Edu-Tech เส้นทางที่ยั่งยืนของ เอส พี วีไอ : Thailand Top Company Awards 2020 : รางวัล BEST GROWTH STRATEGY OF THE YEAR AWARD

“เราจะมุ่งเน้นไปที่ตลาดการศึกษาเป็นตลาดหลัก และเป็นตลาดที่ เอส พี วี ไอ มีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาแม้ตลาดนี้จะให้ผลตอบแทนช้ากว่าช่องทางอื่น ๆ แต่เมื่อทำสำเร็จจะสามารถสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับเราได้มากกว่าช่องทางอื่น ๆ”


หนึ่งในบริษัทที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งตลอด 3 – 4 ปีที่ผ่านมา ทั้งในแง่รายได้รวมและกำไรสุทธิ หากให้ลองหาในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทยดู ก็เชื่อว่าต้องมี บริษัท เอส พี วี ไอ จำกัด (มหาชน) (ผู้แทนจำหน่ายสินค้า Apple ที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ) อยู่ในนั้นแน่นอน ไตรสรณ์ วรญาณโกศล กรรมการผู้จัดการ บอกว่า ปีที่ผ่านมา เอส พี วี ไอ เติบโตในแง่ยอดขายขึ้นถึง 39% อยู่ที่ 3,609 ล้านบาท และกำไรสุทธิโตขึ้น 67% อยู่ที่ 75 ล้านบาท ในปี 2019 ถือเป็น New High ของบริษัท

ทิศทางการเติบโตจากนี้ ไตรสรณ์ บอกว่า “เราต้องการที่จะมุ่งเน้นไปที่ตลาดการศึกษาเป็นตลาดหลัก และเป็นตลาดที่ เอส พี วี ไอ มีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาแม้ตลาดนี้จะให้ผลตอบแทนช้ากว่าช่องทางอื่น ๆ แต่เมื่อทำสำเร็จจะสามารถสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับเราได้มากกว่าช่องทางอื่น ๆ เพราะการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญ พ่อแม่ทุกคนอยากให้ลูกได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ และไม่มีอะไรจะดีกว่าการลงทุนให้กับลูกในด้านการศึกษา ยิ่งภายใต้สภาวะแวดล้อมในปัจจุบันที่การแข่งขันสูงมาก การติดอาวุธทางปัญญาให้กับลูกยิ่งมีแต่จะเพิ่มขึ้นตลอดเวลา” ซึ่งสอดคล้องไปกับประชากรที่เกิดน้อยลง พ่อแม่ยิ่งสามารถทุ่มเงินที่มีได้อย่างเต็มที่ และการศึกษาไม่มีวันหยุด เพราะอย่างไรก็มีคนเกิด เมื่อมีคนเกิดก็ต้องเรียนหนังสือ นั่นทำให้เราสามารถสร้างรายได้จากตรงนี้ได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว

ส่วนรายได้ของ เอส พี วี ไอ ที่ส่วนใหญ่มาจากการเป็นตัวแทนขายสินค้าของ Apple เป็นหลักกว่า 90% ซึ่งตรงนี้นักลงทุนอาจมองเป็นความเสี่ยง ไตรสรณ์มองว่า “เราได้ไปจับมือกับ AIS เพิ่มเติมเพื่อขยายการขายสินค้าแบรนด์อื่น ๆ อย่าง Samsung, Huawei และอื่น ๆ เพื่อเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ แต่สิ่งที่จะเป็นหัวใจของการเติบโตจากนี้ที่แท้จริงของเรา คือการสร้าง Customer Experience อย่างเช่น โรงเรียนที่เราขายสินค้าให้ เราไม่ได้อยู่ดี ๆ เดินเข้าไปหาเขาแล้วบอกสเปกของและราคาแล้วจบ แต่เราถ่ายทอด DNA ของ เอส พี วี ไอ เข้าไปด้วยเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเรา ซึ่งตรงนี้จะเชื่อมโยงไปถึงรายได้ส่วนต่าง ๆ ที่จะตามมาในอนาคต นั่นก็คือห้องเรียนอัจฉริยะ

ส่วนแผนระยะยาวจากนี้ ไตรสรณ์คิดว่าเป็นการยากที่จะวางแผนระยะยาวในปัจจุบัน เพราะอะไร ๆ ก็ไม่แน่นอน ทำให้กลยุทธ์ของเราในปัจจุบันจริง ๆ คือการปรับตัวตลอดเวลา