The Success Story ‘กรุงเทพธนบุรี’ ปรับหลักสูตรเพื่อพัฒนาคน ด้วยหลักการ Predict Upcoming Trend

The Success Story By Business+ เดือนนี้จะพาผู้อ่านมาพบกับบทพิสูจน์สำหรับการพัฒนาการศึกษาไทยกว่า 2 ทศวรรษของ ‘กรุงเทพธนบุรี’ ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในสถาบันที่มีมาตรฐานสถาบันที่เพียบพร้อมจนครบทุกมิติ และมีผลผลิตคือบัณฑิตที่เป็นมืออาชีพในแต่ละสายงาน

การศึกษาทำให้มนุษย์มีองค์ความรู้ในเรื่องต่าง ๆ และทำให้กลายเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีความสามารถตลอดจนมีศักยภาพในการปฎิบัติงานใด ๆ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการพัฒนาประเทศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากเทคโนโลยี

ดังนั้น การสร้างพื้นฐานด้านการศึกษาให้สอดคล้องกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป จึงสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการสร้างทรัพยากรมนุษย์ เพราะทรัพยากรมนุษย์เป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

นั่นทำให้ ‘มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี’ ได้ปรับหลักสูตร และพัฒนาด้านการศึกษาทุกมิติ ทั้งการขยายคณะสำหรับการเรียนการสอน อาคาร และสิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งเปรียบเสมือนการพัฒนา ‘ฮาร์ดแวร์’ และยังปรับโครงสร้างทางวิชาการเพื่อรองรับตลาดแรงงานในอนาคตที่เปลี่ยนไป ซึ่งเปรียบเสมือนการพัฒนา ‘ซอฟต์แวร์’

ศาสตราจารย์ ดร.บังอร เบ็ญจาธิกุล อธิการบดี มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี (มกธ.) หรือ BANGKOKTHONBURI UNIVERSITY (BTU) เปิดเผยว่า กว่า 2 ทศวรรษแล้วที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ได้พัฒนาระบบการศึกษา และพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพให้กับประเทศไทย ภายใต้ปณิธาน “สร้างปัญญา พัฒนาคน ฝึกฝนคุณธรรม” หลังจากที่ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2545

ตามเจตนารมณ์ของศาสตราจารย์ ดร.บังอร เบ็ญจาธิกุล ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ และสนองศรัทธาของชุมชน ความปรารถนาของท่านผู้ปกครอง ศิษย์เก่าวิทยาลัยอาชีวศึกษากรุงเทพธนบุรี วิทยาลัยเทคโนโลยีโพลีกรุงเทพ และโรงเรียนสาธิตกรุงเทพธนบุรี ตลอดจนเยาวชนและประชาชนทั่วทุกภูมิภาคในการสืบสานสู่การศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่สมบูรณ์แบบ

โดยมีเป้าหมายคือการสร้างสถาบันการศึกษาซึ่งเป็นที่รวมองค์ความรู้วิชาการแขนงต่าง ๆ อันล้ำเลิศ ทันสมัย และบุคลากรที่มีความสามารถเชี่ยวชาญด้านการศึกษา โดยจัดการศึกษาที่เปิดโอกาสให้บุคคลได้มีโอกาสศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาเพื่อพัฒนากำลังคนให้มีความรู้ความสามารถควบคู่กับการมีคุณธรรม จรรยาบรรณในวิชาชีพ และดำรงตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม

และมาจนถึงวันนี้ถือว่าเป็นบทพิสูจน์ว่าตลอดระยะเวลานับตั้งแต่การก่อตั้งสถาบันจาก “วิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี” มาจนถึง “มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี” ในปัจจุบัน สถาบันการศึกษาแห่งนี้ได้ดำเนินงานตามภารกิจหลักในฐานะสถาบันอุดมศึกษาครบถ้วนสมบูรณ์ กล่าวคือ การจัดการเรียนการสอน การวิจัยและนวัตกรรม การให้บริการทางวิชาการแก่สังคม และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรียังดำรงไว้ซึ่งประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วยภารกิจด้านการจัดการเรียนการสอน การวิจัยและนวัตกรรม การให้บริการทางวิชาการแก่สังคม และด้านการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม จนเป็นที่ยอมรับของชุมชน สังคม และประเทศชาติ ทั้งมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการเป็นสถาบันที่ก้าวนำการศึกษาให้ครอบคลุมทั่วถึงประชาชนทุกภูมิภาค บนพื้นฐานของความเท่าเทียมกัน และเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก

และเมื่อเร็ว ๆ นี้ มกธ. ได้จัดงาน “BTU FAMILY 20th ANNIVERSARY” เฉลิมฉลองครบรอบการสถาปนามหาวิทยาลัยฯ 20 ปี ซึ่งจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมความรักสมัครสมานสามัคคีของบุคลากรทุกฝ่าย และสะท้อนถึงการรวมพลังให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อให้บุคลากรร่วมมือกันบูรณาการความรู้ ความคิด ประสบการณ์ ทักษะทางวิชาการและวิชาชีพทุกศาสตร์สาขาวิชาให้พร้อมต่อการมุ่งมั่นพัฒนางานอย่างเต็มศักยภาพด้วยความเข้มแข็ง และมีความพร้อมต่อการพัฒนามหาวิทยาลัยฯ ทุกมิติในปัจจุบันและอนาคต

และเพื่อเป็นการย้ำเตือนว่าเป็นเวลากว่า 20 ปีที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพออกสู่สังคม และยังคงดำเนินภารกิจนี้ต่อไป ซึ่งถือเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี

พัฒนาหลักสูตร สร้างบุคลากรตอบโจทย์โลกดิจิทัล
ทั้งนี้เพื่อตอบโจทย์เศรษฐกิจและอุตสาหกรรมโลกที่เปลี่ยนแปลงไป มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีได้วิเคราะห์และท้าทาย ทำนายแนวโน้มความต้องการตามตลาดแรงงานในอนาคต (Predict Upcoming Trend) เพื่อนำมาพัฒนาหลักสูตรทางการศึกษา โดยปัจจุบันมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีมีการสอนเป็นสถาบันอุดมศึกษา ที่ครอบคลุมทุกหลักสูตรทั้งระดับปริญญาตรี โท เอก

และด้วยปณิธานอันแรงกล้าของศาสตราจารย์ ดร.บังอร เบ็ญจาธิกุล ในการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพชั้นนำ และเข้าถึงกลุ่มผู้เรียนในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้สามารถพัฒนาศักยภาพความรู้และทักษะการทำงาน แม้โลกจะเผชิญกับโรคระบาดที่ทำให้ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม

แต่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีไม่หยุดยั้งในการพัฒนาสื่อการเรียนรู้ จึงได้พัฒนาระบบออนไลน์ให้กับผู้ที่สนใจศึกษาต่อ ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ให้สามารถศึกษาต่อโดยไม่กระทบกับการทำงานประจำของผู้เรียน ด้วยหลักสูตรออนไลน์แบบ 100% ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ตอบโจทย์โลกยุคดิจิทัลตามนโยบาย “อยู่ที่ไหนก็เรียนได้” โดยเฉพาะภายหลังจากการระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้ผู้เรียนคุ้นเคย และเลือกที่จะใช้การศึกษาแบบ “Learn at Home” กันมากขึ้น

นอกจากหลักสูตรแบบออนไลน์ 100% แล้ว ในแง่ของการพัฒนาระบบ และการบริการให้ข้อมูลเพื่อการศึกษา ทางมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีได้พัฒนาระบบออนไลน์แบบ One Stop Service เพื่อช่วยให้ผู้ที่สนใจเข้ารับการศึกษาสามารถสมัครเรียนออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ได้ทันที โดยที่ไม่ต้องเข้ามาพบพนักงานของมหาวิทยาลัย

นอกจากนี้ความครบวงจรของระบบการศึกษาที่ง่ายต่อการให้บริการแล้ว ในแง่ของหลักสูตรการศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีในปัจจุบันนี้ มีคณะและสาขาครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น

คณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ คณะนิเทศศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะศิลปศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ คณะบัญชี คณะเทคโนโลยีและนวัตกรรม คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะดุริยางคศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ และคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา ซึ่งในแต่ละคณะนั้นมีหลักสูตรที่เข้มข้นและตอบโจทย์ตลาดแรงงานในปัจจุบันและอนาคต

โดยเฉพาะในส่วนของวิทยาศาสตร์สุขภาพที่มีหลักสูตรครบครัน และเป็นคณะที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีให้ความสำคัญในการพัฒนาหลักสูตรเป็นพิเศษ โดยปัจจุบันนี้ คณะที่เกี่ยวข้องกับด้านสุขภาพ ได้แก่ วิทยาศาสตร์สุขภาพอย่าง คณะสาธารณสุขศาสตร์ และคณะพยาบาลศาสตร์ ที่สร้างนักศึกษาพยาบาลไปกว่า 10 รุ่นแล้ว

และยังมีคณะทันตแพทยศาสตร์ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากนับตั้งแต่เปิดปีการศึกษา 2562 โดยมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีถือเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งแรก ที่เปิดสอนระดับปริญญาตรี และปริญญาโท คณะทันตแพทยศาสตร์ ในสาขาทันตแพทย์จัดฟัน ซึ่งสาขานี้ขึ้นชื่อว่าเปิดได้ยาก

ศาสตราจารย์ ดร.บังอร กล่าวว่า ความสำเร็จของมหาวิทยาลัยเกิดจากหลักสูตรที่ครบครัน และมาตรฐานการศึกษาที่ดี โดยเฉพาะคณะแพทยศาสตร์ ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ซึ่งความสำเร็จนี้เกิดขึ้นจากหลักการที่เป็นหัวใจสำคัญในบริบทปัจจุบัน คือการมีหลักสูตรการเรียนที่สอดคล้องตามนโยบายของภาครัฐ ที่มีความต้องการบุคลากรทางการแพทย์ที่มีหัวใจของการเป็นแพทย์อย่างแท้จริง เพื่อรับใช้ชุมชน สังคม และประเทศชาติเป็นสำคัญ

ซึ่งวัตถุประสงค์ที่สำคัญของการก่อตั้งคณะแพทยศาสตร์ คือการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการผลิตแพทย์เพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันจำนวนแพทย์ที่ทำงานในฐานะแพทย์ และปฏิบัติงานด้านเวชกรรมนั้นยังมีน้อย เห็นได้จากสถานการณ์ของโรคโควิดในปัจจุบัน บุคลากรทางการแพทย์ โดยเฉพาะแพทย์ที่ไม่เพียงพอ

ข้อมูลและสัญลักษณ์มหาวิทยาลัย
1. ปรัชญา: สร้างปัญญา พัฒนาคน ฝึกฝนคุณธรรม

2. ปณิธาน: ผลิตบัณฑิตให้มีภาวะผู้นำสังคมมีความรู้ ความสามารถ คุณธรรม นำไปประกอบอาชีพและดำรงชีวิตด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีการพัฒนาตนเองสังคมและประเทศชาติ

3. วิสัยทัศน์
– บัณฑิตนักปฏิบัติที่มีศักยภาพ พร้อมพัฒนาไปสู่มืออาชีพ โดยมีความรู้ประสบการณ์ความสามารถควบคู่คุณธรรมและจิตสำนึกที่ดีงาม ตามปรัชญาของมหาวิทยาลัยในสาขาวิชาอันเป็นที่ต้องการของประเทศ
– การวิจัยและงานสร้างสรรค์ ที่นำไปสู่การสร้างนวัตกรรมในแต่ละสาขาวิชาที่มหาวิทยาลัยเปิดดำเนินการเรียนการสอน ที่มีทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศ
– ให้บริการวิชาการแก่สังคมและชุมชนอย่างทั่วถึง ในด้านที่มหาวิทยาลัยมีความพร้อมและเชี่ยวชาญ เพื่อให้สังคมและชุมชนพึ่งตนเองบนพื้นฐานปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
– ฟื้นฟู พัฒนา สืบสาน อนุรักษ์ และดำรงซึ่งวัฒนธรรมและวิถีชีวิตไทยทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่น
– พัฒนาระบบการบริหารและการจัดการอย่างมีธรรมาภิบาลที่สอดคล้องกับบริบท โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการบริหารวิชาการ กิจการนักศึกษา บริหารบุคลากร บริหารทรัพยากร งบประมาณ บริหารโลจิสติกส์ บริหารวิสาหกิจ และการบริหารทั่วไป

4. พันธกิจ
– มุ่งผลิตและพัฒนาบัณฑิตให้มีความรู้ ความสามารถ ควบคู่คุณธรรมและจิตสำนึกที่ดีงามตามปรัชญาของมหาวิทยาลัย ในสาขาวิชาอันเป็นที่ต้องการของประเทศ รวมทั้งด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา วิทยาศาสตร์สุขภาพที่เน้นผู้สูงวัยหรือผู้สูงอายุ
– มุ่งส่งเสริมการทำวิจัยและพัฒนา เพื่อสร้างนวัตกรรมในแต่ละสาขาวิชาที่มหาวิทยาลัยเปิดดำเนินการเรียนการสอน ที่มีทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศ
– มุ่งให้บริการวิชาการแก่สังคมในด้านที่มหาวิทยาลัยมีความพร้อมและเชี่ยวชาญ
– มุ่งทำนุบำรุงและเสริมสร้างวัฒนธรรมอันดีงามแก่สังคม และพัฒนามาตรฐานคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง
– มุ่งพัฒนาระบบการบริหารและการจัดการอย่างมีธรรมาภิบาลที่สอดคล้องกับบริบท โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการบริหารวิชาการ กิจการนักศึกษา บริหารบุคลากร บริหารทรัพยากร งบประมาณ บริหารโลจิสติกส์ บริหารวิสาหกิจ และการบริหารทั่วไป

5. จุดมุ่งหมาย
– เพื่อผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ ความสามารถ และทักษะ ประกอบด้วยคุณธรรมบนพื้นฐานความเป็นไทย มีชีวิตบนความพอเพียง มีจิตสาธารณะ มีภาวะผู้นำสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และพัฒนาสมรรถนะสู่สากล
– เพื่อมีผลงานวิชาการที่แสดงความก้าวหน้าทางวิชาการ และการพัฒนาองค์ความรู้อย่างต่อเนื่อง สมควรส่งเสริมเผยแพร่ และนำไปใช้ประโยชน์ด้านวิชาการและการแข่งขันของประเทศ
– เพื่อส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพในการให้บริการวิชาการ และมีคุณภาพทางสังคมโดยนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม
– เพื่อทำนุบำรุง เสริมสร้าง แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเผยแพร่ศิลปะและวัฒนธรรมไทย
– เพื่อบริหารจัดการเชิงรุกตามหลักธรรมาภิบาล

6. อัตลักษณ์ของบัณฑิต: บัณฑิตนักปฏิบัติ มุ่งสู่มืออาชีพ

7. เอกลักษณ์ของมหาวิทยาลัย
– ผลิตบัณฑิตนักปฏิบัติ มุ่งสู่มืออาชีพ
– บัณฑิตนักปฏิบัติ มุ่งสู่มืออาชีพ หมายถึง บัณฑิตที่มีทักษะในการปฏิบัติงานด้วยความรู้ความสามารถ ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายอย่างมีความรับผิดชอบ และมีศักยภาพพร้อมมุ่งสู่มืออาชีพ
– ผลิตบัณฑิตนักปฏิบัติ มุ่งสู่มืออาชีพ หมายถึง การจัดการเรียนการสอนให้บัณฑิตมีความเชี่ยวชาญ โดยมีความรู้ ความสามารถ สมรรถนะ ในแต่ละศาสตร์ตามจรรยาบรรณวิชาชีพ และมีศักยภาพพร้อมมุ่งสู่มืออาชีพ

ร่วมสร้างอาชีพ พร้อมใส่ใจถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม
นอกจากมีหลักสูตรที่พร้อมรองรับความต้องการตลาดแรงงานโลกแล้ว ในแง่ของการพัฒนาในมิติของเครือข่ายสังคม และสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรียังถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่ส่งเสริมพันธกิจการบริการวิชาการ ร่วมสร้างอาชีพเสริมรายได้ชุมชน รวมไปถึง ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากเพื่อช่วยเหลือชุมชน และนำไปสู่การพัฒนาประเทศ โดยศาสตราจารย์ ดร.บังอร เปิดเผยถึงบทบาทด้านการบริการวิชาการแก่สังคมว่า มหาวิทยาลัยฯ ได้วางกรอบนโยบายด้านการบริการวิชาการแก่สังคมอย่างชัดเจน ซึ่งถือเป็นบทบาทตามพันธกิจที่สำคัญอย่างยิ่งประการหนึ่งของมหาวิทยาลัยฯ

โดยล่าสุด มกธ. ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ “U2T for BCG” และสนับสนุนส่งเสริมให้คณาจารย์ บุคลากร ประชาชนในชุมชน บัณฑิตจบใหม่ ตลอดจนนักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมตามโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลัง COVID-19 ด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T for BCG and Regional Development) หรือโครงการ “มหาวิทยาลัยสู่ตำบล U2T for BCG” ตามนโยบายของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

นอกจากนี้ ทางมหาวิทยาลัยฯ ยังได้มองเห็นถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม เพราะสภาวะโลกร้อนในวันนี้ทำให้โลกทั้งใบกำลังเจอกับวิกฤตทางธรรมชาติครั้งใหญ่แบบไม่เคยมีมาก่อน และมหาวิทยาลัยซึ่งถือเป็นหนึ่งในสถาบันที่สำคัญเป็นอย่างมากที่จะผลิตบุคลากรที่มีความสามารถออกมาแก้ไขปัญหาด้านนี้

โดยกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เปิดโครงการ “อว.ชวนอุดมศึกษารัก(ษ์)สิ่งแวดล้อม” เพื่อสนับสนุนกิจกรรมการให้ความรู้ ความเข้าใจ และเสริมสร้างจิตสำนึกเกี่ยวกับการรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับนักศึกษา

พร้อมเชิญชวนให้นักศึกษาของมหาวิทยาลัยฯ ร่วมกิจกรรมนำร่อง “BTU ชวนน้องรักษ์สิ่งแวดล้อม” ผ่านระบบออนไลน์แอปพลิเคชัน ECOLIFE ซึ่งนักศึกษาสามารถร่วมเล่นเกมปฏิเสธการใช้ถุงพลาสติก หรือส่งคืนขยะตามจุดทิ้งขยะที่เข้าร่วมโครงการ และกิจกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อมตามความสนใจมากมาย

นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ ดร.บังอร เบ็ญจาธิกุล ยังกล่าวถึงการพัฒนาหลักสูตรให้ก้าวทันโลกว่า มหาวิทยาลัยฯ ต้องให้ความสําคัญกับเรื่องสังคมผู้สูงอายุ เพราะปัจจุบันในเมืองไทยเป็นสังคมผู้สูงอายุ ดังนั้น จึงต้องพัฒนาหลักสูตรเพื่อผลิตบุคลากร ที่พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์นี้ ให้สามารถดูแลผู้สูงอายุครบวงจรถูกต้องตามหลักวิชาการ ซึ่งที่ผ่านมามหาวิทยาลัยฯ ได้จัดโครงการ “ซีเนียร์คอมเพล็กซ์” ขึ้นมาเพื่อให้นักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ สาธารณสุขศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ แพทยศาสตร์ ได้มาใช้เป็นแหล่งฝึกปฏิบัติจริง

จุดเด่นที่เห็นได้ชัดของ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีในมุมมองของ ‘Business+’ คือ “การผลิตบัณฑิต มุ่งสู่มืออาชีพ” เพราะทุกคนที่เข้ารับการศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งนี้จะสามารถทำงานได้จริง และสามารถอยู่บนโลกของความเป็นจริงได้ ไม่ใช่เพียงแค่การเรียนเพื่อรู้เท่านั้น ดังนั้น ลูกศิษย์ของมหาวิทยาลัยฯ แห่งนี้จะมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนคือ ต้องวิเคราะห์เป็น สังเคราะห์เป็น แก้ปัญหาได้ และต้องคาดเดาเหตุการณ์ในอนาคตได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น BANGKOKTHONBURI UNIVERSITY “WE ARE THE PROFESSIONALS”

ที่มา : มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี

เรียบเรียง : พรรณรุ้ง คุ้มพงษ์พันธ์

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/
Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS
IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี