ทำไม ‘มาม่า’ ถึงเป็นขวัญใจช่วงสิ้นเดือน ไขความสำเร็จบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเบอร์ 1 ของไทย และความท้าทายหลังพาณิชย์เบรกขึ้นราคา แม้วัตถุดิบแพง

เรียกว่าทำเอาใจหายใจคว่ำเลยทีเดียว สำหรับประเด็นข่าวที่สินค้ายอดนิยมอย่างบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เตรียมปรับตัวขึ้นราคา แม้ว่าจะไม่ใช่ตัวเลขที่สูงขึ้นแบบพุ่งพรวด แต่ก็ทำเอาหลายคนถึงกับโอดครวญเลยทีเดียว เนื่องจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เปรียบเสมือนเป็นอาหารยังชีพในช่วงยากลำบากของหลาย ๆ คน รวมถึงยังเป็นขวัญใจบรรดา ‘มนุษย์เงินเดือน’ ในช่วงก่อนเงินเดือนออกอีกด้วย

ส่วนเหตุผลที่ทำให้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก คงหนีไม่พ้นในเรื่องของราคาที่ถือว่าถูกมาก เมื่อเทียบกับอาหารกึ่งสำเร็จรูปชนิดอื่น รวมถึงการหาซื้อได้ง่าย มีความหลากหลายของรสชาติให้เลือก นอกจากนี้ ด้วยลักษณะของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ทำมาจากแป้ง ยังช่วยให้อยู่ท้อง จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง จนถึงขั้นบางคนยกให้เป็น ‘ปัจจัย 5’ เลยทีเดียว

และถ้าหากพูดถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เป็นธรรมดาที่จะต้องได้ยินชื่อ ‘มาม่า’ มาเกี่ยวข้องด้วยเสมอ เนื่องจากเป็นคำติดปากของคนไทยมาอย่างยาวนานในการเป็นตัวแทนของสินค้าประเภทบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แม้ว่าบางครั้งจะไม่ได้หมายถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อ ‘มาม่า’ ก็ตาม

‘มาม่า’ ถือเป็นแบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่อยู่คู่กับประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ภายใต้การบริหารจัดการโดยบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFMAMA

โดย TFMAMA ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2560 จากการควบบริษัทระหว่าง บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) (TF) กับ บริษัท เพรซิเดนท์ไรซ์โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) (PR) เป็นบริษัทใหม่โดยใช้ชื่อเดิมของ TF และได้นำหลักทรัพย์ของบริษัทแห่งนี้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันเดียวกัน ด้วยทุนจดทะเบียน 329,704,014 บาท โดยใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ ‘TFMAMA’ และเริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯในวันที่ 18 ตุลาคม 2560 เป็นวันแรก

สำหรับบริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) (TF) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2515 ด้วยทุนจดทะเบียน 6 ล้านบาท ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท เพรซิเดนท์ เอ็นเตอร์ไพรส์ ของไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการผลิต และบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด ซึ่งรับผิดชอบในด้านการตลาดและการจำหน่ายสินค้า มีวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งเพื่อผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปภายใต้เครื่องหมายการค้า ‘มาม่า’

โดยมีสำนักงานใหญ่แห่งแรกที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ และเปิดทำการโรงงานแห่งแรกที่เขตหนองแขม กรุงเทพฯ ซึ่งหลังจากการดำเนินธุรกิจปีแรกผ่านไป หุ้นทั้งหมดได้ถูกโอนไปยังผู้ถือหุ้นคนไทยซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ บริษัท เพรซิเดนท์ไรซ์โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) (PR) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2524 มีบริษัท เพรซิเดนท์ โฮลดิ้ง จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ประกอบธุรกิจด้านผลิตอาหารกึ่งสำเร็จรูป ประเภทเส้นหมี่ เส้นเล็ก เส้นใหญ่ ก๋วยจั๊บกึ่งสำเร็จรูป โจ๊กข้าวต้ม ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากข้าวเป็นหลัก และวุ้นเส้นกึ่งสำเร็จรูป จำหน่ายภายใต้เครื่องหมายการค้า MAMA, MAMY, PAPA, PAMA, HANDI RICE และ PRESIDENT RICE เป็นต้น

ทั้งนี้ คุณพิพัฒ พะเนียงเวทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองประธานกรรมการ TFMAMA ได้เผยถึงเคล็ดลับความสำเร็จที่ทำให้ ‘มาม่า’ อยู่บนเส้นทางนี้มาอย่างยาวนานถึง 50 ปี สิ่งสำคัญคือการมีพันธมิตรที่ดีอย่าง บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่ายในประเทศที่แข็งแกร่ง รวมไปถึงตัว TFMAMA เองที่มีแผนการลงทุนของบริษัทที่มั่นคง ตลอดจนการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่ตอบโจทย์เทรนด์ของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจของ TFMAMA เติบโตได้อย่างยั่งยืน

โดยตลอด 50 ปีที่ผ่านมา TFMAMA ได้มีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่เข้ามาพัฒนากระบวนการผลิตสินค้าในโรงงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่โรงงานสีเขียว เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ควบคู่กับการรักษาสมดุลของสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับแนวทางในการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน Sustainable Development Goals (SDGs) และนโยบายการขับเคลื่อน Bio Circular Green Economy (BCG)

สำหรับการทำตลาดในต่างประเทศที่ผ่านมา TFMAMA มีการทำตลาดไปแล้ว 68 ประเทศทั่วโลก โดยมีผผลิตภัณฑ์ ‘มาม่า’ เป็นแบรนด์หลัก และยังมีแนวโน้มที่คาดว่าจะขยายการลงทุนเพิ่มในต่างประเทศ โดยปัจจุบันสัดส่วนการตลาดในประเทศอยู่ที่ 70% และต่างประเทศอยู่ที่ 30%

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า ‘มาม่า’ จะเป็นเจ้าแห่งตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในไทย แต่ก็หนีไม่พ้นความเสี่ยงด้านราคาวัตถุดิบที่มีความผันผวนตลอดเวลา โดยก่อนหน้านี้ คุณบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ ได้ออกมาเปิดเผยว่าอยู่ระหว่างเจรจาขอขึ้นราคาสินค้ากับ ‘มาม่า’ กับกรมการค้าภายใน เนื่องจากราคาต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตสินค้าปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังจากเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน โดยเฉพาะราคาข้าวสาลี และน้ำมันปาล์ม ที่ราคาพุ่งสูงขึ้น กระทบต่อต้นทุนการผลิต โดยบริษัทได้แบกรับภาระต้นทุนมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว เนื่องจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นสินค้าควบคุมของกระทรวงพาณิชย์

ซึ่งหลังจากกระแสข่าวนี้เปิดเผยออกมา ทางกระทรวงพาณิชย์ก็ไม่ปล่อยให้ประชาชนต้องเป็นกังวลนาน โดยได้ออกมายืนยันทันทีว่ายังไม่มีการอนุมัติการปรับขึ้นราคาดังกล่าวในขณะนี้ โดยทางพาณิชย์ได้ขอความร่วมมือผู้ผลิตให้ช่วยตรึงราคาให้นานที่สุด

นับเป็นความท้าทายอีกครั้งสำหรับบริษัทที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานานแห่งนี้ ที่จะต้องเผชิญหน้ากับต้นทุนสินค้าที่สูงขึ้น แต่ยังไม่สามารถปรับขึ้นราคาสินค้าได้ ว่าจะสามารถประคองบริษัทให้ยังยืนอย่างมั่นคงได้อย่างไรในช่วงเวลานี้ ซึ่งทาง CEO ของ TFMAMA เองก็ได้ออกมายอมรับว่าวิกฤตของแพงครั้งนี้รุนแรงกว่าเมื่อ 26 ปีที่แล้วที่เจอวิกฤตต้มยำกุ้ง เพราะครั้งนี้เป็นผลกระทบในวงกว้าง เมื่อต้นทุนทุกอย่างขึ้น สินค้าก็ต้องขึ้นราคา และเป็นห่วงว่าหากภาครัฐควบคุมการขึ้นราคาสินค้าเป็นระยะเวลานาน มีโอกาสที่สินค้าจะขาดตลาด เพราะผู้ผลิตอาจลดกำลังการผลิตลงหรือชะลอการผลิต ทำให้เกิดการกักตุนสินค้า และเกิดภาวะสินค้าขาดตลาดในที่สุด

ทั้งนี้ จากการสำรวจงบการเงิน Q1/65 ของ TFMAMA พบว่าต้นทุนขายอยู่ที่ 4,380.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 559.16 ล้านบาท หรือ 14.63% เมื่อเทียบกับ Q1/64 เนื่องจากราคาวัตถุดิบหลักปรับตัวสูงขึ้นมาก โดยสัดส่วนต้นทุนขายต่อรายได้จากการขาย Q1/65 อยู่ที่ 71.15% ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันกับปีก่อนหน้านซึ่งอยู่ที่ 65.97%

และไม่เพียงแค่ต้นทุนเท่านั้นที่ปรับตัวสูงขึ้น ในส่วนของค่าใช้จ่ายเองก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยใน Q1/65 ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 984.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.76 ล้านบาท คิดเป็น 1.42% เมื่อเทียบกับ Q1/64 โดยมีสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายในการส่งออกเพิ่มขึ้น ประกอบกับค่าระวางเรือมีการปรับตัวสูงขึ้นมาก รวมทั้งราคาน้ำมันในการขนส่งสินค้าที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น เมื่อเทียบกับสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้จากการขายสำหรับ Q1/65 และ Q1/64 เท่ากับ 16% และ 16.77% ตามลำดับ

ที่มา : mama, thairath, PPTV, SET

เขียนและเรียบเรียง : เพชรรัตน์ แสงมณี

ติดตาม Business+ ได้ที่ : https://www.thebusinessplus.com/

Line Business+ ได้ที่ : https://lin.ee/pbIHCuS

IG ได้ที่ : https://www.instagram.com/businessplus.newgen2021/

#Businessplus #Business+ #นิตยสารBusinessplus #มาม่า #TFMAMA #ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ #MAMA