“บ้านห้วยขาบ” จากภัยพิบัติดินโคลนถล่ม…สู่พลังความร่วมมือทุกภาคส่วน ส่งมอบบ้านหลังใหม่ เสริมสร้างชุมชนเข้มแข็ง พัฒนาสู่สังคมที่ยั่งยืน

จากเหตุการณ์ดินโคลนถล่มทับบ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่บ้านห้วยขาบ หมู่ที่ 7 ต.บ่อเกลือเหนือ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก มีผู้เสียชีวิตถึง 8 ราย จังหวัดน่านจึงได้ประกาศให้ “บ้านห้วยขาบ” เป็นเขตภัยพิบัติ ชาวบ้าน จำนวน 248 คน ไม่สามารถพักอาศัยอยู่ในพื้นที่เดิมได้ต่อไป เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม 

กระทรวงมหาดไทย จึงได้ผสานความร่วมมือกับ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กองทัพบก จังหวัดน่าน และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ดำเนินการสร้างที่อยู่อาศัยถาวร ให้ความช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจ และส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้ประสบภัยดินโคลนถล่ม ที่บ้านห้วยขาบ จังหวัดน่าน พร้อมจัดให้มีพิธีส่งมอบบ้านขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยได้รับเกียรติจาก นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายนิพันธ์ บุญหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน และ นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมพิธีส่งมอบบ้านห้วยขาบ ณ บ้านสว้าเหนือ ต.ดงพญา อ.บ่อเกลือ จ.น่าน 

 

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ กล่าวว่า “จากเหตุการณ์ดินโคลนถล่มดังกล่าว รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจและมีความห่วงใยต่อพี่น้องผู้ประสบภัย โดยได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน และเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2561 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้   พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพี่น้องประชาชนที่ประสบภัย จึงมีแนวคิดในการแก้ไขปัญหาโดยให้ย้ายออกจากจุดเสี่ยงและไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย โดยทำการสร้างบ้านพักถาวร     “บ้านห้วยขาบ” จำนวน 60 หลังคาเรือน ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณการก่อสร้างจากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานภาครัฐ คือ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และองค์การบริหารส่วนตำบลดงพญา ได้สนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภคและการประกอบอาชีพของพี่น้องประชาชน กระทั่งเกิดเป็นบ้านห้วยขาบวันนี้ขึ้น ซึ่งในนามของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคน ทุกครัวเรือนที่ให้ความร่วมมือ รวมถึงทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่เข้ามาช่วยเหลือ สนับสนุนในหลาย ๆ ด้าน ทั้งการก่อสร้างชุมชนใหม่และการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพให้กับชาวบ้าน        เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น รวมถึงการเตรียมความพร้อม ทักษะ และแผนในการรับมือกับภัยพิบัติ ทำให้บ้าน    ห้วยขาบกลายเป็นหมู่บ้านที่มีความปลอดภัยโดยใช้ชุมชนเป็นฐานในการจัดการภัยพิบัติ”

ด้าน นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กล่าวว่า “บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ต้องขอขอบคุณ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ได้ให้คำปรึกษาและคำแนะนำว่า “เราจะต้องพัฒนาและสร้างสรรค์การทำงานให้กลับมาเข้มแข็งกว่าเดิม (Better stronger)” โดยในการก่อสร้างบ้าน ได้นำเอารูปแบบบ้านประยุกต์มาจากบ้านของชาวลั๊วะ ซึ่งเกิดจากการหารือร่วมกันระหว่างชาวบ้านและผู้ออกแบบ พร้อมยังได้รับการสนับสนุนจากกองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 3 ที่ได้กรุณามอบหมายให้ทหารช่างมาร่วมดำเนินการก่อสร้างบ้าน และได้มีการจ้างงานชาวบ้านเพื่อร่วมก่อสร้างบ้านพร้อมทั้งยังเป็นการสอนทักษะด้านงานช่างให้กับชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมและรายได้ อีกทั้งยังสามารถพัฒนาต่อยอดเป็นอาชีพได้ในอนาคตอีกด้วย พร้อมทั้งได้นำแนวคิดหลักการ Build Back Better หรือการฟื้นฟูเยียวยาผู้ประสบภัยจะต้องดำเนินการให้ดีกว่าและปลอดภัยกว่าเดิม ควบคู่ไปกับแนวคิด CBDRM หรือ Community Based Disaster Risk Management โดยร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดให้มีโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในการเตรียมพร้อมป้องกันภัยพิบัติ และจัดตั้งชุดปฏิบัติการจิตอาสาภัยพิบัติประจำพื้นที่ เพื่อให้มีจิตอาสาที่มีความรู้ ความชำนาญในการช่วยเหลือชุมชนของตนเอง และช่วยเหลือชุมชนใกล้เคียงได้     เมื่อเกิดภัยพิบัติต่อไป นอกจากนี้ ยังได้สนับสนุนในการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและรายได้ ให้ชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยความสำเร็จของการฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวบ้านห้วยขาบในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานหลายภาคส่วนร่วมกันบูรณาการให้ความช่วยเหลือ และผลักดันให้โครงการนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ตลอดจนการเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต”

นายธนวัฒน์ จรรมรัตน์ ผู้ใหญ่บ้านห้วยขาบ เผยความรู้สึกว่า “เหตุการณ์ในวันนั้น ทางจังหวัดได้ประกาศให้ออกจากพื้นที่ทันที พวกเราไม่มีอะไรติดตัวมาเลย มีแค่เสื้อผ้าที่ใส่อยู่เท่านั้น ต่างคนแยกย้ายไปหลบภัยอยู่ตามโบสถ์คริสต์ และโรงเรียน สภาพความเป็นอยู่ค่อนข้างแออัด รวมไปถึงสภาพจิตใจของชาวบ้าน หลายคนเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้า จนวันนึง ผมได้ยินข่าวว่าไทยเบฟจะมาสร้างบ้านหลังใหม่ให้ พวกเราดีใจกันมาก ถือเป็นข่าวดีมาก ๆ ในนามตัวแทนของพี่น้องชาวห้วยขาบ ขอขอบคุณไทยเบฟ และทุกหน่วยงาน ที่ให้ชีวิตความเป็นอยู่ในปัจจุบัน นอกจากจะได้บ้านที่มั่นคงอยู่อาศัยแล้ว ยังมาให้องค์ความรู้และช่วยพัฒนาสินค้าของเราให้เป็นที่รู้จัก และมีตลาดรองรับสินค้าทำให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ขอบคุณที่ทำให้ชาวบ้านห้วยขาบมีวันนี้ครับ”