TMILL โชว์ผลงานปี 61 สุดแกร่ง ฟันกำไร 106 ลบ. จ่อจ่ายปันผลอีก 0.15 บาท/หุ้น

TMILL อวดผลงานปี 2561 กวาดรายได้ 1,399.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.4% ขณะที่ กำไร 106.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.05% ระบุเป็นผลงานเป็นที่น่าพอใจ จ่อจ่ายเงินปันผล 0.15 บาท/หุ้น พร้อมเปิดแผนธุรกิจปี 2562 เตรียมเพิ่มกำลังการผลิตจาก 70% เป็น 80% และเพิ่มศักยภาพการผลิตด้วยหุ่นยนต์ ตอบโจทย์ยุคIndustry 4.0 อีกทั้งเดินหน้าขยายตลาดเล็งภาคเหนือ – อีสาน หวังขยายฐานลูกค้าเพิ่มต่อเนื่อง

ดร.ชาญกฤช เดชวิทักษ์ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TMILL เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ ในงวดปี 2561 (1 ม.ค. ถึง 31 ธ.ค. 61) บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,399.79 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายแป้ง 1,205.09 ล้านบาท และรายได้จากการขายรำ 194.70 ล้านบาท เติบโตขึ้น 7.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,303.30 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิปี 2561 จำนวน 106.60 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2560 คิดเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.05 %

โดยผลประกอบการที่เติบโตทั้งในแง่รายได้และกำไร เป็นผลมาจากการเพิ่มกำลังการผลิตจาก 67% ในปี 2560 มาเป็น 70% ในปี 2561 รวมถึงการส่งมอบสินค้าที่เป็นไปตามกำหนด และมียอดสั่งซื้อใหม่เพิ่มมากขึ้น

“ถึงแม้ว่า ปี 2561 ที่ผ่านมา ต้นทุนการขายของเราจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าประมาณ 100 ล้านบาท อีกทั้งในธุรกิจโรงโม่แป้งสาลียังมีการแข่งขันที่รุนแรง แต่บริษัทฯ ยังคงสถานะรายได้และกำไรที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มกำลังการผลิตและขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง”

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจัดสรรเงินกำไรจากผลประกอบการของปี 2561 เพื่อจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล วันที่ 20 มีนาคม และจ่ายปันผลวันที่ 24 พฤษภาคม นี้ ซึ่งในปี 2561 ได้มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.15 บาทต่อหุ้น ทำให้ผู้ถือหุ้นได้รับเงินปันผลไปทั้งสิ้น 0.30 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนถึง 10% เมื่อเทียบกับราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน

ด้านแผนธุรกิจในปี 2562 นี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตเพิ่มขึ้นอีก 10% จากปีก่อน โดยจะเน้นเพิ่มยอดขายทั้งกับลูกค้ารายเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่บริษัทฯ มองว่ายังคงมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยมีแผนงานที่จะพัฒนาบุคลากรและทีมงานฝ่ายขายเพื่อเพิ่มศักยภาพให้เป็นไปตามแผนงานดังกล่าว

ขณะเดียวกัน ในด้านการผลิต บริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 10% จากเดิมปี 2561 มีกำลังการผลิตเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 70% เป็น 80% เพื่อรองรับคำสั่งซื้อที่คาดว่าจะสูงขึ้นในปีนี้ ซึ่งนโยบายนี้จะทำให้ต้นทุนการผลิตโดยรวมลดลง และจะส่งผลให้มีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นในอนาคต

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะลงทุนติดตั้งหุ่นยนต์ (Robot) ในเฟสที่ 2 เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตในส่วนของการร่อนแป้ง หลังจากที่ได้ใช้หุ่นยนต์เฟสแรกในส่วนของการจัดการคลังสินค้าไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการติดตั้งได้ประมาณไตรมาส 2/62 คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมใช้งานได้ภายในไตรมาส 3/62