เมื่อไลฟ์สไตล์ขาชอปเปลี่ยน!! “UNIQLO-CPS CHAPS” ก็ต้องปรับทัพ บุกอีคอมเมิร์ซเต็มสปีด

หลังเบิกบานใจกับธุรกิจแฟชั่นมายาวนาน แต่นับจากนี้ไปน่าจะหมดเวลาปาร์ตี้กันแล้ว หลังพฤติกรรมผู้บริโภคคนรุ่นใหม่หันมาจับจ่ายซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ “UNIQLO” และ “CPS CHAPS” ในเครือยัสปาล ไม่ใช่ผู้จำหน่ายเสื้อผ้าแฟชั่นหลักที่พบกับชะตากรรมแบบนี้ หลากหลายแบรนด์ดังต่างก็ประสบปัญหาแนวนี้เช่นกัน

 

หากเรากลับมาส่องดูตัวเลขการเติบของตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยจะพบว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในปี 2558 ที่ผ่านมามีการเติบโตราว 3.65% คิดเป็นเม็ดเงินสูงถึง 2.1 ล้านล้านบาท ซึ่งต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งนั้นเป็นผลมาจากพฤติกรรมผู้บริโภคโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนไป โดยหันมานิยมสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น และเมื่อผนวกกับการแข่งขันของตลาดฟาสต์แฟชั่นที่ันับวันจะรุนแรงและดุเดือดยิ่งขึ้น จากการดาหน้าเข้ามาของผู้เล่นรายใหม่ในตลาด
นั่นก็ยิ่งทำให้ “UNIQLO” และ “CPS CHAPS” ไม่อาจนิ่งเฉยได้อีกต่อไปแล้ว

 

 

แม้เบื้องต้น “ชาญวิทย์ เขียวนาวาวงศ์ษา” ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) จำกัด จะออกปากยอมรับว่า “ปัจจุบันตลาดออนไลน์ในเมืองไทยยังใหม่มาก”

 

แต่หากดูจากผลสำรวจพฤติกรรมการชอปปิงของผู้บริโภค ซึ่งพบว่าสินค้าเพื่อความงามและแฟชั่นเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อผ่านทางออนไลน์สูงสุดถึง 42.6% กอปรกับก่อนหน้านี้ UNIQLO ได้ทดลองนำร่องทำตลาดออนไลน์มาระยะหนึ่ง ผ่านเว็บไซต์ www.uniqlo.com/th พร้อมทั้งทำกิจกรรมการตลาดผ่านสื่อโซเชียลมีเดียทั้งเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม ซึ่งปรากฏว่าปัจจุบันมีผู้บริโภคเข้ามาติดตามข้อมูลข่าวสารในเว็บไซต์เฉลี่ย 1 ล้านคนต่อเดือน

 

นั่นจึงทำให้ UNIQLO ค่อนข้างมั่นอกมั่นใจกับการรุกตลาดออนไลน์ในครั้งนี้ และพร้อมปักธงรบในตลาดอย่างเต็มตัว ด้วยการประกาศเปิดตัว UNIQLO ONLINE STORE เต็มรูปแบบ

 

สำหรับคอนเซ็ปต์ UNIQLO ONLINE STORE นั้นจะเป็นรูปแบบเดียวกับ UNIQLO Shop ที่สร้างขึ้นภายใต้แนวคิด MADE FOR ALL โดยเน้นถึงความครบครันของสินค้าและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทุกคน แต่สิ่งที่แตกต่างที่จะเพิ่มเติมเข้ามาเพื่อเป็นแม็กเน็ตสำคัญในการดึงดูดเหล่านักชอปรุ่นใหม่ให้เข้ามาเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางนี้

 

ชาญวิทย์ กล่าวว่า อยูู่ที่การนำสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟที่ได้รับความนิยมมาจำหน่ายเฉพาะช่องทางออนไลน์เท่านั้น อาทิ คอลเล็กชัน KAQS, เสื้อกันหนาวยูนิโคล่ อัลตร้า ไลท์ ดาวน์ และฮีทเทค ซึ่งสินค้าคอลเล็กชันพิเศษนี้จะมีเข้ามาเติมต่อเนื่องทุกเดือน นอกจากนี้ สีและไซส์เสื้อผ้าจะครบครันกว่าช่องทางปกติด้วย ทั้งยังสามารถชำระเงินปลายทางกับเจ้าหน้าที่เมื่อได้รับสินค้าแล้ว

 

เมื่อถามถึงเป้าหมายกับช่องทางใหม่นี้ ชาญวิทย์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ เพราะหากดูจากสัดส่วนยอดขายช่องทางออนไลน์ของ UNIQLO ประเทศญี่ปุ่นที่ได้นำร่องทำตลาดออนไลน์ไปก่อนหน้านี้ ปัจจุบันก็ยังอยู่ที่ 5% จากยอดขายทั้งหมดเท่านั้น แต่ลึก ๆ ในใจเขาก็คาดหวังที่จะเห็นตัวเลขนี้ในปีแรกของการรุกตลาดเช่นกัน

 

แต่ที่แน่นอนเลยก็คือ การรุกตลาดช่องทางอีคอมเมิร์ซนั้น จะทำให้ UNIQLO สามารถขยายฐานเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ในวงกว้างยิ่งขึ้น เพราะปัจจุบัน UNIQLO มีสาขาในเมืองไทยเพียง 32 สาขา ใน 9 จังหวัด ขณะเดียวกันยังทำให้รับรู้ถึงความต้องการลูกค้าแบบเชิงลึก ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่สามารถจะต่อยอดการทำตลาดที่ตรงใจลูกค้าในอนาคตยิ่งขึ้นนั่นเอง

 

เช่นเดียวกับ CPS CHAPS อีกหนึ่งแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำที่ออกมาประกาศรุกตลาดออนไลน์อย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่อ SHOP.CPSCLOTHING.COM เพื่อที่จะสร้างการเข้าถึงให้กับลูกค้าต่างจังหวัดหรือลูกค้าต่างประเทศให้สามารถสั่งซื้อสินค้าได้โดยตรง

 

 

สำหรับความพิเศษและแตกต่างของ SHOP.CPSCLOTHING.COM นั้น อภิสิทธิ์ สิงห์สัจจเทศ ผู้อำนวยการแบรนด์ CPS CHAPS บริษัท ยัสปาล จำกัด บอกว่า เบื้องต้นจะเน้นการเชื่อมระบบออนไลน์เข้ากับหน้าร้าน ทำให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อผ่านออนไลน์แล้วมารับของที่ร้าน หรือเข้ามาซื้อของที่ร้านแล้วใช้บริการเดลิเวอรี่ในการจัดส่ง รวมทั้งบริการเปลี่ยนสินค้าจากการซื้อออนไลน์ได้ที่หน้าร้านด้วย

 

นอกจากนี้ ยังเดินหน้านำนวัตกรรมการลองเสื้อผ้าผ่านระบบดิจิทัล Interactive Trial Mirror ที่สามารถเลือกชุดที่ต้องการลองจากหน้าจอทัชสกรีน แล้วระบบจะแสดงภาพผู้ใช้ที่สวมชุดนี้บนหน้าจอทันที รวมถึงมีเทคโนลยี Virtual Reality ที่ใช้ร่วมกับแว่นตา VR 3 มิติ ซึ่งได้จำลองภาพ 360 องศาเหมือนได้เดินบนรันเวย์แฟชั่นโชว์ที่มหานครนิวยอร์ก มาสร้างเซอร์ไพรซ์ในวันเปิดตัวชอปออนไลน์ โดยในอนาคตมีแผนจะนำนวัตกรรมนี้เข้าไปอยู่ตามชอปของ CPS CHAPS เช่นกัน เพื่อที่จะสร้างความมั่นใจในการเลือกซื้อเสื้อผ้าผ่านทางออนไลน์มากขึ้น

 

นอกจากบริการส่งถึงบ้านหรือที่ทำงานแล้ว ยังสามารถจัดส่งไปยัง SKYBOX ในสถานีบีทีเอสได้ถึง 7 สถานี ได้แก่ ช่องนนทรี สนามกีฬาแห่งชาติ ทองหล่อ หมอชิต อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อารีย์ และอโศก (สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ในประเทศไทย) สิงคโปร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย และไต้หวัน

 

ปัจจุบัน CPS CHAPS มีสาขามากกว่า 40 สาขาในประเทศไทย ทั้งนี้ ได้ตั้งเป้าหมายรายได้จากช่องทางออนไลน์ไว้ที่ 10-20 ล้านบาท ตั้งเป้าการเติบโต 40% สำหรับตลาดต่างประเทศยังคงให้น้ำหนักกับประเทศสิงคโปร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย ไต้หวัน แคนาดา อเมริกา และมาเลเซีย และในไตรมาส 4 นี้ CPS CHAPS มีแพลนเปิดสาขาใหม่ที่นครราชสีมา