ปีนี้เกือบทุกองค์กรพูดถึงการทรานฟอร์มเพื่อหลีกหนีตัวปัญหาใหญ่คือ การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน หรือ Disruption เพราะเราไม่รู้ว่าในอนาคต ธุรกิจของเราจะพุ่งหรือฟุบ…!!
แต่อย่างน้อย อีกหนึ่งกรณีศึกษาที่อยากมาบอกเล่าคือ บมจ. สกาย ไอซีที หรือ SKY ที่โชว์ผลงานเด่นมาก ๆ จนสถานะตอนนี้ SKY มีมูลค่าสูงที่สุดในกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหลักทรัพย์ MAI
SKY จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI เมื่อเดือนกันยายน ปี 2557 ออก IPO แรกมูลค่าราว 600 ล้านบาท ซึ่งในช่วงแรก SKY ดำเนินธุรกิจแบบ B2G เน้นกับ 3 กลุ่มธุรกิจสำคัญ ประกอบด้วย 3 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่
1.Smart Security ให้บริการโซลูชันด้านการรักษาความปลอดภัย รวมถึงให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหา และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารที่มีความสำคัญ
หากพูดให้เห็นภาพชัด ๆ ก็คือ ขายระบบกล้องวงจรปิด (CCTV Solution) ระบบจดจำใบหน้า (Face Recognition) ระบบควบคุมการเข้าออก (Access Control) รวมไปถึงระบบความปลอดภัยด้านเครือข่ายขององค์กร (Cyber Security Solution) เพื่อลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามต่าง ๆ เช่น ไวรัสคอมพิวเตอร์ หรือจากแฮคเกอร์ (Hacker)
2.Digital Platform เป็นผู้ให้บริการพัฒนาระบบสื่อสารออนไลน์ (Application) สำหรับหน่วยงานหรือองค์ทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น การพัฒนาระบบ AOT Airports Application ให้กับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
และ 3.Digital Trunk Radio หรือ วิทยุสื่อสารดิจิทัล ให้บริการจัดหาเครื่องรับ-ส่งวิทยุระบบดิจิทัล สามารถรองรับการใช้งานในระบบโครงข่ายการสื่อสารที่ทันสมัย
ช่วงแรกของธุรกิจ รายได้ของ SKY ไม่ได้หวือหวามากนัก เพราะจับตลาดกลุ่มภาครัฐที่ต้องรองบเบิกจ่าย แต่ด้วยมุมมองใหม่ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา SKY หันมาเน้นตลาด B2B2C คือ นำสินค้าทั้ง 3 กลุ่ม เชื่อมโยงไปหาลูกค้าทั่วไป หรือหากลุ่มลูกค้าองค์กรที่ต้องการใช้บริการแบบ Consumer ทั่ว ๆ ไปมากขึ้น
ด้วยวิธีคิดแบบใหม่นี้ ทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตแบบก้าวกระโดด ล่าสุดผลงานของ SKY ปีนี้ น่าจะจบราว 3,500 ล้านบาท และพีคที่สุดเมื่อดูผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้ถึง 3,452.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,643.05 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 327% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มีกำไรสุทธิ 251.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 139.34 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 124% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 112.6 ล้านบาท
‘สิทธิเดช มัยลาภ’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SKY ยังบอกด้วยว่า ปี 2562 บริษัทจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 3,500 ล้านบาท ขณะที่ปี 2563 คาดว่าจะมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 50% จากปีนี้ โดย SKY ใช้เวลาเพียง 5 ปี ไต่ระดับจากบริษัทฯ น้องใหม่ในตลาด มาเป็นดาว (สมชื่อ SKY) ดวงใหม่
มุมคิดใหม่ของ SKY บอกอะไรกับเรา ?
“ธุรกิจในอนาคตของ SKY จะเติบโตและโดดเด่นตามเทคโนโลยี”
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่