ยูโอบี ประเทศไทย ร่วมใจพนักงาน ลูกค้า พันธมิตรธุรกิจ ระดมเงินบริจาค 5.1 ล้านบาท
เพื่อขับเคลื่อนการศึกษาของเด็กไทย ใน 2024 UOB Heartbeat Run
ยูโอบี ประเทศไทย ร่วมระดมเงินบริจาคในกิจกรรมประจำปี 2024 UOB Heartbeat Run จำนวน 5.1 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการศึกษาของเด็กไทย โดยมีผู้บริหาร พนักงานธนาคาร พร้อมครอบครัวทั่วประเทศ รวมถึงลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจกว่า 2,300 คน เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมอาสาเพื่อสังคมที่กลุ่มธนาคารยูโอบีจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีใน 18 ประเทศทั่วโลก
เงินระดมทุนได้ในประเทศไทยจะนำไปสนับสนุนโครงการ UOB My Digital Space (MDS) ที่จะมอบการศึกษาที่มีคุณภาพผ่านเครื่องมือการเรียนรู้และทักษะดิจิทัลวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลของประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องกับโครงการเพื่อสังคมของธนาคารยูโอบีที่มุ่งเน้นสนับสนุนด้านศิลปะ เยาวชนและการศึกษา
นายริชาร์ด มาโลนี่ย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “โครงการ UOB My Digital Space นับเป็นการลงทุนที่สำคัญต่ออนาคตของประเทศไทย ด้วยการมอบโอกาสให้เด็กนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงเทคโนโลยีและการศึกษา เราไม่ได้เพียงลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล ยังนับเป็นการบ่มเพาะผู้นำรุ่นใหม่ของประเทศไทยอีกด้วย โครงการนี้เป็นมากกว่าเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม แต่เป็นการส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยองค์ความรู้ระดับโลก เราเชื่อว่าการให้ความสำคัญกับการศึกษา จะช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนและเป็นประโยชน์ต่อประเทศในระยะยาว”
สำหรับเงินระดมทุนที่ได้ในปีที่แล้ว สามารถนำไปสนับสนุนนักเรียนกว่า 4,000 คนใน 6 โรงเรียนทั่วประเทศ นับว่าช่วยเพิ่มการเข้าถึงการศึกษาในวิชาหลักได้อย่างมีนัยสำคัญ
หนึ่งในไฮไลท์ของกิจกรรม 2024 UOB Heartbeat Run ยังเป็นงานวิ่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็น
- เสื้อวิ่งรักษ์โลกจากผ้าเหลือใช้จากอุตสาหกรรมแฟชั่น
- เหรียญรางวัลที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล และยังสามารถนำไปใช้ต่อเป็นที่รองแก้ว
- ถ้วยรางวัลนักวิ่งที่ผลิตจากกล่องนมรีไซเคิล และยังสามารถนำไปใช้เป็นที่วางโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต
- ขวดน้ำดื่มยูโอบีที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล 100%
- ถังขยะรีไซเคิลสำหรับรวบรวมขวดพลาสติก พร้อมจุดคัดแยกขยะ 2 แห่งสำหรับเก็บขยะทุกรูปแบบเพื่อนำไปรีไซเคิล
- บริจาคอาหารส่วนเกินให้แก่ชุมชนใกล้เคียง
โดยการดำเนินการต่างๆ เหล่านี้ คาดว่าจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 5,155.98 กิโลกรัมเทียบเท่า ซึ่งเทียบเท่ากับการขับรถที่ใช้น้ำมันเบนซินเป็นระยะทางโดยเฉลี่ย 21,217.34 กิโลเมตร
ติดตามผ่าน TikTok ได้ที่ : https://www.tiktok.com/@thebusinessplus
Line Business+ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
#TheBusinessPlus #Businessplus #BusinessPlus #นิตยสารBusinessplus