ศรีจันทร์ รุกตลาดความงามอีกขั้น เดินหน้าขยายสู่ตลาดสกินแคร์ ล่าสุดส่ง ‘ซุปเปอร์ ซี (Super C)’ เซรั่มอัพผิวกระจ่างใสลงชิงแชร์ ล่าสุดส่ง ‘ซุปเปอร์ ซี (Super C)’ เซรั่มอัพผิวกระจ่างใสลงชิงแชร์ ปูทางสู่การเป็นแบรนด์ Beauty Solution อย่างเต็มรูปแบบ

ศรีจันทร์สบช่องกำลังซื้อคึกคักหลังโควิดขาลง เปิดเกมชิงแชร์ตลาดความงามด้วยการขยายธุรกิจเจาะกลุ่ม Basic Skincare ที่มีฐานลูกค้าสูงสุดในปัจจุบัน จุดพลุตลาดด้วยการเปิดตัว SRICHAND Super C Brightening Intense Serum กลยุทธ์ใหม่ที่ทำให้เห็นว่าวันนี้ศรีจันทร์ไม่ได้ขายแค่สินค้า แต่กำลังนำเสนอทางเลือกใหม่ในแบบ Beauty Solution ให้แก่ผู้บริโภคแบบใส่ใจในรายละเอียด

รวิศ หาญอุตสาหะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์ความงามของไทยว่า ในปีที่ผ่านมาตลาดมีมูลค่ารวมประมาณ 1.447 แสนล้านบาท ซึ่งในภาพรวมทั้งหมดนี้ ตลาดสกินแคร์ยังครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดประมาณ 57% ในขณะที่กลุ่มเมคอัพมีส่วนแบ่งอยู่ที่ 15%  ทั้งนี้ หลังจากสถานกรณ์โควิดคลี่คลายลง  ผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติ  ออกนอกบ้าน ท่องเที่ยว คนทำงานเริ่มกลับมาทำงานแบบ On-site มากขึ้น  ส่งผลให้เกิดการกลับมาจับจ่ายใช้สอยทั้งในส่วนของเมคอัพและสกินแคร์เพื่อการดูแลใบหน้าและผิวพรรณมากขึ้น ทำให้ตลาดเกิดการเคลื่อนไหวในทางบวก เห็นได้จากหลายแบรนด์ในตลาดเริ่มใช้จังหวะนี้เปิดตัวสินค้าใหม่ รวมถึงจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดทั่วประเทศ

ศรีจันทร์ชี้กำลังซื้อเริ่มกลับ ย้ำผู้บริโภค “สวยก่อน พร้อมกว่า”

“จากการวิเคราะห์ข้อมูลภาพรวมตลาด ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ส่งสัญญาณบวกเพิ่มขึ้นกว่าช่วงก่อน เพราะผู้คนเริ่มใช้ชีวิตปกติ ดังนั้นกิจกรรมที่เคยทำก่อนช่วงเกิดโควิดจึงเริ่มกลับมาถูกให้ความสำคัญอีกครั้ง จากที่เคย work from home เปลี่ยนมาเป็นการกลับเข้าทำงานที่ออฟฟิศ หรือบางรายต้องทำงานแบบ hybrid workplace ซึ่งปฏิเสธการพบปะผู้คนไม่ได้ และจากปัจจัยเหล่านี้ทำให้ศรีจันทร์มองว่าตลาดรวมหลังจากนี้น่าจะดีขึ้น ตลอดเวลาที่ผ่านมาในการทำแบรนด์ เราเองก็พยายามเก็บข้อมูล และทำความเข้าใจเกี่ยวกับผิวและความต้องการของคนไทย ทำให้ศรีจันทร์เป็นที่ยอมรับว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เข้าใจผิวคนไทยดีที่สุด จากข้อมูลดังกล่าวทำให้ศรีจันทร์ต่อยอดการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากกลุ่มเมคอัพมาสู่กลุ่มสกินแคร์ และได้เริ่มนำเสนอสู่ตลาดเพื่อเสนอเป็นทางเลือกใหม่ให้แก่ผู้บริโภค   โดยตั้งใจที่จะพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพ ในราคาที่จับต้องได้ เพื่อให้ผู้บริโภคทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้ง่าย ให้พร้อมในทุกสถานการณ์ตามสโลแกนของศรีจันทร์ที่ว่า สวยก่อน พร้อมกว่า” รวิศ กล่าว

เพราะไม่เคยหยุดนิ่งที่จะคิดสิ่งใหม่ เพื่อเป็นทางเลือกที่ ‘ใช่’ สำหรับผู้บริโภคทำให้วันนี้ศรีจันทร์พร้อมที่จะก้าวสู่การเป็นแบรนด์ Beauty Solution อย่างเต็มรูปแบบ นำร่องด้วยการเผยโฉม SRICHAND Super C Brightening Intense Serumสกินแคร์ไลน์ที่ 2 เพื่อดูแลผิวคนไทยให้กระจ่างใสอย่างแท้จริง

“ปัจจุบันสินค้าในกลุ่มสกินแคร์โดยเฉพาะในกลุ่มของไวท์เทนนิ่งและไบรท์เทนนิ่ง (Whitening and Brightening) มีส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากที่สุดอย่างต่อเนื่องตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งจุดนี้ทำให้ศรีจันทร์มองเห็นโอกาสทางธุรกิจและรุกตลาดสกินแคร์ด้วยการพัฒนา SRICHAND Super C Brightening Intense Serum สู่ตลาดถือเป็นสกินแคร์ไลน์ที่ 2 ต่อจากกลุ่มไฮเดรติ้ง (Hydrating) ที่สร้างกระแสนิยมในกลุ่มผู้บริโภคชาวไทยอย่างมาก โดยบริษัทฯ เชื่อว่าตลาดกลุ่มนี้ยังมีโอกาสเติบโตอีกมากเพราะผู้หญิงส่วนใหญ่ล้วนให้ความสนใจเรื่องผิวกระจ่างใสเพราะจะทำให้ตนเองดูดีขึ้น ตลาดในกลุ่มไวท์เทนนิ่งและไบรท์เทนนิ่งปัจจุบันมีผู้เล่นในตลาดจำนวนมาก โดยได้แบ่งกลุ่มตลาดออกเป็น 2 เซกเมนต์หลักคือ กลุ่มสกินแคร์ดูแลผิวหน้าและกลุ่มสกินแคร์ดูแลผิวกาย แต่ด้วย brand positioning ของศรีจันทร์ ที่เริ่มต้นมาจากผิวหน้าเราจึงเริ่มต้นสู่วงการสกินแคร์ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าเป็นการนำร่องตลาดในครั้งนี้เพื่อต่อยอดสู่เป้าหมายการเป็นแบรนด์ Beauty Solution ได้อย่างแข็งแรง สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ตลาดและผู้บริโภคเป็นสำคัญ”

รวิศ กล่าวถึงจุดเริ่มต้นที่ตอกย้ำความแข็งแกร่งของศรีจันทร์ในธุรกิจความงาม “สำหรับคนไทยแล้ว ปัญหาผิวหมองคล้ำ มักเป็นปัญหาอันดับต้นๆ ที่ผู้บริโภคกังวล และพยายามอย่างมากที่จะมองหา solution ที่ดีที่จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์ปัญหาดังกล่าว  ทำให้บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะก้าวสู่การเป็น 1 ใน solution ในใจผู้บริโภคที่พร้อมช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ศรีจันทร์จึงได้คัดสรรวัตถุดิบอย่างดีที่มีความเข้มข้นและคุณประโยชน์ที่สูงกว่า Vitamin C ที่มีอยู่ในท้องตลาด เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค และนี่จึงเป็นที่มาที่เราจึงเรียกผลิตภัณฑ์ใหม่ตัวนี้ว่า Super C” ทั้งนี้ SRICHAND Super C Brightening Intense Serum จัดอยู่ในกลุ่ม Basic Skincare ที่ได้รับความนิยมสูงอันดับต้นๆ เพื่อเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง และด้วยส่วนประกอบ และ ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ รวมทั้งราคาที่เอื้อมถึงได้ง่าย น่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้ SRICHAND Super C Serum สามารถเข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคได้  และช่วยสร้างการรับรู้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์ของศรีจันทร์ได้ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น  

 SRICHAND Super C Brightening Intense Serum เซรั่มอัพผิวกระจ่างใส

สกินแคร์ทรงประสิทธิภาพ ใหม่ล่าสุด! จากศรีจันทร์

ศรีจันทร์ (SRICHAND) แบรนด์เครื่องสำอางที่อยู่เคียงข้างคนไทยมานาน 74 ปี และเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางสำหรับผิวของคนไทยอย่างแท้จริง ด้วยความมุ่งมั่นและทุ่มเทในการค้นคว้าวิจัยเชิงลึกเพื่อให้มั่นใจว่าทุกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้แบรนด์ศรีจันทร์ จะสามารถเติมเต็มทุกความต้องการของผิวคนไทยได้อย่างลงตัวที่สุด  ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาศรีจันทร์เน้นย้ำถึงการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความเชื่อ ความมุ่งมั่นของแบรนด์ในเรื่องคำนึงถึงความต้องการของลูกค้า  ยกให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางในการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อเป้าหมายสูงสุดคือการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้แก่คนไทย เพราะเชื่อว่าการดูแลผิวทุกประเภท ไม่ว่าจะอยู่วัยใดสิ่งสำคัญในขั้นตอนการดูแลผิวเพื่อให้ผิวแลดูกระจ่างใสและสุขภาพดี  คือการเติมสารอาหารให้ผิวด้วยวิตามินซี ดังนั้นหากมีเซรั่มวิตามินซี ที่ปลอดภัยและทรงประสิทธิภาพ ก็จะเป็นพื้นฐานที่จำเป็นในการช่วยแก้ปัญหาผิวต่างๆ ได้ ล่าสุดจึงได้รังสรรค์ SRICHAND Super C Brightening Intense Serum เซรั่มวิตามินซี เนื้อแอมพูลเข้มข้น มอบผิวหน้าดูกระจ่างใส ไบรท์ขึ้น ช่วยกู้ผิวหน้าที่หมองคล้ำเสียจาก ฝ้า กระ และจุดด่างดำ อันมาจากแสงแดด ฟื้นฟูให้กลับกระจ่างใสขึ้น ผสานพลังจาก Vitamin C + Super Fruit (Sea Buckthorn) ซึ่งมีปริมาณวิตามินซีสูงกว่าส้มถึง 10 เท่า ช่วยบำรุงล้ำลึกเป็นพิเศษ แต่ทว่าเบาสบาย ไม่เหนอะผิว มี 2 ขนาดให้เลือก ประกอบด้วย แบบขวด ขนาด 30 ml. ราคา 399 บาท และแบบซอง ขนาด 10 มล. ราคา 39 บาท สามารถหาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ 7-Eleven (เฉพาะแบบซอง), Watsons, EVEANDBOY, Beautrium, Konvy หรือดูข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ https://www.1948beauty.com/th/shop/products

ประเด็นต่อภาพรวมธุรกิจความงามของไทยหลังโควิดคลี่คลายนั้น รวิศสะท้อนมุมมองดังกล่าวว่า “จากการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด ทำให้เฟืองจักรสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศทั้งเรื่องส่งออกและท่องเที่ยวเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง ส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเริ่มส่งสัญญาณบวกมากขึ้น  ผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติ กลับมาใส่ใจดูแลสุขภาพ ภาพลักษณ์ต่างๆ ของตัวเองมากยิ่งขึ้นทำให้ตลาดความงามกลับมาคึกคักอีกครั้ง กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของศรีจันทร์ก็เป็นสินค้าที่มีราคาเหมาะสมกับกำลังซื้อของผู้บริโภค ทั้งยังคำนึงถึงคุณสมบัติและความปลอดภัยของผู้บริโภคด้วย จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่ายมากขึ้น นอกจากนี้ เมื่อโลกกลับมาเปิดอีกครั้ง ศรีจันทร์จึงมองเห็นโอกาสที่นอกจากจะรุกตลาดในประเทศแล้ว ยังต้องการขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศด้วย ปัจจุบันศรีจันทร์มีสินค้าในกลุ่ม Base Make Up จำหน่ายในประเทศต่างๆ อาทิ ญี่ปุ่น จีน และ CLMV ซึ่งได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี หากการขยายตลาดในกลุ่มสกินแคร์เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ การส่งออกผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ไปยังต่างประเทศก็เป็นแผนในอนาคตของบริษัทฯ ที่จะพร้อมขับเคลื่อนให้เกิดการเติบโตทางธุรกิจด้วยเช่นกัน” ซีอีโอ ศรีจันทร์ เผยถึงแผนสร้างการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต