สถาบัน IMD (Institute of Management Development) ร่วมกับมูลนิธิ Hintech ได้เปิดเผยรายงานการจัดอันดับดัชนีการค้าที่ยั่งยืน (Sustainable Trade Index) ในช่วงเดือนพย.พฤศจิกายน 2565
โดยพบข้อมูลว่านิวซีแลนด์เป็นอันดับ 1 ตามมาด้วยอังกฤษ ฮ่องกง ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ซึ่งการจัดอันดับครั้งนี้ เป็นการจัดอันดับจากดัชนีการค้าโลกของเขต เศรษฐกิจ 30 แห่ง
โดยดัชนีดังกล่าววัดความพร้อมผ่านหัวข้อหลักสามอย่าง ได้แก่
– เศรษฐกิจ วัดจากเป้าหมายของการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบระยะยาว โดยมีตัวบ่งชี้ที่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างระบบการค้ากับการเติบโตทางเศรษฐกิจ เช่น คุณภาพของโครงสร้างพื้นฐานทางการค้าและความสะดวกในการดำเนินการค้าระหว่างประเทศ
– สังคม ต้องมีการพัฒนาปัจจัยทางสังคมที่เอื้อต่อเศรษฐกิจในการทำการค้าระยะยาว เช่น ระดับการศึกษา และมาตรฐานแรงงาน
– สิ่งแวดล้อม จะวัดจากการปกป้องการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและการจัดการปัจจัยภายนอกที่เกิดจากการเติบโตทางเศรษฐกิจและระบบการค้าโลก เช่น ระดับมลพิษทางอากาศและทางน้ำ
โดยในรายงานยังได้ระบุว่าประเทศที่อยู่ในอันดับสูง ๆ จะเป็นประเทศที่สนับสนุนนวัตกรรมทางเทคโนโลยีมีอุปสรรคทางการค้าต่ำ และมีโอกาสเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ
นอกจากนี้พลเมืองต่างมีอายุขัยยืนยาว มีความคิดในการประหยัดพลังงานและคำนึงถึงสภาพอากาศโลก
โดยน่าสนใจว่า สิงคโปร์อยู่อันดับ 2 ในหัวข้อเศรษฐกิจ รองจากฮ่องกงอันดับ 9 ในหัวข้อสังคม และอันดับ 10 ในหัวข้อสิ่งแวดล้อม โดยทั้งฮ่องกง และสิงคโปร์ต่างดึงดูดการลงทุนเงินทุนจากต่างชาติและทั้งสองประเทศต่างมีโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่พัฒนาเป็นอย่างดี
ที่มา : สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงสิงคโปร์
เขียนและเรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์
ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/
#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #ความยั่งยืน #ESG #businesstimes