบรรยากาศการเดินทางในประเทศเวียดนามเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยเดือนมกราคม-มีนาคม 2565 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าเวียดนามราว 90,000-100,000 คน เป็นนักท่องเที่ยวจากทวีปเอเชีย 58,945 คน, ยุโรป 16,635 คน, อเมริกา 12,294 คน (ในปี 2562 มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเข้าเวียดนามราว 5 แสนคน)

อย่างไรก็ตาม การเปิดประเทศของเวียดนามในครั้งนี้ ถือว่าตั้งอยู่บนความเสี่ยงที่ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศ ยังคงพุ่งสูงวันละประมาณ 800 คนต่อวัน สูงเป็นอันดับที่ 12 ของโลก ดังนั้น จึงถือเป็นอีกบททดสอบที่ท้าทายอย่างมากของรัฐบาลเวียดนาม โดยเฉพาะเมื่อต้องคำนึงถึงประเด็นเศรษฐกิจ และปัญหาโรคระบาดไปพร้อม ๆ กัน

เขียนและเรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.thailand/?hl=en
.
#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #เวียดนาม #VIETNAM #อุตสาหกรรมท่องเที่ยว